เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่เรียกเสียงฮือฮาไม่ใช่น้อยกับตัวท็อปแห่งซีรี่ส์ Mate อย่าง Huawei Mate 20 Pro ที่นอกจากจะสะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์สวยเฉียบเนี้ยบหรู ใส่เฉดสีใหม่อย่างสีเขียวเอมเมอรััลด์กรีนที่สร้างเอกลักษณ์แนวใหม่ กล้องสามเลนส์ที่พัฒนาร่วมกับไลก้าที่จัดวางใหม่แตกต่างจาก P20 Pro และอื่นๆ อีกมากมายที่ขอบอกว่า ความประทับใจที่ได้รับจากสัมผัสแรกนั้น เทียบไม่ได้เลยกับประสบการณ์การใช้งานทั้งหมดที่เรียกได้ว่า “สุดยอด” เลยทีเดียว
Huawei Mate 20 Pro Review
Design
ถ้าพูดถึงดีไซน์ของ Huawei Mate ซีรี่ส์ หลายคนน่าจะคิดถึงสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ตัวเครื่องกว้าง ถือเต็มไม้เต็มมือจนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่านี่มือถือใหญ่หรือแท็บเล็ตย่อมๆ กันแน่ แต่ Huawei Mate 20 Pro ได้ปรับเลี่ยนดีไซน์ให้สวยงามยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากหน้าจอแบบขอบข้างโค้ง อัตราส่วน 19.5:9 ขนาด 6.39 นิ้วที่ทำให้ตัวเครื่องเป็นทรงยาวแทน จับถือสะดวกยิ่งขึ้น ตัวเครื่องทำจากวัสดุกระจก 3 มิติที่โค้งรับกับหน้าจอด้านหน้าและอุ้งมือ ที่ทำให้ดูเนี้ยบ เรียบหรูอย่างมีสไตล์ ประกอบกับสีตัวเครื่องอย่างเอมเมอรัลด์กรีนที่ไม่ได้เป็นสีเขียวที่ดูขัดตา จึงทำให้ดีไซน์ภายนอก และการออกแบบของ Mate 20 Pro ดูดี งดงามเป็นอย่างมาก
-
- ปุ่มวอลลุ่มสีเดียวกับตัวเครื่อง และปุ่มพาวเวอร์สีแดงโดดเด่น
-
- กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รองรับ 3D Depth Sensing Camera
-
- ด้านบนมีพอร์ตอินฟราเรดสำหรับใช้งานรีโมตและอื่นๆ
-
- ช่องไมโครโฟน พอร์ต USB Type-C ที่มีลำโพงซ่อนอยู่ และช่องใส่ซิมการ์ด
-
- เพิ่มความพิเศษด้วยช่องใส่ซิมที่ใส่ได้สองด้าน หรือใส่ Nano SD ก็ได้
-
- กล้องสามเลนส์เรียงในกรอบสี่เหลี่ยมสวยงาม พร้อมประทับ Leica
Display
Huawei Mate 20 Pro เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ OLED อัตราส่วน 19.5:9 ขนาด 6.39 นิ้ว มีขอบข้างแบบโค้งทั้งสองด้าน ความละเอียด 1440 x 3120 พิกเซล ใช้อินเตอร์เฟซเมนู EMUI 9.0 ที่เลือกได้ทั้งการแสดงเมนูบนหน้าจอหลักและแยกหน้ารวมเมนูต่างหาก แน่นอนว่าสามารถซ่อนแถบ Notch ด้านบนได้ด้วยสำหรับใครที่ไม่ชอบหน้าจอเว้าแหว่ง ซึ่งการแสดงผลของรุ่นนี้เรียกว่าอยู่ในระดับสุดยอด ทั้งในเรื่องของความคมชัด สีสันที่ดูดี สมจริง ความสว่างที่ไม่จัดจ้านจนเกินไป หน้าจอของเจ้า Mate 20 Pro จะทำให้คุณมีความสุขในการใช้สมาร์ทโฟนได้ไม่ยากเลยล่ะ
Leica Triple Camera & Master AI
ไฮไลต์ที่เด่นที่สุดของรุ่นนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกล้องสามเลนส์ที่จัดวางใหม่ในกรอบสี่เหลี่ยมร่วมกับไฟแฟลช ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ตัวเครื่องดูดีไม่ใช่น้อยเลย มาพร้อมความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (เลนส์มุมกว้าง, รูรับแสง f/1.8) + 20 ล้านพิกเซล (เลนส์มุมกว้างพิเศษ, รูรับแสง f/2.2) และ 8 ล้านพิกเซล (เทเลโฟโต้ รูรับแสง f/2.4) รองรับออโต้โฟกัส ทั้งการโฟกัสแบบเลเซอร์, เฟรมโฟกัส แลพคอนทราสต์โฟกัส รวมถึง AIS ที่ช่วยป้องกันภาพสั่นไหว แต่ความพิเศษยิ่งกว่าก็คือ กล้องและซอฟต์แวร์ภายในยังพัฒนาร่วมกับทางไลก้า แบรนด์กล้องระดับพรีเมียม รวมถึง Master AI ระบบอัจฉริยะที่ตรวจจับวัตถุ ฉาก ส่วนประกอบต่างๆ ของภาพเพื่อเลือกโหมดถ่ายภาพที่เหมาะสม และทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยที่สุด
