ทุกวันนี้บรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างๆ ก็เริ่มสร้างจุดดีจุดเด่นของตัวเอง แตกต่างกันไปตามรุ่นตามยี่ห้อ ก็เพื่อที่จะสร้างยอดขายให้แก่บริษัทเหล่านั้นนั่นเอง และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานอีกด้วย โดยเฉพาะฟังก์ชั่นหรือระบบต่างๆ แบบเดียวกันลักษณะคล้ายกัน ที่ถูกผลิตมาให้มีสองฟังก์ชั่นหรือมากกว่า ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอนำเสนอ Smartphone รุ่นแรกที่มีระบบต่างๆ มากกว่าสองขึ้นไป มีรุ่นไหนบ้าง หากพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยครับ
Smartphone ที่มีฟังก์ชั่นมากกว่าสองขึ้นไป มีรุ่นไหนบ้าง?
LG Optimus 2X : สองแกนสมอง
LG Optimus 2X คือสมาร์ทโฟนสองแกนสมองรุ่นแรกของโลก ที่วางขายทั่วโลกอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 25 มกราคม 2011 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android นอกจากนี้ ยังใช้ชิปเซ็ตสองแกนสมองที่ถือว่าแรงมากและแสดงผลสามมิติได้ดีสุดๆ อย่าง NVIDIA Tegra 2 อีกด้วย (แต่ก็กินแบตเตอรี่เอาเรื่อง)
LG Optimus 4X HD : สี่แกนสมอง
หลังจากที่แอลจีเคยออกสมาร์ทโฟนสองแกนสมองอย่าง Optimus 2X ไปแล้ว คราวนี้ก็กลับมาอีกครั้งในร่างของ Optimus 4X HD ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตสี่แกนสมองค่ายเขียวอย่าง NVIDIA Tegra 3 ที่ความเร็ว 1.5 GHz หน่วยความจำทั้ง ROM 16 GB และ RAM 1 GB และเป็นรุ่นแรกๆ ของแอลจี ที่ใช้หน้าจอขนาด HD (1280 x 720)
Samsung Galaxy Note 3 Neo : หกแกนสมอง
ขนาดยี่ห้ออื่นยังทำสมาร์ทโฟนชิปเซ็ตหลายแกนเป็นเจ้าแรก แล้วซัมซุงที่ทำชิปเซ็ต Exynos เองกับมือ จะพลาดสถิตินี้ไปได้อย่างไร ซึ่ง Galaxy Note 3 Neo มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 5260 แบบหกแกน ความเร็ว 1.3 GHz, ROM 16 GB, RAM 2 GB เนื่องจากสเป็ครุ่นนี้ต่ำกว่า Note 3 จึงทำให้มีราคาถูกพอสมควร สำหรับรุ่นที่ขายในไทยนั้นเป็นรุ่น 2 SIM ด้วย (DUOS) จึงเป็นที่นิยมสำหรับสาวไทยที่ชอบใช้ S-Pen พอสมควร
Alcatel Idol X+ : แปดแกนสมอง
สำหรับสมาร์ทโฟนอัลคาเทล เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่เคยมาทำตลาดในไทยอยู่พักหนึ่ง ซึ่งรุ่น Idol X+ ใช้ชิปเซ็ตแปดแกนสมอง Mediatek MT6592 2.0 GHz, ROM 16 GB/ 32 GB, RAM 2 GB แม้ว่าหน่วยความจำจะไม่ได้เยอะมาก แต่อย่างน้อย การที่ Idol X+ ใช้ชิปเซ็ตแบบแปดแกนเป็นครั้งแรก ก็ทำให้ใครหลายๆ คนเริ่มจดจำยี่ห้ออัลคาเทลได้ไม่มากก็น้อยนั่นเอง
Meizu Pro 6 : สิบแกนสมอง
ปกติแล้วมักจะมีแต่แบรนด์เกาหลีเป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำชิปเซ็ตหลายแกน แต่สำหรับแบรนด์จีนอย่าง Meizu ก็ไม่พลาดที่จะทำสมาร์ทโฟนสิบแกนสมองเช่นกัน Meizu Pro 6 ใช้ชิปเซ็ตสิบแกน MediaTek Helio X25 ความเร็ว 2.5 GHz, ROM 32/64 GB, RAM 4 GB และที่เด่นไปกว่านั้นคือ ใช้ไฟแฟลชแบบวงแหวน ทำให้ภาพที่ได้สว่างแบบพอดีๆ ไม่ขาววอกจนเกินไปอีกด้วย
