AirPods Pro หูฟังไร้สายรุ่นใหม่เปิดตัวมาแบบเซอร์ไพร์สในช่วงปลายเดือนตุลาคม และวางจำหน่ายในประเทศไทยช่องทางออนไลน์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และวันที่ 14 พฤศจิกายนก็ได้วางจำหน่ายที่ Apple Store Iconsiam โดยหูฟังรุ่นใหม่นี้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมดและมีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟมาให้ใช้งานกันด้วย สำหรับการใช้งานจะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามรีวิวกันได้เลย
สำหรับอุปกรณ์ในชุดจัดจำหน่ายจะประกอบไปด้วย หูฟังไร้สายพร้อมเคจชาร์จแบบไร้สาย, คู่มือการใช้งานภาษาไทย, จุกยางหูฟังอีก 2 ขนาด และสายชาร์จ USB-C to Lightning
สำหรับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่นี้ จะมาในดีไซน์ใหม่หมด และจะใช้หูฟังเป็นแบบ In-ear ตัวเคจมีขนาดสั้นลงแต่กว้างขึ้น เคจรองรับการชาร์จแบบไร้สาย สามารถใช้ชาร์จไร้สายกับอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Qi และมีพอร์ต Lightning สำหรับชาร์จแบบใช้สายอยู่ด้านล่างตัวเคจ และด้านหลังมีปุ่มสำหรับการ Reset หรือการเปิดการเชื่อมต่อใหม่
ตัวก้านหูฟังสั้นลงกว่ารุ่นที่แล้ว โดยจะมีเซ็นเซอร์มาให้ใช้งานควบคุมเพลง และเปิด/ปิดโหมดตัดเสียงรอบข้าง และมีไมโครโฟนสนทนามาให้ มีคุณสมบัติกันเหงื่อ กันละอองน้ำ IPX4 ใส่ออกกำลังกายได้
การเชื่อมต่อกับ iPhone, iPad, Apple Watch และ Mac ที่ง่ายดาย
การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายดาย เพียงแค่เปิดเคจหูฟังขึ้นมา จากนั้นวางไว้ใกล้ๆ iPhone ก็จะขึ้นหน้าจอให้ทำการเชื่อมต่อทันที และถ้าใครที่มีอุปกรณ์ Apple อื่นๆ อาทิ iPad, Apple Watch และ Mac ที่ล็อคอินด้วย Apple ID เดียวกัน ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่เปิดฟังเพลงผ่าน Apple Music ก็จะทำการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ หรือจะเปิด Bluetooth แล้วกดเชื่อมต่อเองก็ได้
ค้นหาขนาดที่ใช่ด้วย Ear Tip Fit Test
ในตอนแรกคิดว่าการเป็นหูฟัง In-Ear จะทำให้เรารู้สึกอึดอัด แต่เวลาใช้งานจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอัดอัดแต่อย่างใด และถ้าใครที่กังวลว่าจุกยางที่ติดมาจะไม่พอดีกับใบหู เราสามารถใช้ Ear Tip Fit Test ทำการทำสอบได้ โดยเข้าไปที่ Settings > Bluetooth แตะ i ของหูฟัง จากนั้นเลือก Ear Tip Fit Test แล้วทำการทดสอบได้ทันที
ตัดเสียงรบกวนได้ดี หรือจะเปิดฟังเสียงรอบข้างในขณะใช้งานก็ได้
นอกจากจะมีการปรับดีไซน์ใหม่แล้ว ยังมีการเพิ่มระบบ Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนรอบข้างเข้ามา โดยเป็นเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟที่มีการใช้ไมโครโฟนสองตัวร่วมกับซอฟท์แวร์ปรับการทำงานเพื่อให้เข้ากับหูของผู้ใช้แต่ละคน แต่ถ้าหากอยากได้ยินเสียงภายนอกก็สามารถบีบเซ็นเซอร์ที่ก้านเพื่อเปลี่ยนมาใช้ Transparency Mode (โหมดฟังเสียงภายนอก) ได้ทันที
นอกจากนี้ยังมี Adaptive EQ ที่เป็นฟีเจอร์ปรับจูนเพลงให้เข้ากับทรงหูของเราโดยอัตโนมัติ ช่วยให้เสียงของ AirPods Pro ดีกว่าเดิมและใช้ฟังเพลงได้หลายแนวยิ่งขึ้น แต่ Adaptive EQ จะทำงานต่อเมื่อเปิดโหมด noise-cancelling อยู่เท่านั้น ถ้าเปิดโหมดให้เสียงรอบข้างเข้ามาจะไม่ทำงาน
