บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่และความสำเร็จในการสร้างสรรค์อีโคซิสเต็มอย่างครบวงจร เนื่องในโอกาสพิเศษครบรอบ 20 ปีของหัวเว่ย ในประเทศไทย ในงาน Digital Thailand Big Bang 2019: ASEAN CONNECTIVITY ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2562 ภายใต้แนวคิด “สานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต”
พร้อมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็น 5G, 5G Ecosystem, Smart City, Huawei Cloud และ Huawei Mobile ที่จะช่วยนำนวัตกรรมดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกครัวเรือนและทุกองค์กรในงาน Digital Thailand Big Bang 2019 บนพื้นที่พาวิลเลียนขนาดใหญ่กว่า 400 ตารางเมตร ในโซน BP 11-12 ณ ศูนย์การแสดงนิทรรศการไบเทค บางนา โดยพาวิลเลียนของหัวเว่ยได้แบ่งจัดแสดงเป็น 5 โซน ครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวกับ Smart Ecosystem ในประเทศไทย ดังนี้
โซน A: “เร่งเครื่องสู่ 5G”
ในฐานะผู้นำด้านการติดตั้งเทคโนโลยี 5G หัวเว่ยพาบุกเบิกประสบการณ์เทคโนโลยี 5G เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำ 5G มาใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย และนวัตกรรมโซลูชั่นทางธุรกิจที่ช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับบริษัทโทรคมนาคม เช่น การใช้งานเชิงดิจิทัลแบบครบกระบวนการและการสร้างรายได้จากคุณค่า บริการ B2B One-Stop Could Services บรอดแบนด์บ้านแบบพรีเมียม และ Could IoT
โซน B: ระบบนิเวศ 5G “สร้างสรรค์ธุรกิจ 5G”
เทคโนโลยี 5G กำลังเปลี่ยนสังคมโลกและเชื่อมต่อทุกสิ่งไว้ด้วยกัน ในขณะที่แอปพลิเคชัน 5G ใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมทั้งโทรคมนาคม สื่อ การผลิต การเดินทาง การบริการสาธารณะและการศึกษา โดยจัดแสดงผลงานที่แสดงให้เห็นถึงพลังของเครือข่าย 5G ที่เปลี่ยนโฉมรูปแบบธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงสมาร์ทอินดัสทรี สมาร์ทไลฟ์ บริการเอไอและการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ โดยตัวแทนจาก 8 บริษัทใหญ่จากประเทศจีนและเกาหลี นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังได้รับชมและทดลองควบคุมโดรนในเมืองชิงเต่า ประเทศจีน แบบเรียลไทม์ การถ่ายวิดีโอแบบคมชัดระดับ HD ด้วยโดรน การตรวจสอบระบบไฟฟ้าสมาร์ทกริด (smart grid inspections) ระบบวิดีโอรักษาความปลอดภัย การสั่งการระยะไกลที่แม่นยำผ่านแว่นตา AR และการใส่จอแสดงผลแบบสวมศีรษะ (HMD) เพื่อเล่นเกม VR กับเพื่อนที่อยู่อีกที่หนึ่งได้อีกด้วย
โซน C: เมืองอัจฉริยะ “เมืองแห่งนวัตกรรมชั้นนำด้านไอซีที เพื่อการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบ”
จัดแสดงโซลูชั่นสมาร์ทซิตี้ของหัวเว่ยที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น IoT, Cloud Computing, Big Data และเทคโนโลยี ICT ในการช่วยภาครัฐยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของพลเมือง นำไปสู่การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ประกอบด้วยแพลตฟอร์มพื้นฐาน ได้แก่ แพลตฟอร์มดิจิทัล, แพลตฟอร์ม Intelligent Operation Center (IOC), บริการ Intelligent City Services, ระบบ Smart Government, ระบบ Smart Campus,พลังงานแห่งอนาคต, ระบบการดูแลสุขภาพแบบอัจฉริยะ (Smart Healthcare), ระบบน้ำอัจฉริยะ (Smart Water) และ ระบบการจัดการขยะแบบอัจฉริยะ (Waste Management) และศูนย์จัดการเหตุฉุกเฉิน
โซน D: HUAWEI CLOUD “HUAWEI CLOUD เติบโตอย่างชาญฉลาด”
นำเสนอประสบการณ์และประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยมของบริการ HUAWEI CLOUD ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะระดับโลกรายแรกในประเทศไทย โดยมีดาต้าเซ็นเตอร์ 2 แห่ง และโซลูชั่น AI ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจไทยลดต้นทุนและยกระดับการบริการ ตามวิสัยทัศน์เชิงเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ รวมถึงนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของการใช้งาน COULD AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม และการจัดการด้านโลจิสติกส์ อินเตอร์เน็ต รวมถึงการค้าปลีก
โซน E: Huawei Mobile “เปลี่ยนความเป็นไปได้ของสมาร์ทไลฟ์”
สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมโยงอย่างไม่มีสะดุด ในยุค 5G ผ่านกลยุทธ์ “1+8+N” ของหัวเว่ย ซึ่งมีสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง โดย“1” คือโทรศัพท์มือถือ “8” คือผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย เช่น สมาร์ททีวี แท็บเล็ต อุปกรณ์สวมใส่ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อุปกรณ์เสริม และทุกสิ่งที่ช่วยสนับสนุนและยกระดับการใช้งานโทรศัพท์มือถือ และ “N” คือจุดที่
ทุกสิ่งเชื่อมต่อกัน นั่นคือสภาพแวดล้อมและบริการที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทั้งหมดทำงานร่วมกัน เช่น Smart Home, Exercise Health, Mobile Office และ Media Entertainment เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาในหัวข้อต่างๆ ครอบคลุมตั้งแต่เรื่อง 5G, Internet of Things ไปจนถึง Smart City, Cloud และ AI จากผู้เชี่ยวชาญของหัวเว่ยหลากหลายสาขาอีกด้วย