หลังจากที่ Samsung Galaxy J Series ได้ลาจากไปแล้ว Samsung ก็ได้รวม J Series และ A Series เข้าด้วยกัน โดยแบ่งตัวเลขสูงบ่งบอกสเป็คแรง ตัวเลขน้อยสเป็คลดหลั่นลงไป ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ รีวิว Samsung Galaxy A10 และ Samsung Galaxy A20 ที่ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กสุดในซีรี่ย์นี้ ทั้งสองรุ่นต่างกันนิดหน่อย มีอะไรแตกต่างกันบ้างนั้นเรามาดูกันเลย
แกะกล่อง รีวิว Samsung Galaxy A10 และ Galaxy A20
จากขนาดของกล่อง Samsung Galaxy A20 จะใหญ่กว่าเล็กน้อย เพราะตัวเครื่องมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่า ส่วนอุปกรณ์ในกล่องมีอุปกรณ์มาให้เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จแบตเตอรี่ ชุดหูฟัง อแดปเตอร์ เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด และคู่มือ ไม่มีเคสแถมมาให้เหมือนกับรุ่นใหญ่
แต่ส่วนที่ต่างกันคืออแดปเตอร์ และสายชาร์จแบตเตอรี่ ของ Galaxy A10 ยังคงเป็นแบบ Micro USB อแดปเตอร์เป็นแบบธรรมดา 5V, 2A ส่วนของ Galaxy A20 เป็นหัว USB-C อแดปเตอร์เป็นแบบ Fast-Charging สามารถชาร์จได้รวดเร็วกว่า
วัสดุและงานประกอบของ 2 รุ่นนี้จะต่างกันตรงที่ A10 เป็นพลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียว ไร้รอยต่อ แต่ A20 ตัวบอดี้เป็นพลาสติก แต่ฝาหลังเป็นพลาสติกใสครอบอีกที หรือที่เรียกว่า 3D Glasstic ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกระจกและพลาสติก ทำให้ดูพรีเมี่ยมขึ้น ด้านหลังของทั้งสองเครื่องดูต่างกันตรงที่ A20 มีเลนส์รับภาพแบบคู่ และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ ส่วน A10 ไม่มี
ขนาดตัวเครื่องเมื่อเทียบกัน Samsung Galaxy A10 จะเล็กกว่า และมีจอเล็กกว่าที่ ส่วน Samsung Galaxy A20 มีขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1560 พิกเซล) ส่วน A10 หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ เช่นกัน (720 x 1520 พิกเซล) ส่วนบนของหน้าจอมีกล้องหน้า ทำให้หน้าจอเป็นแบบ Infinity V Display
ทั้งสองรุ่นมีถาดใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านซ้าย เป็นแบบ 3 สล็อต มีช่องใส่ซิมการ์ด 2 ใบ และช่องใส่ microSD ส่วนด้านข้างขวามีปุ่มเปิด/ปิด และปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านล่างมีความต่างกันเล็กน้อย เพราะของ A20 เป็นช่องเสียบสายแบบ USB-C ส่วน A10 ยังคงใช้พอร์ตแบบ Micro USB ส่วนช่องลำโพง A20 อยู่ด้านล่างติดกับช่องเสียบสายชาร์จ แต่ A10 มีช่องลำโพงอยู่ด้านหลัง
อยากได้เลนส์ Ultra Wide ต้อง Samsung Galaxy A20
ในด้านการถ่ายภาพของรุ่นนี้มีจุดต่างกันเพียงอย่างเดียวคือ Samsung Galaxy A20 ที่มีเลนส์มาให้ 2 ตัว เพิ่มมาคือเลนส์ Ultra wide กว้าง 123 องศา ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพได้มุมมองกว้างขึ้นเช่นเดียวกันรุ่นใหญ่ และในรุ่น A20 ยังสามารถถ่ายภาพแบบ Live Focus หรือถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ด้วย และยังสามารถนำภาพมาปรับแต่งความเบลอของด้านหลังได้ด้วย
ส่วนเลนส์หลักทั้งสองรุ่นมีมาให้เหมือนกันที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F/1.9 มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกแบบ Pro, Panorama โหมดการถ่ายภาพสติ๊กเกอร์ ส่วนการถ่ายวิดีโอมีให้เลือกถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด FHD 1080p
สำหรับกล้องหน้า Samsung Galaxy A20 จะมีความละเอียดมากกว่าที่ 8 ล้านพิกเซล ส่วน A10 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งก็มีลูกเล่นการถ่ายภาพ Selfie มาให้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น Filters ให้เลือกมากกว่า 12 แบบ มี Beauty หรือโหมดหน้าเนียนให้เลือกปรับ 3 ระดับ ส่วนการถ่ายคลิปวิดีโอด้วยกล้องหน้าเลือกถ่ายได้ที่ความละเอียด FHD 1080p
หน่วยประมวลผลแรงเท่ากัน ต่างกันที่หน่วยความจำ
ในด้านสเป็คความแรงทั้งสองรุ่นนี้ใช้หน่วยประมวลผล Exynos 7884 Octa-core โดยแบ่ง 2-Core ความเร็ว 1.6 GHz และ 6-Core ความเร็ว 1.35 GHz ซึ่งหน่วยประมวลผลระดับนี้เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกมเบาๆ ได้แบบสนุกๆ แต่หากจะนำไปเล่นเกมที่มีกราฟฟิคหนักๆ ต้องปรับให้ภาพมีความละเอียดต่ำถึงจะเล่นได้ ส่วนหน่วยความจำทั้งสองรุ่นมีมาให้ 32 GB แต่ Galaxy A20 มี RAM มาให้ RAM 3 GB และ A10 มีมาให้ RAM 2 GB
บทสรุปในความคิดเห็นของ What Phone
ทั้งสองรุ่นมีความต่างกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ กล้องแบบ Ultra Wide, ขนาดแบตเตอรี่ ระบบการชาร์จเร็ว หน่วยความจำ และราคาก็ต่างกันเล็กน้อย โดยส่วนตัวแล้วหากชอบการถ่ายภาพควรเลือก Samsung Galaxy A20 เพราะมีเลนส์ Ultra Wide มาให้ ช่วยให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น สนุกยิ่งขึ้น เพราะทำให้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น แต่หากใช้งานทั่วไป ใช้เป็นเครื่องสำรอง หรือซื้อให้ญาติผู้ใหญ่ใช้ Samsung Galaxy A10 จะเหมาะกว่า สเป็คเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
สรุปสเป็ค Samsung Galaxy A10
- หน้าจอแบบ Infinity-V ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+
- CPU : Exynos 7884
- RAM : 2 GB
- ROM : 32 GB (เพิ่ม microSD Card ได้)
- กล้องหน้าความละเอียด 5 MP (F/2.0)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 MP (F/1.9)
- แบตเตอรี่ขนาด 3,400 mAh
- ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แต่มีระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
- OS : Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย One UI
- ราคา 4,490 บาท
สรุปสเป็ค Samsung Galaxy A20
- หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-V ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด HD+
- ดีไซน์ฝาหลังแบบ 3D Glasstic ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างกระจกและพลาสติกนั่นเอง
- CPU : Exynos 7884
- RAM : 3 GB
- ROM : 32 GB (เพิ่ม microSD Card ได้)
- กล้องหน้าความละเอียด 8 MP (F/2.0)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 MP (F/1.9) + 5 MP (F/2.2) แบบมุมกว้าง 123 องศา
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
- OS : Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย One UI
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
- ราคา 5,890 บาท