มาแล้ว! รีวิวฉบับเต็มของ Huawei Nova 4 สมาร์ทโฟนจอ Punch Display เทรนใหม่กับกล้องหลัง AI 3 ตัวเก็บครบทุกมุมมอง ที่วันนี้ทาง WhatPhone ก็จะมาเหลาให้ฟังหลังจากที่ได้ไปลองใช้งานมาราว ๆ 1 สัปดาห์เต็มครับ
แกะกล่องส่องดีไซน์
- ตัวเครื่อง Huawei Nova 4
- เคสใสแบบนิ่ม
- สายชาร์จแบบ USB-C
- หูฟังแบบ 3.5 mm
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ Huawei Quick Charge (9V/2A)
หัวเว่ยโนวา 4 มาพร้อมหน้าจอ Punch Display ขนาด 6.4 นิ้ว แต่ก็ไม่ดูใหญ่เลยสักนิด แม้จะมีขอบล่างเล็กน้อยก็ตาม ถือว่าจับถนัดมือดีครับ
ตรงรูหน้าจอนั้นจะฝังกล้องหน้าไว้ข้างใต้กระจก ซึ่งถ้าเราเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีดำ ๆ ก็จะช่วยซ่อนกล้องได้ในตัวครับ (ไม่เป้นที่สังเกตเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ไปจ้องมันแบบตรงๆ) ส่วนด้านหลังนั้นมาพร้อมกับกล้อง Triple Camera ระบบ AI พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือตรงกลางหลังเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 mm พร้อมเซ็นเซอร์ที่อยู่ข้าง ๆ ส่วนด้านล่างนั้นก็มีลำโพง ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
ด้านข้างของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ด (2 ซิม ล้วน ทำให้เพิ่มเม็มไม่ได้) และอีกด้านก็มีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ครับ
ฝาหลังกระจกสี Crush Blue ก็สวยไปอีกแบบ โดยด้านล่างนั้นจะเป็นเฉดสีม่วงตามภาพเลยครับ
อ่านพรีวิวแกะกล่องตัวเครื่องเพิ่มเติมได้ที่นี่ (คลิก!!)
สเปก Huawei Nova 4
- หน้าจอ: 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2310 x 1080 พิกเซล แบบ Punch Display มีรู
- หน่วยประมวลผล: Kirin 970 + GPU turbo 2.0
- แรม: 8 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 128 GB
- กล้องหน้า: 25 Megapixel รองรับ AI
- กล้องหลัง: 20 + 16 + 2 Megapixel รองรับ AI
- แบตเตอรี: 3,750 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 18W (9V/2A)
- พอร์ต: USB Type C
- ระบบปฏิบัติการ: Android 9 Pie (EMUI 9.0.1)
-
ราคา 16,990 บาท
ประสิทธิภาพตัวเครื่อง
Antutu : ด้วยหน่วยประมวลผล Kirin 970 บวกกับ RAM 8 GB ทำให้ฟาดคะแนน Antutu ไปที่ 181,230 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวกับชิปเซ็ตระดับเรือธงของรุ่นนี้ครับ
การเล่นเกมส์ : จากที่ทีมงาน WhatPhone ได้ทำการทดสอบเกมส์ PUBG Mobile ก็พบว่าเล่นได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ไม่ได้ลดเร็ว ปรับสุด (ตามภาพ) ก็ยังเล่นได้ลื่นไม่หน่วงเลยสักนิด บอกเลยว่าใครสายเกมส์ก็อดห่วงในเรื่องนี้ไปได้เลยครับ
แบตเตอรี่ : ด้วยขนาดแบตเตอรี่ 3,750 mAh ที่ให้มาในรุ่นนี้ก็สามารถใช้งานได้ครบหนึ่งวันเต็ม ๆ สำหรับการใช้งานแบบครบเครื่องทั้งเปิด GPS, เล่นเกมส์, เล่น Social Media และถ่ายภาพเป็นหลัก ซึ่งถ้าใครใช้ไม่ได้ใช้งานมากนักก็อยู่ได้เกือบ 2 วันแน่นอน แถมรุ่นนี้ยังรองรับ Huawei Quick Charge (18W) ด้วยชาร์จเร็วทันใจวัยรุ่นเลยล่ะครับ
กล้องหน้า – หลังระบบ AI
ตัวกล้องหน้านั้นก็มีลูกเล่นให้เลือกเยอะ รองรับการประมวลภาพผลจาก AI และ HDR เวลาถ่ายภาพเซลฟี่ย้อนหลัง โหมดถ่ายภาพบุคคลสามารถปรับหน้าเนียน เบลอหลังได้ หรือจะใส่แสงพิเศษให้กับใบหน้าก็ทำได้ และนอกจากนี้ก็ยังมีโหมด AR ไว้ถ่ายภาพสติ้กเกอร์หรือพื้นหลังน่ารัก ๆ รวมถึงมี Qmoji เปลี่ยนใบหน้าเราให้กลายเป็นอนิเมชั่นน่ารัก ๆ ได้ด้วย แน่นอนว่าสามารถเลือกถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและอัดวีดีโอเลยครับ
ตัวกล้องนั้นจะมีระบบ AI สามารถกดเปิด-ปิดได้ตามใจชอบ โดยระบบนี้จะทำนายภาพถ่ายล่วงหน้าว่าเป็นแบบไหนแล้วมันจะเลือกปรับโหมดและสีภาพให้อัตโนมัติเวลาถ่ายเสร็จแล้วนั่นเองครับ
และในส่วนของโหมดกล้องนั้นก็มีมาให้เลือกมากมาย (ตามภาพ) แถมยังสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้อีก ส่วนการถ่ายวีดีโอนั้นก็สามารถถ่ายแบบมุมกว้างได้ด้วยความละเอียดสูงสุด 4K เลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่าย
-
- เปิด AI
-
- ปิด AI
เริ่มต้นกันด้วยกล้องหน้าเซลฟี่ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดของรุ่นนี้ โดยสามารถถ่ายภาพออกมาได้เนียนสวยแทบไม่ต้องใช้แอปพลิเคชั่นแต่งภาพเลยทีเดียว แต่การเปิดหรือปิด AI นั้น จากภาพที่ทางทีมงานได้ถ่ายออกมาก็เห็นความต่างออกมาได้เล็กน้อย (หรืออาจจะต้องไปทดสอบในที่มืดมากกว่านี้ก็เป็นได้ครับ) ความแตกต่างชัดเจนก็คงจะเป็นในเรื่องของผิวหน้าที่มีการแต่งให้รวมถึงแสงของภาพครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายอาหารที่เปิด AI (ซ้าย) และ ปิด AI (ขวา) จากกล้องหลังก็ทำออกมาได้แตกต่างพอสมควร โดยภาพที่มีการเปิด AI นั้นจะมีความสว่างกว่า สีสดกว่า แต่รายละเอียดก็จะหายไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาพปกติครับ
ส่วนกล้องถ่ายภาพด้านหลังที่ถือว่าเป็นฟีเจอร์เด่นหลัก ๆ เกี่ยวกับถ่ายภาพมุมกว้างก็ทำออกมาได้ดีในที่มีแสงพอเหมาะพอสมควรครับ โดยสังเกตได้ว่ามันจะกว้างมาก แต่ก็มีสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย เพราะค่า F ที่ต่างกันในกล้องหลักและกล้องเลนส์ไวด์นั่นเองครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายในที่แสงน้อยจากโหมดกลางคืน (ซ้าย) และโหมด AI ปกติ (ขวา) จะเห็นได้ว่าทั้งสองภาพแตกต่างกันชัดเจน ซึ่งจากภาพที่ได้จากโหมดกลางคืนนั้นจะให้ความสว่างที่มากกว่าภาพปกติ แต่ในภาพปกตินั้นจะมีรายละเอียดของภาพที่ดีกว่าครับ
และปิดท้ายกันด้วย ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดปกติที่เปิด AI ช่วยปรับสีให้ภาพดีขึ้นตามสภาพบรรยากาศนั้น ๆ ครับ จะเห็นได้ว่าภาพที่แสงน้อยหรือในที่กลางแจ้งนั้นทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว รายละเอียดครบ คมชัดมาก
ฟีเจอร์เด็ดบน EMUI 9.0.1
อัดวีดีโอหน้าจอ (กดปุ่มเพิ่มเสียงพร้อมกับปุ่มพาวเวอร์) / แคปภาพหน้าจอเพียงแค่เอานิ้วเคาะสองครั้งบนหน้าจอก็ทำได้
Huawei Application : ถือว่าเป็นธรรมเนียมเลยก็ว่าได้กับ EMUI ของหัวเว่ยที่จะใส่แอปพลิเคชั่นเฉพาะของ Huawei มาให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น AppGallary แหล่งรวมแอพและสิทธิพิเศษที่หัวเว่ยคัดสรรมาให้, HiCare แอพดูแลเครื่องที่มีระบบต่าง ๆคอยซับพอร์ตผู้ใช้งาน และยังมีแอพอีกมากมายเลยครับ (ตามภาพ)
