เพราะสมาร์ทโฟนกล้องคู่เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับปี 2018 นี้ ถ้ามี 3 กล้องหรือมากกว่าก็กลายเป็นจุดเด่นได้ไม่ยาก ฉะนั้น เราจึงขอหยิบสมาร์ทโฟนกล้องเยอะ 2 รุ่นพี่น้องทั้งรุ่นใหญ่ Samsung Galaxy A9 ที่ใส่กล้องหลังสี่เลนส์มาเป็นรุ่นแรก และ Galaxy A7 ที่มีแค่สามเลนส์แต่เรื่องภาพถ่ายก็ถือว่าโดนใจใช้ได้ แม้ทั้งสองรุ่นนี้จะมีราคาค่าตัวที่ห่างกันพอสมควร เดี๋ยวเรามาดูกันว่าแต่ละคนจะเหมาะกับรุ่นไหน สามกล้องก็พอแล้วหรือจัดเต็มสี่กล้องไปเลยดีกว่า
ดีไซน์และการออกแบบ
สำหรับดีไซน์ภายนอกของทั้งสองรุ่นนี้มีสิ่งที่เหมือนๆ กันอย่างหนึ่งคือ สีสันตัวเครื่องที่ไล่เฉด แต่ใน Galaxy A7 จะไล่เฉดสีเดียวจากอ่อนไปเข้ม แตกต่างจาก Galaxy A9 ที่นำสองสีมาไล่เฉดกันให้แตกต่าง ให้เห็นว่าตัวเครื่องนี้มีสองสี ซึ่งเจ้า A7 มีทั้งสีฟ้า สีดำ และสีทอง ส่วน Galaxy A9 มีสีดำ คาเวียร์ แบล็ค (Caviar Black) สีน้ำเงิน เลมอนเนด บลู (Lemonade Blue) และสีชมพู บับเบิ้ลกัม พิงค์ (Bubblegum Pink) ให้เลือกตามสไตล์ของคุณ ถ้าใครชอบสีเรียบๆ ก็ยังเลือกสีดำได้ แต่ถ้าใครชอบสีสันจี๊ดๆ นี่น่าจะเลือกยากเพราะสีนั้นก็ดี สีนี้ก็เริ่ด เลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียวเชียว
และอย่าลืมว่า Galaxy A Series มักจะเป็นซีรี่ส์ที่มีอะไรใหม่ๆ ก่อนที่รุ่นเรือธงในปีถัดไปจะมาถึง ไม่แน่นะ Galaxy S10 ปีหน้าอาจจะไล่เฉด 3 สีเลยก็ได้ และนอกจากสีสัน ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นนี้ก็คือ ตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือที่ A9 อยู่ด้านหลังเครื่องตามปกติ แต่ใน A7 ย้ายไปไว้ด้านข้างเครื่องตรงปุ่มพาวเวอร์แทน
ชิปเซ็ตและระบบปฏิบัติการ
น่าแปลกที่ทั้งสองรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตประมวลผลคนละเจ้ากันเลย อย่าง Galaxy A7 ใช้ Exynos 7885 Octa-core ร่วมกับ RAM 4GB ความจุเครื่อง 64GB ส่วนรุ่นใหญ่ Galaxy A9 ใช้ Qualcomm Snapdragon 660 ร่วมกับ RAM 6GB และพื้นที่ในตัว 128GB ส่วนระบบปฏิบัติการใช้แอนดรอยด์โอรีโอ 8.0 เหมือนกันทั้งสองรุ่น ซึ่งจะมีอัพเดตในภายหลังเป็นแอนดรอยด์พายหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป
กล้องสามเลนส์ VS กล้องสี่เลนส์
นี่แหละที่น่าจะเป็นจุดสำคัญเพื่อตัดสินใจว่าเลือกรุ่นไหนดีๆ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ หลักๆ จะมีเลนส์มุมกว้างแบบอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา เลนส์ปกติ 24 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth 5 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายภาพหน้าชัด หลังละลายด้วย Live Focus นั่นเอง แต่ใน Samsung Galaxy A9 จะมีการเพิ่มเลนส์เทเล 10 ล้านพิกเซลเข้ามาด้วย ทำให้ซูมภาพได้ถึง 2 เท่า เห็นแบบนี้ก็ดูเหมือนว่า Galaxy A9 จะได้เปรียบมากกว่า แต่ในเรื่องของการประมวลผลภาพ สีสัน ทั้งสองรุ่นมี Scene Optimzer ช่วยปรับแต่ง แต่ถ้าใครอยากดูตัวอย่างภาพถ่าย เราก็มีให้ดูกันนะ เริ่มต้นด้วยภาพของ Galaxy A7 ก่อนเลย
เลนส์มุมกว้าง
เลนส์ปกติ
เลนส์มุมกว้าง
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy A7
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy A7
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy A7
ส่วนต่อไปก็คือภาพถ่ายตัวอย่างของ Samsung Galaxy A9
เลนส์มุมกว้าง อัลตร้าไวด์
เลนส์ปกติ
เลนส์ซูม 2 เท่า
เทียบสเปค
ส่วนใครที่อยากเทียบสเปคแบบเห็นๆ ว่ารุ่นไหนมีด้านใดที่เหนือกว่า เราก็จัดให้ด้วยสเปคคร่าวๆ ที่ทุกคนน่าจะนำไปพิจารณาในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน
สรุปและความเห็นจาก WhatPhone
เพราะราคาของทั้งสองรุ่นนี้ต่างกันเกือบหมื่นบาท รวมถึงสเปคที่ได้ กล้องถ่ายภาพและจุดอื่นๆ ที่มีความแตกต่างกันพอสมควร แต่เชื่อว่าหลายคนอ่านแล้วก็ยังสงสัยว่า แล้วตัวเรานี้เหมาะกับรุ่นไหนดีนะ
ถ้าคุณเลือก Samsung Galaxy A7 (2018) : ถ้าคุณเลือกรุ่นเล็ก Galaxy A7 (2018) หลักๆ เลยคือ เหมาะกับผู้ที่มีงบเลือกสมาร์ทโฟนระดับหมื่นเศษๆ หมื่นต้นๆ แต่ได้ทั้งกล้องสามเลนส์ มุมมองที่หลากหลาย ลองเล่นมุมกว้างก็ได้ เซลฟี่ก็ดี มี Scene Optimzer ช่วยถ่ายภาพสวยๆ อีกต่างหาก หน้าจอใหญ่ 6.0 นิ้ว สแกนลายนิ้วมือง่ายๆ ผ่านปุ่มพาวเวอร์ ไม่ซีเรียสกับพื้นที่ตัวเครื่อง 64GB เพราะเพิ่ม microSD ได้สบายๆ แต่แบตเตอรี่มีความจุที่ 3,300 มิลลิแอมป์เท่านั้นนะ
ถ้าคุณเลือก Samsung Galaxy A9 (2018) : ถ้าคุณเลือกรุ่นใหญ่ Galaxy A9 ที่น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวของโลกที่มีกล้องหลัง 4 เลนส์ เหมาะกับผู้ที่ชอบถ่ายภาพหลากหลายแนว ไม่จำกัดแค่ภาพมุมกว้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังถ่ายภาพหน้าชัด หลังละลายด้วย Live Focus พร้อม Art Bokeh แถมมี Scene Optimzer ที่ช่วยปรับแต่งภาพให้ดูดี สมจริงยิ่งขึ้น ได้หน้าจอขนาดใหญ่กว่าที่ 6.3 นิ้ว ได้ตัวเครื่องที่สีสันแตกต่าง ถือไปไหนคนเห็นปุ๊บรู้ปั๊บ ได้แบตเตอรี่ที่เยอะถึง 3,800 มิลลิแอมป์ แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัว 19,990 บาทนะจ๊ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://whatphone.net/review/samsung-galaxy-a7-ultra-wide-review/
https://whatphone.net/preview/samsung-galaxy-a9-2018-preview/