-
- เลนส์มุมกว้างในระดับปกติ แต่ถ้าตรวจเจอวัตถุสูงมากๆ Master AI จะทำงาน
-
- มุมมองเลนส์กว้าง 0.6x หรือ Super Wide Angle
ระบบการซูมในกล้อง Huawei Mate 20 Pro สามารถซูมภาพแบบออพติคอลได้ 3 เท่า ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า แถมด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษ 0.6x ที่ทำให้เก็บรายละเอียดภาพได้มากขึ้นโดยที่ภาพไม่โค้งจนเกินไป แถมใครที่ถ่ายภาพในแนวตั้งจนต้องแหงนคอ เช่น ถ่ายภาพตึกสูง ต้นไม้ใหญ่ ตุ๊กตาสัตว์ประหลาด ฯลฯ Master AI จะถามเลยว่าต้องการใช้เลนส์ Super Wide Angle 0.6x หรือไม่ เพื่อจะได้เก็บภาพมุมกว้างจากบนลงล่างได้ครบ
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะใกล้มากๆ ที่โฟกัสภาพได้ตามต้องการ แถมยังคมชัดดี ไม่เบลอเพราะกล้องอยู่ใกล้เกินไป
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะใกล้
ภาพถ่ายที่ได้จาก Huawei Mate 20 Pro ยังอยู่ในระดับสุดยอดเช่นเคย และเหมือนจะสุดยอดยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะในมุมของสีสันของภาพที่สมจริงตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะสีสันธรรมชาติหรือความสดใส โฟกัสภาพระยะใกล้ (มาก) ได้ด้วย Super Macro หรือถ่ายภาพแบบกว้างพิเศษได้ด้วย Super Wide Angle โดยไม่ทำให้ภาพโค้ง รวมถึงการถ่ายภาพกลางคืนที่เป็นซิกเนเจอร์ของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่นใหญ่ รุ่นนี้ก็ยังเก็บรายละเอียดได้ครบ ภาพนิ่ง คมชัดดีขึ้น แทบไม่สั่นไหวเลยแม้จะไม่ได้ใช้โหมด Night ซึ่งถ้าใครใช้โหมด Night ร่วมด้วย ก็จะได้ภาพถ่ายช่วงกลางคืนที่แปลกตาจาเดิมๆ แต่ยังคงความคมชัดและคุณภาพ
ตัวอย่างภาพถ่ายอาหารร่วมกับ Master AI จะเห็นว่ามีการเร่งเฉดสีให้ดูสดใส ทำให้อาหารดูน่าทานยิ่งขึ้น และการโฟกัสภาพก็เจาะไปที่อาหารแบบไม่พลาดเป้า
แม้แต่ในสถานที่กลางแจ้ง ความสว่างของภาพก็ยังสมจริงและเก็บรายละเอียดได้ครบ
ตัวอย่างภาพถ่ายช่วงพลบค่ำโดยใช้โหมด Night ซึ่งกำหนดความสว่างของภาพได้ตามชอบ
ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืนโดยไม่ใช้โหมด Night ซึ่งในสถานการณ์จริงคือช่วงกลางคืนอันมืดมิด มีเพียงแสงไฟตามสวนสาธารณะเล็กน้อย
เมื่อใช้โหมด Night ถ่ายภาพเคลื่อนไหว จะเห็นตัวแบบเคลื่อนไหวชัดเจน ซึ่งเป็นเสน่ห์อีกแบบจาก Mate 20 Pro
-
- มีโหมดการจัดแสงมาให้เล่นเช่นเคย
-
- ปรับสีผิวไม่ให้เพี้ยนจากผิวจริงได้อีกด้วย
ส่วนกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซลของรุ่นนี้ก็มีทีเด็ดมาเหมือนกัน เพราะในโหมด Portrait นอกจากจะมีโหมดจัดแสง ฉากหลังแบบต่างๆ ปรับความเนียนของผิวและใบหน้าเรียวได้แล้ว ยังมีลูกเล่นที่เรียกว่า Warmth สำหรับสาวๆ ที่ต้องการเซลฟี่ให้ได้สีผิวที่ตรงกับตัวจริงที่สุด สามารถเลือกโทนสีผิวได้ทั้งโทนเหลืองและโทนชมพู และยังมีตั้งแต่เฉดผิวสีอ่อนไปจนถึงผิวเข้ม เพราะหลายคนน่าจะเจอปัญหาการเซลฟี่ในแสงสีแปลกๆ แล้วสีผิวผิดเพี้ยนเสียนี่ หรือสาวๆ คนไหนที่เทสรองพื้นบนหน้าแล้วอยากถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนดู ลองปรับสีผิวไปก่อนก็น่าจะแม่นยำขึ้นนะ
