ว่าด้วยเรื่องของการ ถนอมแบตมือถือ ปกติแล้วจะอยู่ที่พฤติกรรมของผู้ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนก็ใช้งานไม่เหมือนกัน บางคนว่างเป็นเสียบชาร์จให้เต็มตลอด บางคนใช้งานหนักจนลืมชาร์จแบต ปล่อยให้มือถือแบตหมดบ่อยๆ ก็มี ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ทำร้ายแบตเตอรี่กันทั้งนั้น วันนี้เรามีแอพฯ ที่จะช่วยเตือนในเรื่องของการชาร์จแบตมือถือไม่ให้เสื่อมเร็วมากฝากกัน
ถนอมแบตมือถือ ด้วยแอพฯ AccuBattery
ในเมื่อพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นตัวช่วยที่จะมาช่วยให้เราใช้แบตเตอรี่ได้นานๆ คือแอพฯ AccuBattery ที่สามารถเตือนให้เราชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับที่กำหนด ซึ่งหากเราชาร์จเต็มเกินไปก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว และหากเราใช้จนแบตเตอรี่ระดับต่ำเกินไปก็จะทำให้แบตเสื่อมเร็วได้ด้วยเช่นกัน ว่าแล้วก็ดาวน์โหลดแอพฯ AccuBattery มาติดเครื่องได้เลยที่ลิงค์นี้ AccuBattery
ก่อนที่จะใช้งาน เราขอแนะนำคำศัพท์ที่จะพบในแอพฯ นี้คือ
Cycles หมายความว่าจำนวนรอบในการชาร์จแบตเตอรี่ ยกตัวอย่างเช่น หากเราชาร์จแบตจาก 0% จนเต็ม 100% จะครบ 1 รอบ หรือ 1 Cycle หากแบตเตอรี่เต็ม 100% ใช้งานไปเหลือ 70% แล้วชาร์จเต็ม จะนับเป็น 0.3 Cycle และหากใช้ไปเหลือ 30% แล้วนำไปชาร์จเต็มจะนับเป็น 0.7 Cycle โดยจำนวน Cycle นี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแบตเตอรี่ หากเซลล์แบตคุณภาพดีอาจจะชาร์จได้ถึง 500 Cycles ก่อนจะเริ่มเสื่อมตามการใช้งาน
ส่วนเมนูที่เราจะมาแนะนำนี้คือ Charging อย่างที่กล่าวไปแล้วเมื่อข้างต้นว่าแบตเตอรี่ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ หากชาร์จจนเต็มเกินไปก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น ซึ่งในเมนูนี้จะมีให้เราเลือกว่าจะหากชาร์จแบตเตอรี่ระดับไหน แบตจะเสื่อมเร็วขึ้นเท่าใด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30% แล้ว……
ชาร์จแบตเตอรี่ไปที่ระดับ 60% แบตเตอรี่จะเสื่อม 0.04 Cycle
ชาร์จแบตเตอรี่ไปที่ระดับ 70% แบตเตอรี่จะเสื่อม 0.08 Cycle
ชาร์จแบตเตอรี่ไปที่ระดับ 80% แบตเตอรี่จะเสื่อม 0.20 Cycle
ชาร์จแบตเตอรี่ไปที่ระดับ 90% แบตเตอรี่จะเสื่อม 0.42 Cycle
ชาร์จแบตเตอรี่ไปที่ระดับ 99% แบตเตอรี่จะเสื่อม 0.84 Cycle
ชาร์จแบตถึงระดับไหนเหมาะสมที่สุด
จะเห็นจากตัวอย่างได้ว่าเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30% แล้วชาร์จไปที่ 60% จะทำให้แบตเสื่อมน้อยที่สุด และหากชาร์จจนเต็ม 100% แบตจะเสื่อมมากที่สุดเท่ากับการชาร์จเกือบ 1 Cycle เรียกได้ว่ายิ่งชาร์จเต็มเท่าไหร่ตัวเลขก็ยิ่งทวีคูณเลยทีเดียว
แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากชาร์จไปที่ 60% แล้วถอดปลั๊กออก ไม่สามารถใช้งานได้เต็มวันแน่นอน สร้างความลำบากในการหาที่ชาร์จ หรือพก Powerbank กันทั้งวันอีกต่างหาก ดังนั้นการชาร์จแบตไปที่ 80% น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด หรือหากคิดว่าต้องอยู่ข้างนอกทั้งวัน ชาร์จเต็ม 100% ไปเลยจะได้ไม่ต้องลำบากหาที่ชาร์จอีก
และเมื่อตั้งระดับแบตเตอรี่ที่ต้องการแล้ว เมื่อชาร์จถึงระดับที่ตั้งไว้ โทรศัพท์จะส่งเสียงเตือนเหมือนตั้งนาฬิกาปลุกให้เราถอดปลั๊ก แต่หากต้องการชาร์จให้เต็มกว่านี้ก็สามารถปิดเตือนนี้ แล้วปล่อยให้เครื่องชาร์จเต็มได้ตามต้องการ แต่มันจะคอยเตือนทุกๆ 5% ที่แบตเพิ่มขึ้น
สรุปส่งท้าย
สำหรับการใช้งานอื่นๆ เราจะไม่ขอพูดถึง เพราะส่วนมากจะคล้ายๆ กับแอพฯ แบตเตอรี่ทั่วๆ ไป คือเอาไว้ดูสถานะ ดูระยะเวลาการใช้งาน และหากเสียเงินซื้อเพิ่มเติมก็จะได้ฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มเข้ามา ส่วนบทส่งท้ายเราขอแบ่งเป็น 2 บทสรุป คือ
บทสรุปแรก สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการถนอมแบตเตอรี่จริงๆ ซื้อเครื่องมาครั้งเดียวอยากใช้ไปนานๆ จนกว่าเครื่องจะพัง แนะนำให้ใช้แอพฯ นี้เลยครับ เพราะหากชาร์จเต็มบ่อยๆ ทุกวันก็จะทำให้แบตเสื่อมเร็วได้ ดังนั้นตั้งให้แอพฯ เตือนที่ 80% เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
บทสรุปที่สอง เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ชอบชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ ชาร์จทีเดียวให้อยู่ได้ทั้งวัน ไม่ชอบพก Powerbank สะดวกชาร์จเมื่อไหร่ก็เสียบเมื่อนั้น และผู้ใช้ที่เปลี่ยนเครื่องบ่อยๆ ปีละครั้ง ไม่แคร์ว่าแบตจะเสื่อมช้าเสื่อมเร็ว อาจจะติดตั้งแอพฯ นี้เพื่อดูสถานะแบตเตอรี่อื่นๆ หรืออาจจะลองเล่นแล้วไม่ชอบ ลบทิ้ง ไม่ต้องติดตั้งเลยก็ได้ ตามแต่ความสะดวกเลยครับ
อย่างไรก็ดี แบตเตอรี่ Li-Ion หรือ Li-Po ไม่ควรใช้จนแบตหมดนะครับ เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็วมากยิ่งขึ้น ท่องให้จำขึ้นใจเลยครับ
ห้ามใช้แบตหมด!! ห้ามใช้แบตหมด!! ห้ามใช้แบตหมด!! ห้ามใช้แบตหมด!!