รีวิว Vivo Y72 5G ที่สุดสมาร์ทโฟน Y Series มาพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 5G รุ่นแรก กับดีไซน์สวยงาม บางเฉียบ ชิพเซ็ตรุ่นใหม่ที่ทำงานได้รวดเร็ว สั่งงานได้ทันใจ มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จเร็ว 18 วัตต์ นอกจากนี้ยังมีกล้องมาให้ถ่ายภาพได้ในทุกระยะ กับราคาเปิดตัวเพียง 9,999 บาท มาแกะกล่องดูกันเลยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
แกะกล่องลองเล่น Vivo Y72 5G
- สมาร์ทโฟน Vivo Y72 5G สี Dream Glow
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 18 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- หูฟังสมอลล์ทอล์ค
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- เคสใสแบบซิลิโคน
- เอกสารคู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องรุ่นนี้ก็มีมาให้อย่างครบครันโดยที่ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย ไม่ว่าจะเป็นอแดปเตอร์ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยกำลังไฟ 18 วัตต์, ชุดหูฟังสำหรับใช้ดูหนังฟังเพลง, ฟิล์มกันรอยที่ติดมาให้เรียบร้อยจากโรงงาน และเคสกันกระแทกแบบใส หมดกังวลเรื่องริ้วรอยที่จะเกิดเมื่อวางบนโต๊ะ หรือเผลอทำหล่นก็ไม่ต้องกลัวเป็นรอย
รีวิว Vivo Y72 5G ดีไซน์พรีเมี่ยม สวยงาม บางเฉียบ กระบวนการผลิตเดียวกันกับสมาร์ทโฟนระดับ Flagship
สมาร์ทโฟน Vivo Y72 5G ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ทั้งวัสดุที่ใช้ สีสันของตัวเครื่องที่สวยงาม อย่างเช่นที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Dream Glow ที่สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคการเคลือบซิลเวอร์ ซึ่งเป็นกรรมวิธีการผลิตเดียวกันกับสมาร์ทโฟนระดับ Flagship ทำให้มีสีสันสวยงามเมื่อสะท้อนกับแสง และยังเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตามแสงที่ตกกระทบในมุมต่างๆ ดูยังไงก็ไม่น่าเบื่อจำเจ ตัวเครื่องยังดีไซน์แบบ 3D โค้งรับกับอุ้งมือ พกพาได้สะดวกด้วยความบางเพียง 8.5 มม. เท่านั้น นอกจากนี้ด้านข้างยังใช้วัสดุเป็นโลหะ ช่วยเสริมความแข็งแรง ทนทานให้กับสมาร์ทโฟนด้วย
หน้าจอแสดงผลแบบ Halo Fullview Display ที่ใช้พื้นที่ด้านหน้าเกือบทั้งหมด ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก แต่ได้การแสดงผลถึง 6.58 นิ้ว ให้สีสันสวยงามคมชัดเมื่ออยู่กลางแจ้ง อีกทั้งยังมีความละเอียดในระดับ FHD+ แสดงผลได้คมชัด เหนือจอแสดงผลยังมีเลนส์กล้อง ลำโพงสนทนาและเซ็นเซอร์ต่างๆ ถูกฝังไว้อย่างแนบเนียน
เลนส์รับภาพทั้ง 3 อยู่ที่ด้านหลัง ที่มาพร้อมเลนส์หลักความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Super Wide-Angle และเลนส์ Super Macro ที่สามารถถ่ายได้ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล และยังมีไฟแฟลชแบบ LED ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืดทำได้อย่างคมชัด
ปุ่มปรับระดับเสียง และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างขวา สามารถใช้ปลดล็อคตัวเครื่อง หรือทำธุรกรรมต่างๆ ก็ทำได้อย่างสะดวก เพียงแค่เอื้อมนิ้วมือแตะเบาๆ ก็ทำงานทันที ส่วนทางด้านขวาดีไซน์เรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ มาให้
ที่ด้านบนของตัวเครื่องเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ซึ่งตัวถาดเป็นแบบ Hybrid สามารถเลือกได้ว่าจะใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือ SIM2 และอีกฝั่งยังมีช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียง, ช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์
รองรับเครือข่าย 5G พร้อมชิพเซ็ตใหม่ Dimensity 700
ด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ซึ่งเป็นชิพเซ็ตตระกูลใหม่ล่าสุด มี 8 แกนประมวลผล ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz มีประสิทธิภาพแรงตอบโจทย์การใช้งานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ดูคลิปวิดีโอ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมก็ปรับความละเอียดได้สูงและยังรองรับเครือข่าย 5G ด้วยเทคโนโลยี SA และ NSA แบบ Dual Mode รองรับการใช้งาน 5G ทุกเครือข่ายในไทย
ข้อดีของการรองรับเครือข่าย 5G ของ Vivo Y72 5G นอกจากจะช่วยดาวน์โหลดแอพฯ หรือไฟล์ข้อมูลต่างๆ ได้เร็วกว่าเครือข่าย 4G แล้ว ยังมีความหน่วงต่ำ ทำให้การใช้งานรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ต้องอาศัยความเร็วในการรับส่งข้อมูล ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้เปรียบคู่ต่อสู้มากขึ้น เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็มีโอกาสชนะมากยิ่งขึ้นด้วย