Hivision & Hitouch
-
- Hivision การค้นข้อมูลจากภาพและใช้งานร่วมกับกล้อง
-
- ตามหาสินค้าต่างๆ บนฐานข้อมูลเว็บไซต์ Amazon ได้เลย
ฟีเจอร์เสริมในกล้องของ Mate 20 Pro ที่สนุกไม่แพ้การถ่ายภาพเลยก็คือ Hivision และ Hitouch ที่รวมการค้นหาข้อมูลประเภทต่างๆ ผ่านการใช้กล้องสแกนวัตถุ เช่น การสแกน QR Code การคำนวณแคลอรี่อาหารผ่านการสแกนอาหารตรงหน้า หรือจะเป็น Hitouch ทำหน้าที่ค้นหาราคาสินค้าที่ถ่ายภาพไว้และลิงค์เข้าสู่เว็บอีคอมเมิร์ซชื่อดังทั้งหลาย เพื่อการช้อปปิ้งที่ง่าย สะดวก ครบ จบในคราวเดียว นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานจริงก็ได้ หรือเล่นสนุกๆ ก็เจ๋งไปอีกแบบ
Fingerprint On Screen & 3D Face
-
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย
-
- แต่อย่าลืมเซฟลายนิ้วมือไว้ก่อนใช้งาน
เพราะเป็นรุ่นระดับท็อป ฟีเจอร์ที่มีมาให้ก็ไม่ธรรมดา ซึ่งรุ่นนี้รองรับการใช้งานสแกนใบหน้าแบบ 3D Face สแกนแบบสามมิติทุกซอกทุกมุมเลยทีเดียว การทำงานก็ถือว่ารวดเร็วใช้ได้ หรือใครที่อยากสแกนลายนิ้วมือก็อย่าเพิ่งสงสัยว่า แล้วเจ้าเซ็นเซอร์อยู่ตรงไหน ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะรุ่นนี้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้แล้ว! แต่อย่างไรก็ยังต้องเก็บข้อมูลลายนิ้วมือที่ใช้ไว้ในเครื่องก่อนนะจ๊ะ
Performance
เรื่องประสิทธิภาพ ความแรงจาก Huawei Mate 20 Pro ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะสมาร์ทโฟนทั้งสามรุ่นจากซีรี่ส์ Mate 20 ล้วนใช้ชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดอย่าง HiSilicon 980 ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำงานที่รวดเร็ว ร่วมกับ GPU อย่าง Mali G76 เป็นรุ่นแรกๆ ของโลก ที่ทำให้การรันภาพกราฟิกนั้นลื่อนและแสดงผลเนียนตามากๆ รวมถึงคุณสมบัติการลดความร้อนขณะที่ชิปเซ็ตทำงาน ทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนขณะใช้งาน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แทบไม่พบปัญหาเครื่องร้อนแม้จะใช้งานหนักเลย ส่วน RAM ในรุ่นนี้มีมาที่ 6GB และพื้นที่ตัวเครื่อง 128GB และ Mate 20 Series ยังเป็นรุ่นแรกๆ ที่เปลี่ยนมาใช้ Nano SD หน่วยความจำภายนอกแบบใหม่จากหัวเว่ยเอง ใช้ร่วมกับช่องซิม 2 ได้เลย (แต่ใช้งานสองซิมไม่ได้นะ) ส่วนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด 9.0 Pie แน่นอน
Battery & Charger
สมาร์ทโฟนหลายรุ่นมีฟีเจอร์และประสิทธิภาพที่ดีแต่อาจจะมีแบตเตอรี่ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานหนัก แต่ไม่ใช่กับ Huawei Mate 20 Pro ที่มีความจุเยอะพิเศษ 4,200 มิลลิแอมป์ ซึ่งจากการใช้งานจริงทั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ถ่ายรูป อัพเดตโซเชียล เล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังอยู่ได้เกือบเต็มวัน แล้วแบตเตอรี่เยอะขนาดนี้ จะใช้เวลาชาร์จนานไหม? ขอบอกเลยว่าไม่นานเพียงคุณใช้ อแดปเตอร์รองรับ HUAWEI Supercharge ที่มีมาให้ในกล่อง ชาร์จได้ถึง 70% ภายในเวลา 30 นาที หรือจะชาร์จไร้สายร่วมกับแท่นชาร์จอื่นๆ ก็ทำได้ และที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือ การทำหน้าที่เป็นไวร์เลสชาร์จเจอร์ให้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นที่รองรับการชาร์จไร้สาย เพียงวางเครื่องบนด้านหลังของเจ้า Mate 20 Pro แต่อย่าลืมไปเปิดการใช้งานในเมนู Battery ใน Setting หรือการตั้งค่าเสียก่อน
