มาแล้ว! รีวิวของ Huawei P30 สมาร์ทโฟน 3 กล้องจาก Leica ที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพรุ่นล่าสุด ในราคาสุดเร้าใจ
สเปกคร่าว ๆ ของ Huawei P30
- หน้าจอ Notch Less แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+
- CPU : Kirin 980 + GPU Turbo 3.0
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- RAM : 8 GB
- ROM : 128 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 MP (F/2.0) รองรับระบบ AI HDR+
- กล้องหลัง Triple Camera ความละเอียด 40 MP (กล้องมุมกว้าง F/1.8, OIS) + 16 MP (กล้องมุมกว้าง Ultra Wide F/2.2) + 8 MP (ซูม 3 เท่า F/2.4)
- ความสามารถในการซูมเทพมากถึง 30 เท่า (Optical Zoom 3x / Hybrid Zoom 5x)
- แบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge (22.5W)
- รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย EMUI 9.1 เวอร์ชั่นล่าสุด
- มีช่องเสียบรูหูฟังขนาด 3.5 mm
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53
- ราคา 21,990 บาท
ดีไซน์ใหม่ในสี Aurora ยามค่ำคืน
Huawei P30 นั้นมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ลักษณะเป็นติ่งแบบหยดน้ำ (Notch Less) จับถนัดมือมาก ๆ
ด้านบนของตัวเครื่องมีกล้องหน้าเซลฟี่และลำโพงสนทนา (ตัวเครื่องติดตั้งฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้จากโรงงาน)
ขอบคางด้านล่างบางสะใจ แทบจะไม่เหลือขอบให้รกตาแล้ว
สีที่เห็นอยู่นี้คือสี Aurora ที่อ้างอิงจากสีของท้องฟ้ายามค่ำคืนให้เฉดเขียวน้ำเงินสวยงาม
ด้านหลังมาพร้อมกับกล้อง Triple Camera พร้อมประทับตรา Leica ชัดเจน
ด้านขวามือของตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ที่มีสีแดงขีดตรงกลาง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับถาดซิมแบบ Hybrid Slot รองรับ nano ซิมและเม็มโมรี่แบบ NM Card
และด้านล่างมาพร้อมกับลำโพง พอร์ต USB-C และช่องเสียบรูหูฟังขนาด 3.5 mm
กล้อง Triple Camera จาก Leica
ตัวกล้องหลังที่มีการร่วมมือกับ Leica ที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ก็มาด้วยกันใน 4 มุมมองด้วยกัน โดยจะมีให้เลือกในมุมมองปกติ ซูม 3 เท่า ซูม 5 เท่า และมุมมองแบบกว้าง (Ultra Wide) ซึ่งก็มี Master AI ที่ช่วยในการประมวลผลภาพถ่ายให้ออกมาเข้ากับฉากได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น (เลือกเปิดหรือปิดได้) รวมถึงยังมีโหมดกล้องมากมาย เช่น โหมด Pro เลือกปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ โหมดถ่ายวีดีโอแบบสโลว์โมชั่น โหมดซุปเปอร์มาโครไว้ใช้ถ่ายวัตถุใกล้ ๆ ให้ชัดได้รายละเอียดมากขึ้น เป็นต้น แต่ Highlight จริง ๆ ของรุ่นนี้คงไม่พ้น Night Mode ที่อยู่มานมนานตั้งแต่ Huawei P20 รุ่นก่อนซึ่งมันจะทำการลากชัตเตอร์สปีดยาว ๆ ประมาณ 4-6 วินาที (ต้องถือกล้องให้นิ่ง) แล้วจะได้ภาพที่สว่างสดใสออกมาคมชมสวยงามมากมายเลยครับ ส่วนโหมดวีดีโอในกล้องหลังนั้นสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30 fps สามารถเปิด AI Scene เพื่อดูดสีของวัตถุเช่น คน ได้ด้วย แล้วก็สามารถใส่ลายน้ำในตัววีดีโอได้แล้วครับ
ในส่วนของกล้องหน้าสามารถเลือกถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (โหมดภาพถ่ายบุคคล) ได้หลากหลายแนว หลายเอฟเฟค รองรับการถ่ายภาพแบบ HDR ย้อนแสง ซึ่งตัวโหมดนี้ก็มีให้เลือกปรับความบิ้วตี้ของหน้าได้หลายระดับ เช่น สีผิว หน้าเรียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโหมด AR ที่สามารถใช้งาน 3D Qmoji เปลี่ยนหน้าเราให้กลายเป็นตัวละครแสนหน้ารักขยับดุ้กดิ้กไปมาตามหน้าเราได้ทันที จะถ่ายไฟล์ GIF หรือวีดีโอก็ได้เช่นกันครับ และกล้องหน้าของรุ่นนี้นั้นสามารถถ่ายวีดีโอที่ได้ความละเอียดสูงสุด FHD+ 30 fps แบบเต็มหน้าจอเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่าย
แม้ Huawei P30 จะไม่เด่นเรื่องซูมเท่า Huawei P30 Pro แต่ก็ทำออกมาได้ดีพอสมควร ซึ่งการซูมสูงสุดในระยะ 30 เท่าจากปกติต้องใช้ความนิ่งของมือเป็นอย่างมาก ไม่งั้นภาพจะสั่นและมองแทบไม่เห็นรายละเอียดที่กล้องจะถ่ายออกมาได้เลยครับ (ควรใช้ขาตั้งกล้องหรือวางมือถือไว้นิ่ง ๆ เวลาถ่ายจะดีที่สุดครับ)
ในส่วนของภาพถ่ายในที่แสงน้อยก็ทำออกมาได้แจ่มมาก โดยเฉพาะการถ่ายจาก Night Mode ที่จะเพิ่มแสงสว่างได้อีกเท่าตัวเลยทีเดียว ส่วนในมุมมองแบบกว้าง Ultra wide นั้นสีของภาพก็จะดูดรอปลงมากว่ามุมปกติเพราะใช้กล้องคนละตัวถ่ายค่า F ไม่เหมือนกัน ภาพที่ได้เลยมีความมืดสว่างแตกต่างกันเล็กน้อยครับ
ภาพถ่ายอาหารก็ทำออกมาได้สีสดน่ากินพอสมควร เพราะ Master AI จะช่วยเร่งสีของภาพให้จัดขึ้นกว่าปกติครับ
ปิดท้ายกันด้วยภาพเซลฟี่จากทีมงาน WhatPhone ครับ ก็ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดีพอสมควร
ประสิทธิภาพตัวเครื่อง
Antutu : ทางทีมงานได้ทดสอบใน 2 โหมดคือ โหมดปกติคือเปิดเครื่องมาแล้วเทสเลย จะได้คะแนนราว ๆ 250,000 โดยประมาณ ส่วนโหมดประสิทธิภาพอันนี้ต้องเข้าไปเปิดในเมนูตั้งค่าแบตเตอรี่เอง จะให้คะแนนสูงสุดประมาณ 310,000 คะแนนครับ ซึ่งทั้งสองโหมดนั้นการใช้งานจริงแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ยกเว้นเสียว่าต้องการเล่นเกมส์อันนี้จะเห็นผลอยู่พอสมควรครับ (แบตเตอรี่ก็หมดเร็วขึ้นตามประสิทธิภาพที่ถูกรีดออกมาเช่นกัน)
การเล่นเกมส์ : ด้วยชิปเซ็ต Kirin 980 + RAM 8 GB ก็ถือว่าเล่นเกมส์ที่มีอยู่บน Store ได้ครบ ได้ลื่นพอสมควรครับ ซึ่งถ้าเล่นไปนานๆ ตัวเครื่องก็จะมีอุ่นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับร้อนครับ เอาเป็นว่า PUBG Mobile ลื่นมากปรับสุดก็ลื่นไหล คมชัดทุกเม็ดพิกเซลกันเลยทีเดียว (อาจเป็นเพราะอานิสงฆ์ของ GPU Turbo 3.0 ก็เป็นได้…)
Battery : จากการทดสอบใช้งานตัวไปของรุ่นนี้แล้ว แบตเตอรี่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีไม่อึดแต่ก็ไม่ได้หมดเร็วมาก ซึ่งก็อยู่หน้าจอนาน ๆ ลากยาวได้สูงสุดประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ ครับ (อาจได้ยืดได้มากกว่านั้นถ้าเปิดโหมดประหยัดพลังงานไปด้วย) ถึงแม้แบตเตอรี่จะไม่ได้อึดมาก แต่ก็มีระบบชาร์จเร็ว อัดไฟมาให้ถึง 22.5W ไม่ต้องรอนานก็เล่นต่อเนื่องได้เลยครับ
EMUI 9.1 เวอร์ชั่นล่าสุด ทำอะไรได้บ้าง?