HTC Evo 3D : กล้องหลังสองตัว
ย้อนกลับไปในปี 2011 HTC เป็นผู้ผลิตเจ้าแรกที่ทำสมาร์ทโฟนกล้องหลังสองตัวก่อนใครในรุ่น Evo 3D ซึ่งมาพร้อมกับจุดเด่นอย่างกล้องคู่ขนาด 2 ล้านพิกเซล เพื่อประโยชน์ในการถ่ายภาพสามมิติเป็นหลัก และยังมาพร้อมกับหน้าจอที่รองรับการแสดงผลภาพถ่ายแบบ 3 มิติ เพื่อให้ภาพถ่ายที่ได้นั้นสมจริงอย่างที่ตาเห็น นอกจากนี้ยังใช้ชิปเซ็ตแบบ dual-core 1.2 GHz และ RAM 1 GB
Huawei P20 Pro : กล้องหลังสามตัว
ไม่ต้องอธิบายอะไรมากสำหรับหัวเว่ย P20 Pro ที่เรารู้จักกันดี มาพร้อมกับกล้องหลังสามตัว ซึ่งประกอบด้วย เลนส์ Telephoto (8 MP), RGB (40 MP) และ Monochrome (20 MP) ส่วนชิปเซ็ตยิ่งไม่ต้องพูดถึง ใช้ตัวท็อปสุดของตระกูลคิรินอย่าง Kirin 970 นอกจากนี้ ยังรองรับการอัพเดต GPU Turbo ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลกราฟิกได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย
Lenovo Vibe S1 : กล้องหน้าสองตัว
สมาร์ทโฟนไม่ได้มีแต่กล้องหลังคู่อีกต่อไป เมื่อพบกับการมาของ Lenovo Vibe S1 เอาใจคอเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าคู่ครั้งแรก ขนาด 8+2 ล้านพิกเซล เพื่อประโยชน์ในการเซลฟี่แบบโบเก้ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนสเป็คก็แรงพอสมควร กับชิพเซ็ต MediaTek 6752 ความเร็ว 1.7 GHz, RAM 3 GB, ROM 32 GB ส่วนกล้องหลังก็เป็นกล้องตัวเดียวขนาด 13 ล้านพิกเซลเท่านั้นเอง!
Alcatel Flash : กล้องหน้าสองตัว และกล้องหลังสองตัว
เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนของอัลคาเทล ที่วางขายในไทยแล้วมีผลตอบรับที่ดีพอสมควร มาพร้อมกับกล้องหลังคู่แบบ RGB (13 MP) + Monochrome (13 MP) และกล้องหน้าคู่ขนาด 13+8 MP จะถ่ายโบเก้ด้วยกล้องหน้าหรือเซลฟี่ด้วยกล้องหลังก็ไม่มีปัญหา ส่วนสเป็คภายในที่ให้มาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ด้วยชิพเซ็ตแบบสิบแกนสมอง Mediatek Helio X20 2.3 GHz, ROM 32 GB, RAM 3 GB ที่ถือว่าแรงพอสมควรในยุคนั้น
Kyocera Echo : สองหน้าจอ
เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ชาวอาทิตย์อุทัยรู้จักกันดีอย่างเคียวเซร่า ที่ส่งรุ่น Echo พร้อมกับสองหน้าจอเป็นครั้งแรกในปี 2011 เพื่อประโยชน์ในการใช้งาน Multitask หรือใช้หน้าจอล่างเป็นคีย์บอร์ดเพื่อใช้แชทโดยไม่ต้องกลัวคีย์บอร์ดมาบดบัง หากดูเผินๆ ตอนเปิดหน้าจอออกมาก็ละม้ายคล้ายคลึงกับ Nintendo DS ยังไงยังงั้น นอกจากนี้ ยังใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 และชิปเซ็ตตความเร็ว 1 GHz อีกด้วย
ก็จบกันไปแล้วกับบทความ Smartphone รุ่นแรกที่มีระบบต่างๆ มากกว่าสองฟังก์ชั่นขึ้นไป และสำหรับใครที่อยากติดตามบทความดี ๆ หรือข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลยครับ