MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M1 Pro และ M1 Max มีตัวประมวลผลกราฟฟิคที่ค่อนข้างทรงประสิทธิภาพมาก แน่นอนว่าเมื่อทรงประสิทธิภาพก็ย่อมจะมีคนนำไปทดลองขุดเหมืองคริปโต
UFD Tech เผยใน YouTube ของตนว่า M1 Pro สามารถขุดเหมือง ETH ได้ 5MH/s ถ้าเทียบกันแล้ว M1 Max / M1 Pro ชนะ GPU ภายนอกอย่าง AMD / Nvidia ในแง่ของ Efficiency (พลังงานที่ใช้เพื่อให้เสร็จงาน) แต่สุดท้ายแล้วถ้าวัดพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวการ์ดจอ Nvidia / AMD ก็ยังคงกินขาดเช่นเคย
5MH/s (Megahash per second) ต่อพลังงาน 17W นับว่าเป็นระดับที่น่าสนใจที่เดียว เพราะเมื่อนำมาคำนวนแล้วการเปิดขุดเหมืองทั้งเดือน (คำนวนด้วยค่าไฟเรทสหรัฐอเมริกา) หลังหักค่าไฟแล้วจะเหลือกำไรอยู่ราวๆ เดือนละ $12.42 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อคำนวนแล้วว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะคืนทุน ก็คงต้องเปิดต่อเนื่องกันไปราวๆ 17 ปีเลยทีเดียว
ถ้าตัดเรื่องการนำไปขุดเหมืองและเปิดทั้งวันทั้งคืนทำให้เครื่องเสื่อมสภาพไวกว่าที่ควร อาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้น เนื่องจากโน้ตบุคและผลิตภัณฑ์จาก Apple ราคาตกน้อยกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้หลังจากขุดเหมืองไป 4 – 5 ปีแล้วนำไปขายต่อก็ยังมีหวังคืนทุนอยู่พอสมควร
แต่ด้วยกำไรต่อเดือนที่ต่ำ ขณะที่ค่าเครื่องค่อนข้างสูง ทำให้คาดว่าคงไม่มีใครเหมาเครื่องเพื่อนำมาขุดเหมืองครับ ถ้าหากจะทำจริงๆ ลงทุนซื้อการ์ดจอ (ที่ตอนนี้ราคาก็พุ่งทะยานสุดๆ) มาขุดเหมืองยังคงคุ้มค่ากว่า เนื่องจากโน้ตบุค MacBook Pro 2021 นี้ราคาก็โหดใช้ได้เลย ทำให้กว่าจะคืนทุนได้ต้องรอตั้ง 17 ปี โน่นล่ะครับ
ที่มา – 9to5mac