สำหรับชาว Galaxy Note ที่ยังคงใช้ Note8 และ Note9 อยู่ ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนเป็น Samsung Galaxy Note20 แล้ว มาดูกันว่า 10 เหตุผลดีๆ ที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้ Note20 มีอะไรบ้าง
1.จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X แสดงผล 120 Hz บน Galaxy Note20 Ultra
แค่จอแสดงผลก็กินขาดแล้ว ด้วยจอแสดงผลของ Galaxy Note20 Ultra แบบ Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว ที่แสดงสีสันได้สมจริง และยังมีอัตรารีเฟรชเรทถึง 120 Hz Ultra smooth ทำให้การใช้งานต่างๆ แสดงผลได้อย่างลื่นไหล เนียนตาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และด้วยเทคโนโลยี Adaptive refresh rate ที่สามารถปรับการแสดงผลตามคอนเทนท์ หรือแอพฯ ที่ใช้งาน จึงทำให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
2. ปากกา S Pen ที่ฉลาดกว่าเดิม
สำหรับปากกา S Pen ที่เป็นอาวุธคู่กายของเหล่าชาวโน้ต มาถึง Galaxy Note20 มาพร้อมปากกาที่มากกว่าการเขียน และยังถูกพันาให้ฉลาดกว่าเดิม ดีกว่าเดิม ใช้งานได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสั่งงานด้วยฟีเจอร์ Air Action ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth สามารถสั่งงานกล้อง หรือสั่งเปลี่ยนสไลด์ได้จากปากกา S Pen โดยตรง ช่วยอำนวยความสะดวกในการพรีเซ็นต์งานแบบมืออาชีพ
และสำหรับการจดบันทึก ขีดเขียนบนหน้าจอ Galaxy Note20 Ultra ก็ได้พัฒนาความสามารถที่เรียกว่า Ultra low latency ช่วยลดความหน่วงในการเขียน และการแสดงผล มีความหน่วงเพียง 9 ms ทำให้เขียนลื่นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ช่วยให้ขีดเขียนทำได้สมจริงเหมือนปากกาจริงๆ มากขึ้นไปอีก
3. หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ ทำงานได้เร็วขึ้น
ด้วยหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Exynos 990 ของ Galaxy Note20 ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประมวลผลได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะทำงาน หรือเล่นเกมก็ประมวลผลได้รวดเร็วทันใจ ไม่มีสะดุด ถือว่าเป็นหน่วยประมวลผลที่เร็วที่สุดในตระกูล Galaxy Note ในตอนนี้
4. คมชัดกว่าเดิมด้วยกล้องความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล
ในด้านการถ่ายภาพที่นอกจากจะทำได้คมชัดมากขึ้นด้วยเลนส์ และเซ็นเซอร์รับภาพความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ยังมาพร้อมเลนส์กล้องถึง 3 เลนส์ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Wide, เลนส์ Ultra wide มุมกว้าง 120 องศาที่สามารถเก็บภาพได้ครบถ้วนแม้ในที่แคบ และเลนส์ Zoom ที่สามารถซูมได้ไกลถึง 50 เท่าเลยทีเดียว ถ่ายภาพได้คมชัดทั้งใกล้และไกล
5. กล้องหน้าความละเอียดมากกว่า พร้อมถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K
สำหรับกล้องหน้าของ Note8 และ Note8 มีความละเอียดเพียง 8 ล้านพิกเซล แต่สำหรับ Galaxy Note20 มาพร้อมกล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล และยังมีฟีเจอร์การถ่ายภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Live focus ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอที่เบลอฉากหลังได้เนียนกว่าเดิม ถ่ายวิดีโอ AR Doodle ที่สามารถใช้ปากกา S Pen ขีดเขียนแต่งแต้มใบหน้าได้สนุกและมีสีสันมากกว่าเดิม และยังสามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูงถึ 4K Ultra HD ได้อีกด้วย
6. ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 8K พร้อมกล้อง Video Pro Grade
กล้องหลังของ Galaxy Note20 Ultra ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K พร้อมฟีเจอร์ Video Pro Grade ที่สามารถปรับแต่งการถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้แบบมืออาชีพ และหากใช้งานร่วมกับ Galaxy Buds Live ก็สามารถใช้เป็นไมโครโฟนไร้สายได้อีกด้วย เหมาะกับ YouTuber หรือสาย Vlog ที่ช่วยให้การถ่ายทำสะดวก รวดเร็ว และความคล่องตัวในการถ่ายทำมากทีเดียว
7. หน่วยความจำมากกว่า ทำอะไรได้มากกว่าเดิม
ด้วยหน่วยความจำที่มากกว่าอย่าง Galaxy Note20 Ultra ที่มีหน่วยความจำมาให้สูงถึง 512 GB ติดตั้งแอพฯ ได้มากกว่า ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอได้มากกว่า และยังมี RAM ขนาดใหญ่ถึง 12 GB เปิดแอพฯ หรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด
8. Samsung Galaxy Note20 กับแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ชาร์จได้รวดเร็วขึ้น
สิ่งหนึ่งที่น่าอึดอัดสำหรับผู้ใช้ Note8 และ Note9 คือแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็ก และยังชาร์จได้ช้าเพียง 15 วัตต์ แต่สำหรับ Galaxy Note20 ที่นอกจากจะมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังมีอแดปเตอร์ชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟสูงถึง 25 วัตต์ ทำให้ชาร์จได้อย่างรวดเร็วทันใจ และยังใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งปันแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ แบบไร้สาย ไม่ว่าจะเป็น Galaxy Watch หรือ Galaxy Buds ได้อีกด้วย ทำให้การใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด
9. เชื่อมต่อเครือข่าย 5G และ WiFi 6 รวดเร็วทันใจ
อัพเกรดสู่เครือข่ายแห่งอนาคต พร้อมสัมผัสความเร็วในระดับ 1 Gbps ด้วยการเชื่อมต่อ 5G และ WiFi6 ด้วย Galaxy Note20 ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ตั้งแต่แกะกล่อง ดาวน์โหลดข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทันใจ หรือจะเล่นเกมก็มีความหน่วงต่ำ สร้างความได้เปรียบ และเพิ่มโอกาสให้คุณชนะได้มากยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมต่อที่รวดเร็วของ Galaxy Note20
10. ทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร้รอยต่อด้วย Link to Windows และ Wireless DEX
ด้วยฟีเจอร์ Link to Windows ที่ทำงานร่วมกับแอพฯ Your Phone บนคอมพิวเตอร์ PC พร้อม Sign in บัญชี Microsoft เดียวกันก็สามารถใช้งานหน้าจอของ Note20 ได้ทันที อีกทั้งยังสามารถรับส่งไฟล์ระหว่างคอมพิวเตอร์ PC และ Note20 ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Wireless DEX สามารถนำเสนองานบนหน้าจอทีวี หรือโปรเจ็คเตอร์แบบไร้สายได้อีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้มีให้ใช้งานบน Galaxy Note9 ด้วยแต่ไม่สามารถใช้งานได้ใน Galaxy Note8