หน่วยความจำของรุ่นนี้มี RAM มาให้ขนาด 8 GB และ ROM ขนาดใหญ่ 128 GB ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน สามารถเก็บแอพพลิเคชั่น ภาพถ่าย คลิปวิดีโอได้อย่างเพียงพอ และยังสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีก จึงไม่ต้องกังวลว่าหน่วยความจำจะเต็ม
ในการทดสอบความเร็วด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราใช้ทดสอบความแรง และความเร็วของสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำ สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 295,076 คะแนน
ส่วนการทดสอบความแรงด้วยแอพฯ Geekbench 5 สามารถทำคะแนน Single-core ได้ถึง 562 คะแนน และ Multi-core ได้ 1771 คะแนน จะเห็นได้ว่าการทดสอบประสิทธิภาพความแรงของเครื่องนั้นถือว่าแรงเกินราคามากๆ สามารถเล่นเกม 3D แบบหนักๆ ได้สบายๆ
จากการทดสอบประสิทธิภาพ มาถึงการทดสอบเล่นเกมกันบ้าง โดยเกมที่เราทดสอบเป็นเกมที่ใช้ CPU และการประมวลผลภาพ 3D ค่อนข้างหนัก อย่าง PUBG Mobile, Asphalt 9 ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด สามารถปรับความละเอียดของภาพไปได้ถึงระดับสูงสุด
Vivo Y72 5G ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในเรื่องของการเล่นเกม นั่นก็คือ Ultra Game Mode และ Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมสนุกมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีในเครื่องมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ และยังช่วยให้การแจ้งเตือน หรือโทรเข้าขัดจังหวะการเล่นเกมอีกด้วย และสำหรับนักกีฬา Esports ก็ยังมี Esports mode ที่จะช่วยปิดกั้นการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมไปถึงจัดการเฟรมเรทไม่ให้มีอาการสะดุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นเกมโดยไม่มีข้อความการแจ้งเตือน หรือสายเรียกเข้ามากวนใจด้วย
กล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล Triple Camera คมชัดกว่าที่เคยมีมา
ในด้านการถ่ายภาพ Vivo Y72 5G ยังมาพร้อมกล้องหลังถึง 3 เลนส์ โดยกล้องหลักมีความละเอียดมาให้สูงถึง 64 ล้านพิกเซล ถือว่ามีความละเอียดมากที่สุดในสมาร์ทโฟน Y Series ด้วยกัน โดยสเป็คของกล้องทั้ง 3 มีดังนี้
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
- กล้อง Super Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
- กล้อง Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
กล้องทั้ง 3 มีมาให้ถ่ายได้คมชัดในทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายระยะปกติด้วยกล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง Super Wide-angle และเลนส์ถ่ายระยะใกล้ Super Macro สามารถถ่ายได้ในระยะใกล้ 3-5 ซม. ได้อย่างคมชัด หรือจะซูมภาพในระยะไกลก็สามารถซูมภาพแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 10 เท่า
ในด้านการถ่ายภาพในโหมดบุคคล หรือโหมด Portrait ก็มีระบบ Eye Autofocus ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นจาก V Series ก็นำมาใช้ใน Y Series ด้วยเช่นกัน ทำให้ดวงตา และใบหน้าคมชัด ไม่หลุดโฟกัส และยังมีมีให้เลือกปรับโหมด Face beauty และโหมด Posture ช่วยปรับใบหน้าให้เนียนใสโดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ แต่งภาพอีกต่อไป สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็มีทั้ง Panorama, Live Photo, Slow-mo, Time-lapse, AR Sticker
สำหรับโหมดการถ่ายภาพ Night mode ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภาพเมื่อถ่ายในที่มืด เพียงแค่ถือกล้องค้างเพื่อเก็บแสงไว้ประมาณ 1-3 วินาทีเท่านั้น ภาพที่ได้ก็จะคมชัด ดูสว่างกว่าที่ตาเห็น เหมาะที่จะถ่ายภาพตอนกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายตอนกลางคืน
สำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอด้วยกล้องหลังก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มีระบบ Ultra Stable Video ซึ่งเป็นระบบกันภาพสั่นไหวแบบ EIS
Vivo Y72 5G มาพร้อมกล้องหน้าแบบเดี่ยวความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล แต่สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยซอฟท์แวร์ และระบบ AI อัจฉริยะ อีกทั้งยังมีค่ารูรับแสงที่กว้างถึง f/2.0 ช่วยให้เก็บแสงได้สว่างกว่าเดิม มีโหมด Beauty ให้เลือก 2 แบบ