สรุปโดยรวม
ถ้าคุณต้องการสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องตั้งแต่ดีไซน์สวยพรีเมียม หน้าจอแสดงผลที่คุณสัมผัสได้ว่าแตกต่าง ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี กล้องถ่ายภาพระดับสุดยอด พึ่งพาได้ทุกสถานการณ์ และอื่นๆ ที่กำลังรอคุณไปพิสูจน์ Huawei Mate 20 Pro นี่แหละที่เรียกได้เต็มปากว่ามือโปรตัวจริง แต่อาจต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างสักหน่อย ทั้งหน่วยความจำภายนอกที่เปลี่ยนไป ช่องหูฟังที่ต้องเปลี่ยนไปใช้ร่วมกับ USB Type-C ถ้าไม่ซีเรียสในจุดนี้มาก หรือมั่นใจว่าจะได้ใช้งานในส่วนอื่นๆ มากกว่า ขอให้มั่นใจว่า Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ระดับโปรให้คุณได้แน่นอน
Huawei Mate 20 Pro Specification
ข้อมูลทั่วไป
| ขนาด, น้ำหนัก | 157.8 x 72.3 x 8.6 มม., 189 กรัม |
| SIM Card | Nano SIM+Nano SIM |
| แบตเตอรี่ | Li-Po 4,200 mAh |
เครือข่าย
| เครือข่าย 2G | 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz |
| เครือข่าย 3G | 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 MHz |
| เครือข่าย 4G | LTE band 1/2/3/4/5/6/7/8/9/12/17/18/19/20/26/28/32/34/38/39/40 |
หน่วยความจำ
| หน่วยความจำภายใน | 128GB / RAM 6GB (เวอร์ชั่นเครื่องทดสอบ) |
| หน่วยความจำภายนอก | NM (Nano Memory) สูงสุด 256GB |
จอแสดงผล
| ขนาด | 6.39 นิ้ว |
| ความละเอียดและความหนาแน่น | 1440 x 3120 พิกเซล (538 PPI) |
| ชนิดและจำนวนสี | OLED 16 ล้านสี / อัตราส่วน 19.5:9 / EMUI 9.0 |
ระบบ
| หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | HiSilicon Kirin 980 Octa-core 2.6 GHz |
| หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) | Mali-G76 MP10 |
| ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ | Android 9.0 (Pie) |
การเชื่อมต่อ
| Wi-Fi | 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, DLNA, Wi-Fi Hotspot, Wi-Fi Direct |
| Bluetooth | รองรับ (v5.0, A2DP, LE, aptX HD) |
| NFC | รองรับ |
| USB | USB Type-C |
| ระบบระบุตำแหน่ง (GPS) | รองรับ (A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS) |
มัลติมีเดีย
| กล้องถ่ายภาพนิ่ง | |
| ความละเอียด | 40+20+8 ล้านพิกเซล / 24 ล้านพิกเซล |
| คุณสมบัติ | Leica Optics / แฟลช dual-LED dual-tone / ระบบกันสั่น AIS / Master AI / Portrait กล้องหน้าพร้อมโหมดแสงและปรับสีผิว |
| กล้องวิดีโอ | |
| ความละเอียด | 3840 x 2160 (UHD) / 1920 x 1080 |
| คุณสมบัติ | เลือกขนาดไฟล์วิดีโอ / Hyperlapse / Slow Motion 960p |
| วิทยุ | ไม่มี |
| อื่นๆ | 3D Depth Sensing Camera / สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ / ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IP68 (ดำน้ำลึก 2 เมตรนาน 30 นาที) |
ราคา 31,900 บาท
