คุณธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ว่า ซีพีออลล์ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกชื่อดังในประเทศไทยอย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) เตรียมพร้อมที่จะให้บริการธุรกรรมทางธนาคารผ่านหน้าร้านเซเว่นฯ กว่าหนึ่งหมื่นสาขาทั่วประเทศ
ถอนเมื่อไหร่ก็แวะมา! 7-Eleven เมืองไทยเตรียมให้บริการธุรกรรมทางธนาคาร
“เรากำลังรอคอยใบอนุญาต เพื่อเป็นตัวแทนของธนาคารพาณิชย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย” คุณธานินทร์กล่าวเพิ่ม “ซีพีออลล์กำลังอยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะให้บริการใหม่ๆ ในสังคม”
หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีคำสั่งแก้ไขกฏระเบียบในเดือนมีนาคม ทางบริษัทได้พยายามที่จะเป็นตัวแทนของธนาคารพาณิชย์หนึ่งแห่งหรือมากกว่านั้น ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถแต่งตั้งนิติบุคคล เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนและดำเนินธุรกรรมต่างๆเช่น เงินฝาก ถอนเงิน และการสั่งจ่ายด้วยเช็ค ซึ่งในก่อนหน้านี้ มีแต่ไปรษณีย์ไทยเท่านั้นที่ได้รับการแต่งตั้งจากธนาคารพาณิชย์ ให้เป็นตัวแทนทำธุรกรรมทางการเงินโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่รวมบริการสินเชื่อและลูกค้าสามารถถอนเงินสดได้ไม่เกิน 20,000 บาท
ลูกค้าในพื้นที่ชนบทจะเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้นผ่านทางเซเว่นฯ ที่มีมากถึง 10,268 สาขาทั่วประเทศ (ข้อมูลจากปี 2017) เซเว่นฯ เป็นร้านสะดวกซื้อทีมีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีลูกค้าเข้าร้านมากถึง 11.8 ล้านคนต่อวัน เป็นเครือขายเซเว่นฯ ที่มีมากเป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่น
ซีพีออลล์มีเป้าหมายที่จะขายาสาขาเพิ่มเติม โดยเน้นสาขาที่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันมีสาขาที่มากถึง 56% เมื่อเทียบกับสาขาทั้งหมดในประเทศ นอกจากนี้ทางบริษัทยังหวังว่าจะเปิดอีก 700 สาขา เพื่อให้ครบ 13,000 สาขา ภายในปี 2021
ในขณะเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์รวมทุกเจ้ามีมากถึง 6,724 สาขา (ข้อมูลจากเดือนพฤษภาคม) โดยอ้างอิงจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มในการเปิดสาขาใหม่ๆ ที่น้อยลง หรือลดจำนวนสาขาลงเนื่องจากการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนที่มากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งธนาคารรายใหญ่อันดับสามของประเทศอย่างธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ก็ประกาศว่าจะปิดบางสาขาลงให้เหลือเพียงแค่หนึ่งในสาม ภายในสามปีข้างหน้า