Hivision : ระบบนี้ไว้หาข้อมูลสิ่งของลักษณะคล้ายกัน ราคา หรือชื่อต่าง ๆ หรือจะหาข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ ก็ทำได้ (จะอยู่ในแอปพลิเคชั่นกล้องรูปดวงตามุมซ้ายบน)
ระบบเสียง Huawei Histen สามารถปรับแต่งเสียงได้ตามใจชอบ เมื่อเสียบหูฟังเข้ากับตัวเครื่อง
ปิดขอบดำได้ เผื่อใครรำคาญรูกล้องใหญ่ ๆบนหน้าจอ แต่ขอบดำด้านบนจะเยอะมาก ทำให้หน้าจอไม่สมส่วนเลยทีเดียว (แนะนำให้เปิดไว้แบบเดิมจะดีกว่า)
แอปคู่แฝด จะเล่นเฟส ไลน์ สองไอดีในเครื่องเดียวก็ทำได้ง่าย ๆ
เปิดสองแอพในหนึ่งหน้าจอก็ทำได้
ลดความละเอียดหน้าจอเหลือแค่ HD+ ได้หากต้องการประหยัดแบตเตอรี่
สรุปการใช้งาน
หลังจากที่ทีมงาน WhatPhone ได้ลองใช้งานเจ้าหัวเว่ยโนวา 4 รุ่นนี้มาราวหนึ่งสัปดาห์เต็มก็สรุปได้ว่า มันเป็นสมาร์ทโฟนจอ LCD ที่แสดงผลได้สวยงามมาก (นึกว่าจอ AMOLED เลยทีเดียว) สเปกที่ให้มาก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มเรือธงอยู่ ใช้งานทั่วไปหรือจะเล่นเกมส์หนัก ๆ ก็ยังลื่นไหลเครื่องไม่ร้อน แถมยังมีกล้องหลังระบบ AI ที่สามารถถ่ายภาพได้กว้างกว่าปกติอีกด้วย (อาจจะติตรงคุณภาพของภาพไม่คมเท่าไหร่) ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มาก็ใช้งานได้เพียงพอตลอดหนึ่งวันเต็ม ชาร์จก็เร็ว บอกเลยว่าใครที่กำลังหาสมาร์ทโฟนดีไซน์สวย สเปกแรง ครบเครื่อง ราคาไม่แพงก็ต้องรุ่นนี้เลยล่ะครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องออกแบบมาได้ดีไซน์ สวยหรู จับถนัดมือ
- หน้าจอ 6.3 นิ้ว แบบ Punch Display ใหม่ไม่เหมือนใครในเรทราคานี้
- สเปกเรือธง เล่นเกมส์ ลื่นไหล ด้วย Kirin 970 + RAM 8 GB ความจุสูง 128 GB เลยทีเดียว
- เวลาใช้งานหนัก ๆ ตัวเครื่องจัดการพลังงานได้ดีเครื่องแทบจะไม่ร้อนเลย
- แบตเตอรี่อึดอยู่ได้ทั้งวัน แถมยังมีระบบชาร์จเร็วด้วย
- มีกล้องเลนส์ไวด์ พร้อมระบบ AI ช่วยในการถ่ายภาพได้กว้างขึ้นกว่าปกติ
- กล้องระบบ AI มีลูกเล่นเยอะ หลากหลายโหมด ทั้งโหมดกลางคืน สำหรับถ่ายภาพในทีมืด, โหมด AR สติ้กเกอร์น่ารัก และอีกมากมาย
- รันด้วย EMUI เวอร์ชั่นล่าสุดบนระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 มีลูกเล่นให้เล่นเยอะมาก
จุดสังเกต
- ในเรทราคานี้ มีคู่แข่งเยอะ
- หน้าจอแบบ Punch Display อาจจะขัดตาเวลาใช้งานบ้างเพราะสายตาจะสะดุดตรงที่รูวงกลมพอสมควร
- กล้องหน้ายังไม่ดีพอนัก (แสงโอเวอร์มาก หน้าตาดูหลอก ๆ แม้จะปิดโหมดบิวตี้และ AI แล้ว) อันนี้ก็ต้องรออัพเดตเฟิร์มแวร์กันต่อไป
- ภาพถ่ายจากกล้องหลัง ไม่ค่อยมีความคมนัก เมื่อดูจากหน้าจอมือถือ แต่ถ้าเอารูปมาดูในคอมก็สีดูดีขึ้นพอสมควร
- ดู NETFLIX HD ไม่ได้ เพราะเครื่องรองรับ Widewine L3 ซึ่งก็ต้องรออัพเดตเฟิร์มแวร์กันต่อไป
- เพิ่มเม็มโมรี่การ์ด (microSD Card) ไม่ได้
ก็จบไปแล้วสำหรับรีวิวของเจ้า Huawei Nova 4 ที่ทางเว็บไซต์เรานำมาฝากกัน และสำหรับใครที่อยากติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ หรือข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลยครับ
