Vivo Y Series ยังคงครองใจผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนในระดับที่คุ้มค่า ดีไซน์ที่สวยงาม และถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กอย่าง Vivo Y20 รุ่นนี้ก็มีดีไซน์ที่สวยงามไม่แพ้กับรุ่นอื่นๆ เปิดตัวมาด้วยราคาเพียง 5,299 บาท แต่จะมีลูกเล่น และจุดเด่นในด้านไหนบ้างเรามาดูกันครับ
แกะกล่องลองเล่น Vivo Y20
ภายนอกกล่องของ Y Series รุ่นนี้ถูกออกแบบมาใหม่ในดีไซน์ที่เรียบง่าย ที่ด้านหลังกล่องจะมีจุดเด่น 3 จุดหลักๆ บ่งบอกเอาไว้ นั่นก็คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh, มีกล้องมาให้ 3 เลนส์ และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านข้าง มาแกะดูภายในกล่องว่ามีอะไรบ้าง
- Vivo Y20 สี Nebula Blue
- อแดปเตอร์กำลังไฟ 10 วัตต์
- สาย Micro USB
- เคสใสแบบ TPU
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ต่างๆ ตามรายการข้างต้น จะเห็นว่ารุ่นนี้ไม่มีหูฟังมาให้ แต่เชื่อว่าผู้ใช้หลายๆ ท่านน่าจะมีหูฟังคู่โปรดประจำตัวอยู่แล้ว หรือไม่ก็หาซื้อเพิ่มได้ในราคาไม่กี่ร้อยบาท นอกจากนี้ Vivo ยังมีหูฟังไร้สายแบบ True Wireless อย่าง Vivo TWS Neo วางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้การฟังเพลงเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น
อ่านรีวิวหูฟัง True Wireless Vivo TWS Neo คลิกที่นี่
Vivo Y20 ถูกออกแบบมาได้อย่างลงตัว มีขนาดที่ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนขอบของตัวเครื่องโค้งรับกับอุ้งมือ ทำให้ถือใช้งานได้ถนัดมือ ภายในกล่องยังมีเคสใสแบบยืดหยุ่นได้ เมื่อใส่แล้วก็จะยิ่งจับถนัดมือ และใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเครื่องเป็นรอย อีกทั้งยังใสเห็นสีสันที่สวยงามของตัวเครื่องได้อย่างชัดเจน และที่หน้าจอก็ยังมีฟิล์มกันรอยติดมาให้จากโรงงานเรียบร้อย แทบไม่ต้องไปร้านเสียเงินเพิ่มเลย
จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ IPS พร้อมเทคโนโลยี In-cell ที่ให้สีสันสวยงามสมจริง มองเห็นชัดเจนแม้แสงแดดจ้า เหนือจอแสดงผลมีกล้องที่ฝังอยู่บนหน้าจอที่ทาง Vivo เรียกว่า Halo FullView Display ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ระดับ HD+ หรือความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล อัตราส่วนการแสดงผลอยู่ที่ 20:9 และยังมีเทคโนโลยีกรองแสงสีฟ้าที่ช่วยถนอมสายตาอีกด้วย
ด้านหลังสี Nebula Blue ที่ทำออกมาได้สวยงามมาก ไล่เฉดสีจากสีฟ้าอมเขียวไปสีน้ำเงินเข้ม เมื่อกระทบกับแสงในมุมต่างๆ จะมองเห็นมิติของสีที่ซ่อนไว้ และเมื่อออกแดดก็จะเห็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ภายในกรอบเลนส์ที่ยื่นออกมาเล็กน้อยมีเลนส์รับกล้องมา 3 เลนส์พร้อมไฟแฟลชแบบ LED แต่เมื่อใส่เคส กรอบนี้จะถูกปกป้องเมื่อวางบนพื้นโต๊ะ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นรอย
ช่องใส่ถาดซิมการ์ดอยู่ที่ด้านข้างซ้าย เป็นถาดแบบ 3 ช่องแยก SIM1, SIM2 และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว ใช้งานได้ถนัด ปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา ช่องเสียบสายชาร์จแบบ Micro USB และสุดท้ายกับช่องลำโพงของตัวเครื่อง
สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง ปลดล็อคได้ง่ายและเร็วกว่า
ถือเป็นรุ่นแรกของ Vivo ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งรวมไปกับปุ่มเปิดปิดเครื่องในตัว ข้อดีที่นอกจากจะทำให้ดีไซน์ด้านหลังของตัวเครื่องดูโล่ง ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ซึ่งปกติเวลาใช้งานเราจะต้องกดปุ่มเปิดเครื่องอยู่แล้ว ถือเป็นการรวมขั้นตอนการเปิดใช้งานเครื่องไว้ในขั้นตอนเดียว
การปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือหากใช้งานด้วยมือซ้าย จะสามารถใช้นิ้วชี้ หรือนิ้วกลางจะถนัดกว่า แต่หากใช้งานด้วยมือขวาจะใช้นิ้วโป้งได้สะดวกกว่า โดยระบบสแกนลายนิ้วมือจะสามารถบันทึกได้สูงสุด 4 นิ้ว ซึ่งตามสเป็คแล้วจะปลดล็อคได้เร็ว ใช้เวลาเพียง 0.22 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ระบบสแกนใบหน้าปลดล็อคได้ด้วยเช่นกัน
หน่วยประมวลผล Snapdragon 420 เร็ว แรง ใช้งานได้ลื่นไหล
เป็นที่ยอมรับแล้วว่าหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon เป็นชิพที่มีความเร็ว แรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน เครื่องไม่ร้อน และในรุ่นนี้ก็ยังใช้ชิพ Snapdragon 420 มาพร้อมหน่วยความจำ RAM 4 GB และ ROM 64 GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD เพิ่มอีกสูงสุด 256 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 10 ใหม่ล่าสุด ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5 ที่ใช้งาน ง่าย อินเตอร์เฟสสวยงาม มาพร้อมผู้ช่วยอย่าง Jovi อัจฉริยะที่จะช่วยเตือนการใช้งานหน้าจอ การตั้งค่าถนอมสายตา ตั้งเตือนการดื่มน้ำ และรายงานข่าวสารล่าสุด
Vivo Y20 ก็สามารถเล่นเกม 3D ได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นเกม Call of Duty Mobile, PUBG Mobile ซึ่งเกมเหล่านี้จำเป็นจะต้องใช้ชิพประมวลผลที่มีความแรง อีกทั้ง Vivo ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Ultra Game Mode ซึ่งจะช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยระบบจะทำการจัดสรรทรัพยากรที่มีทั้งหมดในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจำ หรือหน่วยประมวลผลมาช่วยในการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีโหมด E-sport ที่จะช่วยจัดการการแจ้งเตือน และสายโทรเข้า ไม่ให้รบกวนการเล่นเกมที่อาจจะทำให้เราแพ้ได้เมื่อมีอะไรมาขัดจังหวะ สุดท้ายกับโหมด Ultimate Esports ที่จะปิดการใช้งานแอพฯ ที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้การเล่นเกมลื่นไหลมากขึ้น
ในการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพฯ Antutu 3D Benchmark ซึ่งเป็นแอพฯ ที่เราทำการทดสอบกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่รีวิว สามารถทำคะแนนได้ถึง 149,507 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจกับสมาร์ทโฟนในเรทราคาระดับนี้ ส่วนแอพฯ Geekbench 5 ก็สามารถทำคะแนน Single core ได้ 255 คะแนน และ Multi core ได้ 1144 คะแนน
กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมระบบแต่งภาพ AI สุดเทพ
ในด้านการถ่ายภาพ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็มีกล้องมาให้ถึง 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลสำหรับทำหน้าชัดหลังเบลอ และเลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพในระยะใกล้สุดประมาณ 4 ซม. ทำให้เห็นภาพในมุมมองในระยะใกล้สุดๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็น
สำหรับการถ่ายภาพนั้นก็มีโหมดถ่ายภาพมาให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ Panorama, Portrait, Slow-mo, Time-lapse, Pro หรือ Live photo มีให้เลือกปรับภาพถ่ายแบบ HDR, เลือกปรับ Filter ได้มากกึง 19 แบบ ในโหมดถ่ายวิดีโอสามารถเลือกถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p หรือจะเลือกปรับไปที่ HD 720p ก็ได้เช่นกัน
ในโหมด Portrait ยังมีให้เลือกปรับความงาม ไม่ว่าจะเป็นปรับผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับขาว, หน้าเรียว, ดวงตา, หน้าผาก, กราม ฯลฯ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดต่างๆ ให้เลือกเช่นเดียวกับการถ่ายด้วยกล้องหน้า และยังถ่ายหน้าชัดหลังบเบลอได้ด้วยกล้องหน้าเพียงเลนส์เดียว
มาถึงโหมดการตกแต่งภาพที่มาพร้อมระบบ AI กันบ้าง สำหรับการถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ก็สามารถเลือกจุดโฟกัสได้ว่าจะให้ชัดตรงไหน สามารถกดปรับได้เลย รวมไปถึงความเบลอของฉากหลังสามารถเลือกได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16
การแต่งภาพในโหมด เอฟเฟ็กต์แสงก็มีให้เลือกแสงในสภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงประกาย, แสงเล็กลอด, แดดจัด เป็นต้น สามารถจัดเลือกตำแหน่งแสงไฟได้เองด้วย
หากเราได้ภาพถ่ายที่มีบุคคล หรือสิ่งที่ไม่ต้องการให้ปรากฎบนภาพก็สามารถใช้ฟีเจอร์ ยางลบวัตถุ เพียงแค่เลือกส่วนที่เราไม่ต้องการก็สามารถลบภาพคน หรือวัตถุเหล่านั้นออกไปได้อย่างง่ายดาย
ในโหมด AI Makeup สามารถปรับแต่งใบหน้าสวย, แต่งหน้า หรือปรับรูปร่างก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะหน้าสด หรือพึ่งตื่นนอน หรือไม่ได้แต่งหน้า เข้าโหมดนี้ก็เหมือนกับได้แต่งหน้าแบบจัดเต็ม
นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งโทนสี ความสว่าง ใส่ฟิลเตอร์ ใส่สติ๊กเกอร์ เพิ่มข้อความลงบนภาพถ่าย
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย
แบตเตอรี่มีมาให้มากถึง 5,000 mAh สามารถใช้งานแบบปกติทั่วไปได้ยาวๆ 2 วันได้แบบสบายๆ แต่หากใช้เล่นเกมนานๆ ระยะเวลาก็อาจจะลดลงไปตามการใช้งาน ในกล่องยังมาพร้อมกับอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 10 วัตต์ อาจจะใช้เวลาชาร์จนานหน่อย แต่ถ้าชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอนรับรองว่าเต็มพร้อมใช้งานได้ทั้งวันอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วเรายังแชร์แบตเตอรี่ผ่านสาย USB ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นชุดหูฟังบลูทูธ หรือแม้กระทั่งชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้ แต่สำหรับการชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นอาจจะต้องอาศัยตัวแปลงพอร์ตเพื่อที่จะแปลงจาก USB-A เป็น USB-C หรือ Micro USB และสามารถจ่ายไฟได้ที่ 1 แอมป์ หรือ 5 วัตต์เท่านั้น
บทสรุป Vivo Y20 ในความเห็นของ What Phone
ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราต้องแนะนำให้กับทุกท่านที่ติดตามเรา Vivo Y20 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม และประสิทธิภาพนั้นแรงเกินราคาด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 420 รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ดูหนัง เล่นเกม 3D ได้อย่างลื่นไหลจนน่าแปลกใจ อีกทั้งยังมาพร้อมกล้อง 3 เลนส์ที่ถ่ายภาพได้สวยงาม มีระบบ AI ช่วยทั้งการถ่ายภาพ และการแต่งภาพ ลูกเล่นในการถ่ายภาพครบครันจริงๆ ทั้งหมดนี้หาได้ในราคาเพียง 5,299 บาทเท่านั้น
สรุปสเป็ค Vivo Y20
- ขนาด 164.41 × 76.32 × 8.41 มม. น้ำหนัก 192.3 กรัม
- หน้าจอ IPS แบบ Halo FullScren ขนาด 6.51นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล)
- ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- หน่วยประมวล Qualcomm Snapdragon 420 Octa-core
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D
- หน่วยความจำ RAM 4 GB, ROM 64 GB
- เพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- เลนส์หลักความละเอียด 13 MP f/2.2
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 MP f/2.4
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 MP f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 MP f/1.8
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD
- ระบบชาร์จไฟ กำลังไฟ 10 วัตต์
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
- Funtouch OS 10.5 บนระบบปฏิบัติการ Android 10
- เชื่อมต่อ Wi-Fi รองรับ 2.4 GHz และ 5 GHz
- มีวิทยุ FM ในตัว
- มี 2 สี Nebula Blue และ Dawn White
- ราคาจำหน่าย 5,299 บาท
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