- โหมดความงาม (Face beauty) เลือกปรับความเนียนของใบหน้า, ปรับโทนสีผิว, ปรับความเรียวของใบหน้า หรือเลือกปรับส่วนต่างๆ ของใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ปาก แก้ม หน้าผาก ฯลฯ
- โหมดท่าทาง (Pose) ในโหมดนี้เหมาะกับสาวๆ ที่ไม่รู้ว่าจะโพสท่าไหนให้ดูดี สามารถเลือกใช้โหมดนี้เป็นตัวช่วยในการโพสท่าในแบบต่างๆ มีให้เลือกหลากหลายแบบ และยังมีตัวอย่างการโพสท่าแบบคู่ โพสท่าแบบหมู่กับเพื่อนๆ, แบบสปอร์ต แบบท่องเที่ยว ฯลฯ
สำหรับการถ่าย Portrait ด้วยกล้องหน้าก็มีโหมด ฺBokeh มาให้ ซึ่งจะช่วยเบลอฉากหลังด้วยระบบ AI ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่น ไม่ถูกดึงดูดสายตาจากฉากหลัง และระบบการเบลอฉากหลังก็ทำได้ และการถ่ายภาพในเซลฟี่ในตอนกลางคืนก็ยังคงมี Selfie Softlight band ซึ่งจะใช้หน้าจอเปล่งแสงสีขาวนวล ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าสว่างใสมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ปลอดภัยด้วยระบบปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และใบหน้า
Vivo Y72 5G ยังมาพร้อมกับการปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างที่สะดวกมากๆ เพียงแค่ใช้นิ้วแตะลงไปตัวเครื่องก็ปลดล็อคพร้อมใช้งานทันที ซึ่งหากใช้มือซ้าย นิ้วที่สะดวกจะเป็นนิ้วชี้ และหากเป็นมือขวานิ้วโป้งจะปลดล็อคได้สะดวก เพราะนิ้วจะอยู่บริเวณนั้นพอดี โดยระบบสแกนลายนิ้วมือรองรับนิ้วมือได้ทั้งหมด 5 นิ้ว
นอกจากนี้ยังมีระบบปลดล็อคด้วยระบบ Face Wake หรือปลดล็อคด้วยใบหน้า วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วมากๆ เพียงแค่ตั้งค่าโดยอาศัยกล้องหน้าช่วยถ่ายภาพเพื่อจดจำใบหน้า จากนั้นเพียงแค่ยกมือถือขึ้นมาส่องหน้า ระบบก็จะปลดล็อคให้อย่างรวดเร็ว แต่วิธีนี้อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่ออยู่ทีที่มืด หรือแสงน้อย แต่ก็ยังปลดล็อคได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ แนะนำให้ตั้งค่าปลดล็อคทั้งลายนิ้วมือ และปลดล็อคด้วยใบหน้าควบคู่กันเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ Flashcharge 18 วัตต์ แถมมาให้ในกล่อง
นอกจากแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 5000 mAh ในตัวเครื่องที่บางเฉียบแล้ว สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานด้วยหน่วยประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน และระบบ Vivo Energy Guardian (VEG) ซึ่งเป็นระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะระบบจัดการการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ ในกล่องยังแถมอแดปเตอร์ Flashcharge กำลังไฟ 18 วัตต์มาให้ด้วย ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน จากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่ 1 ชั่วโมง สามารถชาร์จจาก 1% ไปได้ถึง 60% ถือว่ารวดเร็วมากทีเดียว
บทสรุป รีวิว Vivo Y72 5G จากความเห็นของ What Phone
ปีนี้เป็นปีที่ถือว่าเครือข่าย 5G ในบ้านเราเติบโตเร็วที่สุด ซึ่งจะมาแทนเครือข่าย 3G, 4G ภายในไม่กี่ปีนี้ และ Vivo Y72 5G ก็ถือว่ามาถูกเวลาในช่วงรอยต่อระหว่าง 4G และ 5G อีกทั้งยังมีราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องจ่ายแพงเพื่อซื้อสมาร์ทโฟน Flagship ในปีที่แล้ว และสำหรับรุ่นนี้ก็เหมาะกับการใช้งานในบ้านเรา จอแสดงผลขนาดใหญ่ การออกแบบที่สวยงาม กะทัดรัด ดีไซน์บางเฉียบ ถ่ายภาพได้คมชัดทุกระยะ ประสิทธิภาพการทำงานที่รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จเร็ว และยังมีอุปกรณ์มาให้ครบทุกอย่างในกล่อง ด้วยราคาเพียง 9,999 บาท หากต้องการสมาร์ทโฟนราคาสมเหตุสมผลแบบนี้เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ VIVO Y72 5G
- หน้าจอแสดงผล Halo Fullview Display แบบ IPS FHD+ ขนาด 6.58 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz, GPU Mali-G57
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB เพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G รองรับ 2 โหมด NSA/SA
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
- กล้อง Super Wide-angle 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง Super Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 18 วัตต์
- ปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และใบหน้า
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมด้วย FunTouch OS เวอร์ชั่น 11
- รองรับ WiFi ความถี่ 2.4 และ 5 GHz
- เชื่อมต่อ Bluetooth 5.1
- มีวิทยุ FM ในตัว
- สี Dream Glow, Graphite Black
- ราคาเปิดตัว 9,999 บาท