นาทีนี้ต้องบอกว่าไม่มีแอพฯ แชตไหนในไทยที่จะร้อนแรงได้มากไปกว่า LINE อีกแล้ว ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจากปีก่อน จนมีผู้ใช้ในไทยเป็นอันดับ 2 ของโลกถือเป็นผู้ใช้ชาวไทย 20 ล้านคน
รองจากญี่ป่นเท่านั้น และแน่นอน LINE ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามข่าวคราวกัน
LINE เปิดตัว LINE Web Store
LINE ประกาศเปิดบริการหน้าเว็บสโตร์ออนไลน์ LINE Web Store สำหรับประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
หน้าเว็บ LINE Web Store เป็นร้านค้าออนไลน์ที่ใช้สำหรับซื้อสติกเกอร์, ซื้อเงินเพื่อซื้อไอเทมสำหรับเล่นเกมจาก LINE รวมทั้งสามารถส่งสติกเกอร์เป็นของขวัญให้กับเพื่อนได้ โดยวิธีการซื้อสินค้าบนหน้าเว็บจะใช้วิธีการใช้การเติมเงินผ่านบัตรเงินสด ซึ่งมีให้เลือก 2 ค่ายคือ AIS 1-2-Call และ True Money
แต่เมื่อลองเทียบกับบริการในประเทศญี่ปุ่นแล้วจะยังไม่มีการรองรับการจ่ายด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเติมเงินจาก LINE
บริการนี้ถือว่าทำออกมาเพื่อผู้ที่ใช้งาน LINE ที่ไม่สะดวกที่จะซื้อสติกเกอร์ผ่านสมาร์ทโฟนสามารถทำผ่านหน้าเว็บได้ ซึ่งคนที่ได้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Naver นั่นเอง แต่นี่ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่ตอกย้ำอีกครั้งว่า Naver บุกไทยเพื่อมาสร้างเม็ดเงินอย่างจริงจัง ในฐานะที่มีผู้ใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น
LINE ลุยตลาด Mobile Commerce ในไทย
Maybelline New York แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังในเครือ L’Oreal จับมือกับ LINE และ E-commerce Logistic ครบวงจรอย่าง aCommerce ทำให้ผู้ใช้ LINE สามารถซื้อสินค้าจากร้านชั่วคราวที่ชื่อ Maybelline Flash Sale ได้โดยตรง เปิดให้เลือกซื้อสินค้าในช่วง 16-20 ธันวาคม 2556 เท่านั้น โดยผู้มาดูแลในส่วนคลังสินค้า งานบริการ และจัดส่งสินค้าจะอยู่กับทางบริษัท aCommerce เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งผู้ใช้สามารถจ่ายเป็นเงินสดเมื่อรับสินค้าได้ (Cash on Delivery: COD) หมดกังวลเรื่องการใช้บัตรเครดิตผ่านโลกออนไลน์ไปได้ แต่ถ้าใครสะดวกจ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีการเปิดขายเคส iPhone ลายตุ๊กตาน่ารักๆ ของ LINE เพียงแค่ 25 นาทีเท่านั้นก็ขายหมดไปอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการจับมือร่วมกันเพื่อผลักดันให้ Mobile Commerce สามารถเกิดขึ้นในไทย แม้จะยังเป็นเพียงแคมเปญเริ่มต้น แต่ก็หวังว่าเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ตามมาอีกในเชิงนวัตกรรมแต่ก็ล้อไปกับการใช้งานจริงของผู้บริโภคได้
LINE Mall สื่อกลางขายสินค้าระหว่างผู้ใช้
ข่าวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในไทย แต่เป็นที่ญี่ปุ่นกับ LINE Mall เป็นสื่อกลางการซื้อขายสินค้าระหว่างผู้ใช้งานกันเอง
อาจเพราะการซื้อขายสินค้าออนไลน์นั้น แม้จะมีเพจหรือเว็บไซต์ แต่อย่างไรก็ตามการตกลงซื้อขายสินค้า ถ้าไม่ใช่ร้านค้าออนไลน์รายใหญ่ที่สามารถเปิดรับบัตรเครดิตได้ พวกเขามักจะปิดการซื้อขายผ่านทางอีเมลหรือการส่งข้อความผ่านการแชทระหว่างผู้สนใจสินค้า และผู้ค้า
LINE Mall จึงเข้ามาช่วยให้การขายสินค้า อย่างเสื้อผ้ามือสองโดยเจ้าของเอง หรือสินค้ามือหนึ่งโดยบุคคลทั่วไปนั้นง่ายขึ้น โดย LINE Mall นั้นเปิดให้ผู้ใช้บริการ Android ในประเทศญี่ปุ่นดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวผ่าน Google Play ได้แล้ว (ยังไม่มีรายงานถึง iOS)
การใช้งาน LINE Mall ผู้ขายสินค้าสามารถประกาศขายสินค้าไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทาง LINE จะหักรายได้ 10% จากราคาสินค้าที่ขายได้ ซึ่งในการขายสินค้าแต่ละชิ้นผู้ขายได้รับคะแนน มูลค่า 1 เยน (หรือประมาณ 0.31 บาท) ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้เป็นส่วนลด ให้ LINE หักรายได้ของพวกเขาลดลงได้ การประกาศขายสินค้าจะใช้ ID LINE โดยตรงหรือจะสมัคร LINE Mall ID เพิ่มเติมก็ได้ อนึ่ง LINE Mall จะเปิดตัวให้ใช้บริการจริงในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า สำหรับบ้านเราก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
จากทั้ง 3 ข่าวถือเป็นก้าวสำคัญของ LINE หลังจากสร้างฐานผู้ใช้ที่แข็งแรงอย่างเต็มที่ นำพาสู่โลกของเกม และตอนนี้ขยายสู่ภาค E-Commerce ควบคู่ไปกับการจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เพื่อผลักดันให้การใช้งานง่าย ลดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ อันเกิดจากช่องทางการชำระเงินออนไลน์อีกด้วย ปีหน้าน่าจะเป็นปีสำคัญอีกปีของ LINE ที่เราต้องจับตาว่า LINE จะเข้ามามีบทบาทในโลก Ecommerce ของไทยเราอย่างไรบ้าง งานนี้ห้ามพลาด!