เจ้าตัว EMUI 9.1 นี้ก็อยู่บนแอนดรอยพาย 9.0 ที่รู้จักกันดี โดยตัวหน้า UI ก็จะเป็นสไตล์หัวเว่ยที่ทุกคนคุ้นเคย โดยจะไม่มี App Drawer หรือศูนย์รวมแอพ ก็เป็นหน้าเดียวล้วนๆ ปัดไปด้านขวามือก็จะเป็นหน้าที่รวบรวมข่าวสารหรือช่องค้นหาต่าง ๆ อยู่ ด้านบนก็จะมีศูนย์เครื่องมีแบบลัด ๆ ให้เปิดใช้งานกันมากมาย
Dark Mode : ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโหมดบน EMUI ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีด้วยหรอ? แน่นอนว่ามันจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา UI สีขาวเดิม ๆ ให้ดูมืดขึ้นพอสมควร เพื่อการประหยัดแบตเตอรี่นั่นเองครับ
ความปลอดภัย : แน่นอนว่าเจ้าหัวเว่ย P30 นั้นได้ใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอมาเป็นที่เรียบร้อย สามารถใส่ได้สูงสุดถึง 5 นิ้วกันเลยทีเดียว และถ้ายังไม่พอก็สามารถสแกนใบหน้าได้เช่นกัน
บันทึกวีดีโอบนหน้าจอ : สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการกดปุ่มพาวเวอร์พร้อมกับปุ่มเพิ่มเสียงครับ
การใช้งาน 2 แอพในหนึ่งหน้าจอ : ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ติดมากับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นแล้ว ณ ตอนนี้ ก็ถือว่าใครจอใหญ่ก็ได้เปรียบในส่วนนี้ไปครับ เพราะจะทำให้มีพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้น
การใช้งาน 2 แอพ 2 บัญชี : หรือฟีเจอร์แอปคู่แฝด ใช้สำหรับคนที่มีไอดีไลน์หรือเฟสหลายบัญชีไม่ต้องสลับล็อกเอ้าค์ไปมาให้ยุ่งยาก
ระบบเสียง Dolby Atmos : ก็มีให้เลือกปรับแต่งได้ตามคอนเท้นที่รับชมครับ
AppAssistant หรือตัวเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชั่นก็มีให้เลือกปรับใช้งานตามแอพที่เหมาะสมครับ
ปิดท้ายกันด้วย Huawei Application ที่ทางหัวเว่ยใส่มาให้ในเครื่องแบบจัดเต็ม ซึ่งก็ถือว่าเป็นประโยชน์อยู่พอสมควร ทางทีมงานก็ขอคัดเลือกมา 4 แอพหลักที่น่าจะต้องใช้กันมาฝากครับ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย!
- Hicare แหล่งรวมข้อมูลของหัวเว่ยที่จะมีบริการต่าง ๆ อย่าง Call Center หรือคำแนะนำในการใช้งานสมาร์ทโฟนรวมถึงสามารถดูราคาอะไหล่รวมถึงประกันของเครื่องได้อีกด้วยครับ
- Health แอปพลิเคชั่นทางเลือกเพื่อสุขภาพของชาวหัวเว่ย ที่มีการแนะนำการออกกำลังกาย รวมถึงเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไว้อย่างดิบดี
- Theme แหล่งรวมภาพพื้นหลัง Wallpaper รวมถึงธีมน่ารัก ๆ ไว้ให้โหลดใช้งานกัน มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน เผื่อใครเบื่อรูปลักษณ์ UI จำเจของ EMUI ก็มาเปลี่ยนได้ที่แอปพลิเคชั่นนี้ครับ
- App Gallery ศูนย์รวมแอปพลิเคชั่นเด็ด ๆ ที่ทางหัวเว่ยคัดสรรมาให้เป็นอย่างดี แถมยังมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพื่อสมาร์ทโฟนหัวเว่ยโดยเฉพาะ เช่น ไอเท็มพิเศษจากเกมส์ดัง รับโค้ดดูหนังซีรี่ย์จากแอพดัง และอีกมากมาย ซึ่งเราสามารถสะสมคะแนนหรือใช้สิทธิในส่วนนี้ได้ครับ
สรุปการใช้งาน Huawei P30 น่าซื้อหรือไม่? เหมาะกับใคร?
หลังจากที่ใช้เจ้าหัวเว่ย P30 มาราว ๆ 5 วันเต็ม ก็พบว่ามันน่าซื้อเป็นอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปในทุก ๆ มุม ทั้งซูม มุมกว้าง หรือจะเป็นในที่แสงน้อยก็ทำออกมาได้น่าประทับใจ กล้องหน้าเซลฟี่ก็ไม่แย่ แถมยังเป็นคนที่ชอบสมาร์ทโฟนจอสวย ไม่โค้ง การใช้งานลื่นไหล เล่นเกมส์ได้ลื่น ตัวเครื่องแทบจะไม่ร้อนเลย มีสแกนนิ้วใต้จอที่ทำงานรวดเร็วด้วย ตัวเครื่องก็ออกแบบมาดูดีไฮโซสีสันจี๊ดโดยใจ พูดเลยว่าแทบจะหาข้อติของรุ่นนี้ได้น้อยมาก อย่าง แบตเตอรี่ที่ไม่ได้อึดมาก หรือเลนส์กล้องที่ดูนูนออกมาจากตัวเครื่อง (ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการใช้งานเท่าไหร่) แค่นั้นจริง ๆ บอกเลยว่ารุ่นนี้คุ้มค่าในราคา 21,990 บาทเป็นอย่างมากครับ
จุดเด่น
- หน้าจอ OLED ของรุ่นนี้สวยมาก แม้ความละเอียดจะแค่ FHD+ แต่ก็ไม่เลวเลย ตัวขอบก็บางมากแทบไม่เหลือคางด้านล่างแล้ว
- ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอทำงานเร็วมาก
- ตัวเครื่องลื่นไหลเร็วแรงด้วยชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Kirin 980 + RAM 8 GB
- กล้องหน้าดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ลูกเล่นเยอะ ระบบ AI ฉลาดขึ้น
- กล้องหลัง 3 เลนส์ คุณภาพดีมาก มืดแค่ไหนก็สว่างได้ ซูม 30 เท่ายังชัด (พอเห็นรายละเอียด) ถ่ายภาพมุมกว้างก็ทำได้
- รองรับระบบชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge ชาร์จไฟไม่ถึงชั่วโมงครึ่งก็เต็มแล้ว (0-100%)
- EMUI 9.1 เวอร์ชั่นล่าสุด มีฟีเจอร์ ลูกเล่นมากมาย ทันสมัยสุด
จุดสังเกต
- ดีไซน์กล้องหลังนูนขึ้นมาพอสมควร ทำให้ต้องใส่เคสที่หนาหน่อยถึงจะคลุมกล้องได้
- แบตเตอรี่ไม่ได้อึดมากนัก
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53 ซึ่งถ้าเป็นไปได้อย่าโดนน้ำเลยจะดีกว่า
- เพิ่ม microSD Card ไม่ได้ ต้องใช้ Nm Card ของหัวเว่ยเท่านั้น (ราคาก็สูงอยู่ หาซื้อตามร้านทั่วไปยากด้วย)
- แอพติดเครื่องที่มากับ MIUI 9.1 เยอะมาก บางอย่างก็ไม่ได้ใช้
- ตัวเครื่องถูกปิดโหมดประสิทธิภาพมาตั้งแต่โรงงาน คือถ้าอยากเล่นเกมส์ลื่นๆ เทสคะแนน Antutu เยอะๆ ต้องไปเปิดเองในเมนูตั้งค่าแบตเตอรี่ (ถ้าเปิดไว้แบตเตอรี่ก็ลดไวกว่าปกติ)
ก็จบไปแล้วสำหรับรีวิวของเจ้า Huawei P30 ที่ทางเว็บไซต์เรานำมาฝากกัน และสำหรับใครที่อยากติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ หรือข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลยครับ
พิเศษ!!! โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของ Huawei P30 Pro ในราคาพิเศษ
คุณสามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ ในราคาที่คุณเลือกเองได้กับแอปฯ VFIN ที่ประมูลสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ตลอด 30 วัน 30 เครื่อง ด้วยการร่วมมือกับ JFIN กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล โดยใช้คริปโตเคอร์เรนซี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
สามารถเข้าไปประมูลกันได้ผ่านแอปฯ เท่านั้นนะครับ และเปิดให้ผู้ใช้งาน Android สามารถดาวโหลดได้เท่านั้นครับ
ช่องทางการดาวโหลดแอปฯ และวิธีการใช้งาน
ดาวน์โหลดแอพฯ
http://bit.ly/vfinandroid
วิธีการประมูล
https://web.facebook.com/
วิธีการเติม JFIN
http://bit.ly/JFCHOWTO
รายละเอียดกิจกรรมประมูล
https://web.facebook.com/