สรุปการใช้งาน AirPods Pro
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟทำได้ดีกว่าคาดไว้ ชอบที่มีการออกแบบช่องระบายอากาศให้ผู้สวมใส่ไม่ได้รับผลกระทบจากสูญญากาศเหมือนกันหูฟังรุ่นอื่น ใช้งานแล้วไม่รู้สึกอึดอัด รวมถึงเวลาใช้งานบนเครื่องบินก็ค่อนข้างสบายไม่มีผลกระทบจาการอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลแต่อย่างใด สามารถใส่ฟังเพลง, ดูหนัง หรือเล่นเกมก็ได้ ไม่มีดีเลย์ แถมยังมีระบบช่วยตรวจสอบว่าผู้ใช้งานเลือกจุกหูฟังได้เหมาะสมหรือไม่อีกด้วย ชอบการออกแบบที่ดูลงตัว และ รู้สึกพอใจกับTransparency Mode (โหมดฟังเสียงภายนอก) ที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น สามารถเปิดโหมดได้ง่ายเพื่อฟังเสียงที่เข้ามาจะเป็นแบบช่วงสั้น ๆ เช่นเสียงประกาศของสนามบินหรือรถไฟฟ้า ช่วยให้ไม่พลาดประกาศสำคัญได้ หรือจะเปิดโหมดเพื่อคุยกับเพื่อนๆ แบบรวดเร็วได้ ในส่วนของการปรับดีไซน์และการกันเหงื่อก็ช่วยอำนวยความสะดวกตอนออกกำลังกายในยิมหรือในชีวิตประจำวันที่ต้องเดินทางวิ่งขึ้นลงรถเมล์ รถไฟฟ้าได้ดีมาก
ในเรื่องของเสียงหากเทียบในเรื่องของราคา อาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากับหูฟังไร้สายรุ่นอื่นๆ แต่เสียงที่ได้ออกมาก็ไม่ได้น่าเกลียด เป็นเสียงค่อนข้างกลางๆ มีเบสพอให้รู้สึก เรียกได้ว่าฟังได้ทุกแนว ส่วนการใช้งานสนทนาก็ตัดเสียงรอบข้างได้ดี ทดสอบคุยกับเพื่อนริมถนน ก็ยังได้ยินเสียงรถผ่านไปมา แต่เสียงพูดยังได้ยินชัดเจน และส่ิงที่ชื่นชอบมากที่สุดก็คือการย้ายไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
AirPods Pro ราคา 9,490 บาท วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ Apple Store Iconsiam, apple.com และร้านตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ
เปรียบเทียบ AIRPODS PRO รุ่นใหม่ กับ AIRPODS 2 ต่างกันอย่างไร?
- สำหรับด้านดีไซน์หูฟังรุ่นใหม่นั้นจะมาในดีไซน์แบบ In-Ear มีจุกยางให้เลือกเปลี่ยนได้ 3 ขนาด ส่วน AirPods 2 จะเป็นแบบ Earbud มีเพียงขนาดเดียวให้เลือกใช้งาน
- ในด้านประสิทธิภาพรุ่นใหม่จะมาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและสามารถปรับ EQ ได้เอง แต่ทั้งคู่ใช้ชิพ H1 เหมือนกัน และสามารถเรียกใช้งาน Siri ผู้ช่วยประจำตัวได้
- หูฟังรุ่นใหม่มีคุณสมบัติทนเหงื่อและน้ำระดับ IP4X ไม่สามารถใส่ลงว่ายน้ำหรือกีฬาทางน้ำได้ แต่ AirPods 2 ไม่มีคุณสมบัตินี้
- ด้านแบตเตอรี่หูฟังรุ่นใหม่จะฟังได้นาน 4.5 ชั่วโมง ส่วน AirPods 2 จะฟังได้นาน 5 ชั่วโมง และฟังได้นาน 24 ชั่วโมงเหมือนกัน เมื่อมีเคจชาร์จแบบไร้สาย
- เคจชาร์จของหูฟังรุ่นใหม่จะเป็นแบบชาร์จไร้สาย ส่วน AirPods 2 จะมีให้เลือก 2 แบบ ระหว่างเคสชาร์จแบบไร้สายหรือเคสชาร์จแบบมาตรฐานผ่านพอร์ต lightning เพียงอย่างเดียว
- หากสั่งซื้อผ่าน apple.com และแอพ Apple Store จะสลักข้อความส่วนตัวได้ฟรี
จบไปแล้วสำหรับรีวิว สำหรับใครที่อยากติดตามรีวิว, บทความ, ทิป เทคนิค การใช้งานต่างๆ และข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์ เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลย
