OPPO Find Muse
OPPO เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ส่งโทรศัพท์มือถือมาจำหน่ายในตลาดจนเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์โฟนหน้าตาน่ารัก ฟีเจอร์โฟนในราคาย่อมเยา สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับสูง เนื่องจากหลายรุ่นเปิดตัวในราคาที่พอเหมาะ สามารถหาซื้อจับจองเป็นเจ้าของได้โดยง่าย และมีสมาร์ทโฟน 2 ซิมออกมาให้ใช้ด้วย ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ก็มีแอนดรอยด์สมาร์ทโฟน 2 ซิมอย่าง OPPO Find Muse สมาร์ทโฟนเครื่องเล็ก พกพาง่าย มีสีขาวสวย เพิ่มความเท่ด้วยปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดเครื่องสีส้ม แต่หลายคนอาจแยกไม่ออกระหว่างรุ่นนี้กับ OPPO Find Melody เพราะมีหน้าตาคล้ายคลึงกันมาก แต่มีจุดสังเกตที่แตกต่างกันที่โลโก้ OPPO ด้านหลัง ตำแหน่งช่องหูฟัง และตำแหน่งร่องแกะฝาหลัง รุ่นนี้อยู่ในตลาดระดับล่าง แต่มีสเปคที่ครบครันทีเดียว มีทั้งซีพียูดูอัลคอร์ 1.2 กิกะเฮิร์ตซ์ แรม 512 เมกะไบต์ รันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.2 เจลลี่บีน จากการทดสอบการใช้งาน พบว่าลื่นไหลพอควร แต่ถ้าใช้งานหลายแอพฯ พร้อมๆ กัน เครื่องจะมีอาการค้างหรือหน่วงบ้าง เนื่องจากแรมที่มีให้ในเครื่องน้อยเกินไป แต่ถ้าใช้งานทั่วๆ ไป ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
OPPO Find Muse มีหน้าจอความละเอียด 480 x 800 พิกเซล ขนาด 4 นิ้ว มีขนาดเล็กหากใช้งานเปิดเว็บ รับชมวิดีโอ หรือต้องใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน จุดเด่นของรุ่นนี้ชวนทำให้นึกถึง OPPO Find Clover ที่วางจำหน่ายไปแล้ว ด้วยหน้าจอล็อคสกรีนที่มีลักษณะดึงแผ่นซีดีออกจากซอง ในหน้าโฮม มีเครื่องเล่นเพลงมาให้ 1 หน้า กดเล่นเพลงได้ทันที พร้อมเมนูเครื่องเล่นเพลงและเครื่องเล่นวิดีโอพร้อมสรรพ ชูจุดเด่น เน้นความบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยม แต่อินเตอร์เฟซยังสามารถปรับแต่งได้ง่าย และปรับเปลี่ยนธีมสี ไอคอนได้เยอะตามแบบสมาร์ทโฟนจาก OPPO
Physical Overview
OPPO Find Muse มาพร้อมกับหน้าจอแบบ IPS ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล แสดงผล 16 ล้านสี มีกล้องดิจิตอลตัวรองความละเอียดวีจีเอและลำโพงสนทนาเหนือจอภาพ ใต้จอภาพ มีปุ่มแบบสัมผัสเรียงกัน 3 ปุ่ม เป็นปุ่มออพชั่น ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านซ้าย เป็นแถบสีเงินคาดรอบเครื่องตัดกับตัวเครื่องสีขาว มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องและใช้ล็อค-ปลดล็อคหน้าจอสีส้ม เพิ่มสีสันและความสวยงามให้ตัวเครื่อง
ทางขวาของเครื่อง มีลักษณะเดียวกับทางซ้าย มีขอบเครื่องสีเงินตัดกับตัวเครื่องสีขาวและปุ่มสีส้ม แต่ปุ่มนี้มีหน้าที่ปรับระดับความดังของเสียง
ด้านบน มีเพียงช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. เท่านั้น สามารถนำหูฟังใดก็ได้มาใช้งานได้ทันที
ส่วนด้านล่าง มีร่องสำหรับแกะฝาหลัง ช่องไมโครโฟน พอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และร่องสำหรับแกะฝาหลัง
ด้านหลังของเครื่อง มีเพียงกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และลำโพงมัลติมีเดียด้านล่างของตัวเครื่อง ฝาหลังเป็นพลาสติกแบบด้าน กันลื่น จับกระชับมือ
เมื่อแกะฝาหลังออกมา จะเจอกับแบตเตอรี่ขนาด 1,700 มิลลิแอมป์ ช่องใส่ซิมการ์ดขนาดปกติ ช่องใส่ไมโครซิมการ์ด และช่องใส่หน่วยความจำภายนอกแบบไมโครเอสดีการ์ด
Camera
ส่วนของกล้องดิจิตอล รุ่นนี้มีมาให้ที่ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียดเอชดี (1280 x 720) และกล้องตัวรองความละเอียดวีจีเอ พบว่ากล้องของรุ่นนี้ขาดส่วนสำคัญไปหลายอย่าง ทั้งไม่มีแฟลช ไม่มีระบบออโต้โฟกัส แต่แตะจอเพื่อถ่ายภาพได้ ในเมนูมีการปรับแต่งน้อยไปนิด มีโหมดกลางคืน จับภาพเคลื่อนไหว โหมด Rewind สำหรับเลือกใบหน้าที่ดีที่สุดเวลาถ่ายรูปหมู่ จากการทดสอบถ่ายภาพ พบว่ารุ่นนี้ให้ภาพถ่ายที่ไม่ดีเท่าไรนัก ไม่มีแฟลชช่วยทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยลำบาก และถ่ายภาพในระยะใกล้ไม่ชัดด้วย เพราะไม่มีระบบออโต้โฟกัส เหมาะกับการถ่ายกลางแจ้งหรือถ่ายระยะไกล ไม่ก็ใช้งานถ่ายภาพเล่นๆ ไม่จริงจัง และมีกล้องโลโม่แยกมาให้ มีฟิลเตอร์ให้เลือกเล่นหลายแบบ แต่ถ้าอยากได้ลูกเล่นมากกว่านี้ คงต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกล้องอื่นๆ
Entertainment
OPPO Find Muse มีจุดเด่นที่หน้าโฮมสกรีนที่จัดให้เป็นเครื่องเล่นเพลง เข้าเมนูเพลงและวิดีโอได้ทันที แต่เมื่อเข้าเมนูเครื่องเล่นเพลง พบว่าการตั้งค่ายังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับเครื่องเล่นเพลงในโทรศัพท์ทั่วไป มีเพียงการเล่นเพลงซ้ำ สุ่มเพลง จัดรายการเพลง ตั้งเวลาปิดเพลง เปลี่ยนสกิน และสวิง สำหรับใช้เขย่าเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลง ไม่มีการตั้งอีควอไลเซอร์หรือเมนูปรับความไพเราะของเสียงเพลงใดๆ การใช้งานวิดีโอของรุ่นนี้ สามารถรับชมวิดีโอได้ลื่นไหลดีหากเป็นไฟล์ที่มีความละเอียดต่ำ หากใช้วิดีโอความละเอียดสูงๆ ระดับ Full HD จะเห็นชัดว่ากระตุก ปรับแสงหน้าจอได้ เล่นวิดีโอซ้ำ แสดงข้อความบรรยาย (ซับไตเติ้ล) ได้ และมีจุดเด่นที่คาดไม่ถึง คือ สามารถย่อจอเพื่อใช้ดูเป็นจอเล็กและใช้งานเมนูอื่นไปด้วยได้! แต่พบว่าการใช้งานย่อจอภาพรุ่นนี้มีอาการหน่วง ยังไม่เหมาะใช้งานจริงจังเท่าไหร่ นอกจากนี้ มีวิทยุเอฟเอ็มติดเครื่องมาด้วย อาศัยหูฟังเป็นเสาอากาศเช่นเคย
Connectivity
เรื่องการเชื่อมต่อที่ต้องพูดถึงของรุ่นนี้คือ การใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้ได้ทั้งซิมขนาดปกติและไมโครซิม ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่ายและใช้ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด และมีการเชื่อมต่ออื่นๆ ครบ มี Wi-Fi มี DLNA ติดมาด้วย การใช้งานนำทางด้วยแผนที่กูเกิ้ลแมพ และจีพีเอสก็ยังอยู่ รุ่นนี้อ่านไฟล์เอกสารได้ด้วย แต่ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม หรืออยากจะจดบันทึก รุ่นนี้ก็มีให้ แถมยังรองรับการจดบันทึกด้วยลายมืออีกด้วย แต่รุ่นนี้ไม่มีปากกาสไตลัสมาให้ เพราะไม่ได้เน้นในเรื่องของการจดงานบนโทรศัพท์สักเท่าไหร่
Final Opinion & Conclusion
OPPO Find Muse รุ่นนี้ถึงจะจิ๋ว แต่ก็แจ๋วไม่ใช่น้อย มาพร้อมกับแอนดรอยด์ 4.2.2 เจลลี่บีน ซีพียูดูอัลคอร์ 1.2 กิกะเฮิร์ตซ์ เน้นความบันเทิงด้วยเครื่องเล่นเพลงบนหน้าโฮมสกรีน รับชมวิดีโอไปพร้อมๆ กับใช้งานเมนูอื่นได้ด้วย มีกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซลมาให้ ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับเอชดี แถมรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มี 3G, Wi-Fi, DLNA ใช้ลายมือจดบันทึกก็ได้ ทั้งหมดนี้ ในราคา 4,990 บาท เท่านั้น ใครที่ต้องการแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ใช้งาน 2 ซิมไว้ใช้งานทั่วไปหรือเป็นเครื่องสำรอง แต่ได้ฟีเจอร์หลากหลาย คุ้มราคา ขอให้มองเจ้า OPPO Find Muse นี้ไว้ แล้วลองไปสัมผัสตัวจริงที่ตัวแทนจำหน่ายได้เลย
Strength
– ระบบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.2 เจลลี่บีน
– ซีพียูดูอัลคอร์ 1.2 กิกะเฮิร์ตซ์
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– กล้อง 3 ล้านพิกเซล, ถ่ายวิดีโอเอชดี,กล้องหน้าวีจีเอ
– รองรับ Wi-Fi, 3G, DLNA
– รองรับ 3G ครบทุกค่าย
– รับชมวิดีโอพร้อมกับใช้งานอื่นๆ ได้
Weakness
– แรม 512 เมกะไบต์เท่านั้น
– กล้องดิจิตอลไม่มีแฟลชและออโต้โฟกัส
– เครื่องเล่นเพลงไม่มีอีควอไลเซอร์
รูปตัวเครื่อง OPPO Find Muse
รูปหน้าจอ OPPO Find Muse