หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทวอชสำหรับใช้งานออกกำลังกายหน้าจอสีสวยแบบครบเครื่องในราคาเบาๆ Huawei Watch GT Active Edition ตอบโจทย์ของคุณอย่างแน่นอน เพราะด้วยราคาสบายกระเป๋าไม่ถึงหกพันบาทก็ได้ครบทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน ดีไซน์ที่เหมือนนาฬิกาทั่วไป อีกทั้งยังใช้งานได้ยาวนานด้วย
Huawei Watch GT Active Edition กับสมาร์ทโฟน Huawei P30 Pro สี Amber Sunrise
แกะกล่องลองใช้ Huawei Watch GT Active Edition
กล่องของสมาร์ทวอชรุ่นนี้มาในแบบสีดำสนิท เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสายสีส้ม ซึ่งก็สามารถถอดเปลี่ยนสายสีอื่นได้เพื่อให้เข้ากับกาละเทศะ ภายในกล่องมี
- สมาร์ทวอช Huawei Watch GT Active Edition
- แป้นชาร์จแบบวงกลม
- สาย USB-C
- คู่มือการใช้งาน
ดีไซน์ของ Watch GT ทำออกมาได้เหมือนกับนาฬิกาจริงมาก ขอบของหน้าจอมีตัวเลขถึง 0 ถึง 24 ซึ่งใช้สัญลักษณ์เป็นสามเหลี่ยมอยู่ตรงกลางพอดี ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าหมายถึงเวลา 0.00 นาฬิกา หรือเป็นเวลาเที่ยงคืน ซึ่งหากไล่ไปตามเข็มนาฬิกาก็จะมีเลข 2 ไปจนถึง 22 ใช้บอกเวลาเมื่อใช้หน้าปัดแบบเข็ม ส่วนขีดจะหมายถึงนาที รวมทั้งหมดก็ 60 นาทีตามการนับเวลาของนาฬิกาทั่วไป ขอบตรงนี้ไม่สามารถหมุนได้ ตัวเรือนใช้วัสดุเป็นโลหะ
จอภาพของรุ่นนี้เป็นวงกลมแบบเต็มวง มีขนาดหน้าจอ 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล ใช้จอภาพแบบ AMOLED ที่ให้สีสันสวยงามมาก เป็นจอแบบสัมผัส สามารถแตะสั่งงานได้
ที่ด้านหลังเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจโดยใช้เป็นไฟ LED สีเขียว นอกจากนี้ยังมีหน้าสัมผัสของแป้นชาร์จแบตเตอรี่
ที่ด้านข้างขวามีปุ่มให้กดใช้งาน 2 ปุ่ม ปุ่มบนคือปุ่มเรียกใช้งานเมนูต่างๆ พร้อมกับทำหน้าที่เป็นปุ่ม Back และปุ่ม Home ในเวลาเดียวกัน ส่วนปุ่มล่างเป็นปุ่ม Enter เข้าใช้งานเมนู หรือหากกดค้างไว้เป็นการล็อคหน้าจอ ทั้งสองปุ่มนี้สามารถหมุนได้ แต่ไม่สามารถหมุนใช้งานในเมนูต่างๆ ได้
สายของรุ่น Active Edition ที่ได้มาทดสอบเป็นสีส้ม ใช้วัสดุเป็น Fluoroelastomers (ฟลูออโรอีลาสโตเมอร์) อาจจะเรียกยากหน่อย แต่มันก็คือยางชนิดหนึ่งที่มีความคงทน ยืดหยุ่น ทนต่อเหงื่อได้สบายๆ สามารถถอดเปลี่ยนได้โดยถอดสลักที่อยู่ด้านหลัง สามารถถอดเปลี่ยนเองได้อย่างง่ายดาย
รองรับรูปแบบการออกกำลังกายที่หลากหลาย ใช้ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์
ด้วยภาครับสัญญาณ GPS ในตัว จึงสวมใส่ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ติดตัวไปให้เกะกะ รองรับทั้ง GPS, GLONASS และ Galileo จึงสามารถแทร็คตำแหน่งการวิ่ง การเดิน ปั่นจักรยาน ปีนเขา วิ่งเทรล วิ่ง จ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ฯลฯ รวมไปถึงไตรกีฬาด้วย ซึ่งก็ถือว่าครบพอสมควรทีเดียว โดยตัวเครื่องสามารถกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM
นอกจากนี้ยังมีโค้ชส่วนตัวที่จะคอยแนะนำคอร์สต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่ง การเดิน หรือการออกกำลังกายโดยเน้นเผาผลาญไขมันมาให้เลือกด้วย (Fat burning) และเมื่อออกกำลังกายเสร็จก็จะมีสรุปทั้งเส้นทาง ความเร็ว ระยะทาง แคลอรี่ที่เผาผลาญ และค่า V02Max ที่จะบอกความฟิตของร่างกายมาให้ด้วย ซึ่งปกติแล้วจะมีเฉพาะในสมาร์ทวอชที่มีราคาแพงเท่านั้น
ด้วยเทคโนโลยีของ Heart rate sensor ในรุ่นนี้ทาง Huawei เรียกว่า Huawei TrueSeen 3.0 สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ วัดอัตราการเต้นแบบ Real time ตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยสามารถย้อนกลับมาดูได้ว่าวันนี้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง หน้าจอจะบอกอัตราเต้นสูงสุด และต่ำสุด แล้วนำค่าที่วัดได้ทั้งหมดมาคำนวนเป็นอัตรการเต้นของหัวใจขณะพักผ่อนได้
ฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ ก็ยังมีมาให้ใช้อย่างครบครัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทวอชที่เน้นการออกกำลังกายแล้ว ฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ ก็ยังมีมาให้ครบ ทั้งการนับก้าวเดิน, การนอนหลับ, ค่าเฉลี่ยอัตราการเต้นของหัวใจ โดยสรุปออกมาให้ในแต่ละวัน และสามารถกำหนดเป้าหมายของแต่ละอย่างได้ด้วย ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้มาปรับการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเตือนให้ขยับร่างกายเมื่อนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานานเกิน 1 ชั่วโมง, จำนวนก้าวเดินในแต่ละวันที่ควรจะเดิน 8,000-10,000 ก้าว และเวลานอนควรจะพักผ่อนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง ถ้าทำได้ตามเป้าหมายทุกวันก็จะช่วยให้สุขภาพดี ห่างไกลจากโรค
สำหรับการแจ้งเตือนก็มีระบบสั่นเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า พร้อมรองรับภาษาไทยจากการแจ้งเตือนจากแอพฯ ต่างๆ ที่อยู่บนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นข้อความ SMS, Line, Facebook ฯลฯ ซึ่งสามารถเลือกการแจ้งเตือนจากแอพฯ ที่ต้องการได้
ใช้งานร่วมกับแอพฯ Huawei Health
สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนจะใช้งานผ่านแอพฯ Huawei Health สามารถดาวน์โหลดได้จาก Play store และ App store ของ iOS ภายในแอพฯ ก็จะมีสรุปข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากสมาร์ทวอช ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, การออกกำลังกาย, การนอนหลับ และยังเป็นแอพฯ ที่ใช้สำหรับอัพเดท Firmware ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด หรือจะเป็นการดาวน์โหลดหน้าปัดนาฬิกาเพิ่มเติมได้จากแอพฯ นี้
บทสรุปการใช้งานจากความเห็นของ What Phone
แรกเห็นก็รู้สึกประทับใจในดีไซน์ที่มาในรูปแบบของนาฬิกาหน้าปัดกลมทั่วไป สวมใส่ได้ทุกเทศกาล อย่างที่สองคือราคาถูกมากเมื่อเทียบกับความสามารถ ทั้งหน้าจอสีสันสดใส ฟังก์ชั่นการออกกำลังกายที่มาแบบครบครันเทียบเท่าสมาร์ทวอชในราคาหลักหมื่น อย่างที่สามคือใช้งานได้หลายวัน จากการทดสอบใช้งานทำได้นานถึง 10 วันต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยรวมแล้วทำได้น่าประทับใจ ถ้าต้องการสมาร์ทวอชไว้ติดตัวสักเรือน เรายกให้รุ่นนี้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งทั้งในด้านดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋ามากๆ ครับ
สรุปสเป็ค Huawei Watch GT Active Edition
- ขนาด 46.5 มม. x 46.5 มม. x 10.6 มม. น้ำหนัก 46 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้วแบบสัมผัส ความละเอียด 454 x 454
- ภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS, GLONASS, Galileo
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.2, BLE
- เซ็นเซอร์ Accelerometer sensor, Gyroscope sensor, Magnetometer sensor, Optical heart rate sensor, Ambient light sensor, Barometer sensor
- กันน้ำระดับ 5 ATM
- แบตเตอรี่ 420 mAh ใช้งานได้สูงสุด 14 วัน
- รองรับการใช้งานทั้ง Android และ iOS
- ราคา 5,990 บาท
