เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดกับ vivo Y76 5G สมาร์ทโฟน Y Series ราคาประหยัด แต่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่นกับสีสันของตัวเครื่องที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ประสิทธิภาพการทำงานด้วยชิพประมวลผลที่เร็วแรงเกินราคา พร้อมรองรับเครือข่าย 5G เต็มรูปแบบ และกล้องถ่ายภาพ 3 เลนส์ความละเอียดสูง มาแกะกล่องดูกันเลยว่าฟังก์ชั่นการทำงานของรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง
แกะกล่องลองเล่น vivo Y76 5G
- สมาร์ทโฟน vivo Y76 5G สี Midnight Space
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ vivo FlashCharge 44 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- หูฟังสมอลล์ทอล์คขนาด 3.5 มม.
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
คราวนี้ vivo Y76 5G ที่นอกจากจะมีราคาคุ้มค่าแล้ว อุปกรณ์ในกล่องยังมีมาให้อย่างครบครัน ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย ทั้งฟิล์มกันรอยที่ติดมาจากโรงงาน, เคสซิลิโคนแบบใสที่ไม่บดบังความสวยงามของตัวเครื่อง, หูฟัง, อแดปเตอร์, สายชาร์จ มีมาให้จนแน่นกล่อง เปิดเครื่องมาใส่เคสก็พร้อมใช้ทันที ไม่ต้องออกจากบ้านไปซื้ออะไรเพิ่มเติม เอาคะแนนอุปกรณ์เสริมดีเด่นไปเลยเต็มสิบ
vivo Y76 5G ดีไซน์บางเบา ล้ำสมัย
เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Midnight Space หรือสีเทาเข้ม เป็นสีที่ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากประกายแสงที่ระยิบระยับบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน โดยพื้นผิลใช้เทคนิคการเคลือบสี AG สัมผัสได้ถึงพื้นผิวที่มีรายละเอียดดั่งเม็ดทราย ช่วยไม่ให้ลื่นหลุดมือได้ง่ายๆ อีกทั้งยังไม่ทิ้งรอยนิ้วมือไว้บนตัวเครื่อง และเมื่อสะท้อนกับแสงก็จะเห็นเป็นมิติต่างๆ ขอบตัวเครื่องแบบ 3D โค้งรับกับอุ้งมือ ไม่มีเหลี่ยมที่ขอบให้ระคายมือ ตัวเครื่องยังบางเพียง 7.79 มม. และเบาเพียง 175 กรัม เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสี Cosmic Aurora ให้เลือกอีกด้วย
หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว ให้สีสันสวยงาม มองเห็นได้ชัดเจนในที่แจ้ง มีความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล เหนือจอแสดงผลมีกล้องหน้าแบบหยดน้ำ มีลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่บริเวณนี้ ส่วนหน้าจอแสดงผลก็มีฟิล์มกันรอยแบบเต็มแผ่นติดมาจากโรงงานเรียบร้อย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม
ด้านหลังของตัวเครื่องออกแบบมาอย่างเรียบๆ มีเพียงโมดูลของกล้อง 3 เลนส์ และไฟแฟลช LED ได้รับการดีไซน์แบบ CD Grooves ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นนี้ ส่วนของเลนส์กล้องที่นูนออกมาก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถใส่เคสที่มีมาให้ในกล่องป้องกันที่นูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย แนะนำให้หาเคสมาใส่กันรอย เพื่อความมั่นใจเมื่อวางเครื่องบนพื้นโต๊ะ
ที่ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องถูกดีไซน์มาแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ อยู่ด้านนี้ ส่วนด้านข้างขวามีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ใกล้ๆ กันมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid โดยที่ช่อง SIM2 สามารถถอดเปลี่ยนเพื่อใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้ ส่วนที่ด้านล่างมีช่องดีไซน์แบบโล่งๆ มีเพียงช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนที่ด้านล่างมีช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และช่องสปีกเกอร์โฟน
เล่นเกมไม่มีสะดุดด้วยหน่วยประมวลผล Dimensity 700 5G
vivo Y76 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 Octa-core ทำงานด้วยความเร็ว 2.2 GHz ทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วทันใจ ชิพเซ็ตรุ่นนี้ยังรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G สามารถใส่ซิมการ์ดใช้งานได้กับ 5G ทุกเครือข่ายที่ให้บริการในบ้านเราได้ทันที รองรับทั้งแบบ SA (Stand Alone) และแบบ NSA (Non Stand Alone) พร้อมทั้งรองรับ 5G แบบ Dual SIM และ Dual Standby ไม่ต้องถอดสลับซิมการ์ดเพื่อใช้งาน 5G ให้วุ่นวาย ทำให้การดาวน์โหลดคอนเทนท์ต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความหน่วงต่ำ ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่กระตุก
สำหรับหน่วยความจำก็ยังคงมี RAM มาให้ถึง 8 GB พร้อมด้วยฟีเจอร์ Extended RAM ที่สามารถดึงหน่วยความจำ ROM มาใช้งานได้อีก 4 GB รวมเป็น 12 GB สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกันหลายแอพฯ ช่วยให้การสลับใช้งานแอพฯ ต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดใหม่ ส่วนหน่วยความจำ ROM ของรุ่นนี้ก็มีขนาดใหญ่ 128 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ในช่อง SIM2 ซึ่งการเพิ่มหน่วยผู้ใช้ต้องเลือกว่าจะใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
vivo Y76 5G ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS เวอร์ชั่น 12 รองรับบริการต่างๆ จาก Google Mobile Service อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ แผนที่นำทาง และแอพพลิเคชั่นต่างๆ และยังสามารถอัพเดทความปลอดภัย และเวอร์ชั่นใหม่ๆ ในเมนูการตั้งค่า นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และเกมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore ได้อีกด้วย
สำหรับการเล่นเกมนอกจากจะมีหน่วยประมวลผลที่เร็วแรง รองรับเครือข่าย 5G ที่มีความหน่วงต่ำแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในเรื่องของการเล่นเกม นั่นก็คือ Ultra Game Mode 2.0 และ Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมสนุกมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานโหมดสมดุล หรือโหมดประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แต่ก็ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีในเครื่องมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ และยังช่วยให้การแจ้งเตือน หรือโทรเข้าขัดจังหวะการเล่นเกมอีกด้วย และสำหรับนักกีฬา Esports ก็ยังมี Esports mode ที่จะช่วยปิดกั้นการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมไปถึงจัดการเฟรมเรทไม่ให้มีอาการสะดุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นเกมโดยไม่มีข้อความการแจ้งเตือน หรือสายเรียกเข้ามากวนใจด้วย
ในการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ด้วยแอพฯ Antutu เวอร์ชั่น 9.2.4 ที่เราใช้ทดสอบสมาร์ทโฟนเป็นมาตรฐานประจำแล้วสามารถทำได้ 339,902 คะแนน
และสำหรับแอพฯ Geekbench5 ทำคะแนน Single-Core ได้ 566 คะแนน ส่วน Multi-Core 1758 คะแนน
จากสเป็คโดยรวม และจากคะแนนทดสอบของเครื่องพบว่า vivo Y76 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการทำงานได้ทุกรูปแบบทั้งการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม 3D แบบหนักๆ ก็ยังพอรับไหว จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ที่ใช้หน่วยประมวลผลในการเล่นเกมอย่างหนักหน่วงก็ยังเล่นได้ โดยปรับภาพกราฟฟิคไปได้ที่ระดับ HD ปรับเฟรมเรทก็สามารถปรับได้ที่ระดับ สูง ซึ่งเป็นเฟรมเรทสูงสุดของเกมก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล
กล้องหลัง 3 เลนส์ 50 ล้านพิกเซล Smart AI Camera
ในด้านการถ่ายภาพของ vivo Y76 รุ่นนี้ก็ยังคงมีกล้องกล้องหลังมาให้เลือกใช้งานถึง 3 เลนส์ ถ่ายได้ตั้งแต่ระยะใกล้ด้วยเลนส์ Macro และมุมกว้างด้วยกล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล สามารถเลือกใช้งานถ่ายภาพได้ตามสถานะการณ์ โดยสเป็คของเลนส์รับภาพทั้ง 3 เลนส์มีดังนี้
- กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
กล้องเลนส์ Wide ที่มีความละเอียดมาให้ถึง 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างถึง f/1.8 สามารถรับแสงได้อย่างเต็มที่ ทำให้ภาพดูสว่างแม้ถ่ายในที่แสงน้อย สำหรับการถ่ายภาพปกติ กล้องจะตั้งค่าให้ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล แต่ยังคงใช้เซ็นเซอร์ 50 ล้านพิกเซลเต็มพื้นที่ของเซ็นเซอร์ โดยการนำเอา 4 พิกเซลรวมเป็นพิกเซลเดียว ทำให้เก็บแสง และสีสันได้มากยิ่งขึ้น แต่หากต้องการถ่ายภาพที่ความละเอียดเต็ม 50 ล้านพิกเซลก็สามารถเลือกได้ ส่วนกล้องเลนส์ Depth หรือเลนส์ Bokeh ก็จะเข้ามาช่วยละลายฉากหลังในการถ่ายภาพ Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายกับเลนส์ Macro ที่สามารถถ่ายได้ใกล้ถึง 3-5 ซม. เปิดมุมมองระยะใกล้ที่สายตามองไม่เห็นให้ชัดเจนขึ้นจนน่าแปลกใจ
ในด้านการถ่ายภาพในโหมดบุคคล หรือโหมด Portrait ก็มีระบบ Eye Autofocus ทำให้ดวงตา และใบหน้าคมชัด ไม่หลุดโฟกัส และยังมีมีให้เลือกปรับโหมด Face beauty และโหมด Posture ช่วยปรับใบหน้าให้เนียนใสโดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ แต่งภาพอีกต่อไป สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็มีทั้ง Panorama, Live Photo, Slow-mo, Time-lapse, AR Sticker
สำหรับการถ่าย Portrait ด้วยกล้องหน้าก็มีโหมด ฺBokeh มาให้ ซึ่งจะช่วยเบลอฉากหลังด้วยเลนส์ Bokeh พร้อมด้วยระบบ AI ที่จะเข้ามาช่วยทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่น และระบบการเบลอฉากหลังก็ทำได้ และการถ่ายภาพในเซลฟี่ในตอนกลางคืนก็ยังคงมี Selfie Softlight band ซึ่งจะใช้หน้าจอเปล่งแสงสีขาวนวล ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าสว่างใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ฟิลเตอร์ปรับแต่งสี และเอฟเฟ็กต์แสงที่เข้ามาช่วยแต่งภาพให้เหมือนมีแสงส่องเข้ามาจริงๆ ทำให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น
สำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอด้วยกล้องหลังก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มีระบบ Ultra Stable Video ช่วยให้การถ่ายวิดีโอไม่สั่นไหว และยังมีโหมด Dual View ที่จะถ่ายวิดีโอทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน เหมาะกับสาย VLOG ที่ต้องการถ่ายรีวิวสินค้า หรือสถานที่ ช่วยให้เห็น Reaction ของผู้ถ่ายไปด้วยในคลิปเดียว จึงไม่ต้องนำวิดีโอไปตัดต่อรวมกันให้เสียเวลา
คลิปวิดีโอตัวอย่างการถ่ายวิดีโอแบบ Dual View
ส่วนการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลก็มีลูกเล่นในการถ่ายภาพอย่างการถ่าย Portrait ที่เข้ามาช่วยละลายฉากหลัง ทำให้ภาพเซลฟี่ดูโดดเด่นด้วยกล้องหน้าเพียงตัวเดียว มีโหมด Beauty ที่สามารถเลือกปรับความเนียนของผิว ปรับความสว่างของใบหน้า ปรับรูปแบบของใบหน้าให้มีความเรียว ปรับขนาดตา จมูก ปาก ฯลฯ ให้มีขนาดเล็กใหญ่ได้ตามต้องการ หรือหากตื่นมาหน้าสดก็สามารถใช้ฟีเจอร์แต่งหน้าได้ทันทีโดยไม่ต้องเมคอัพให้เสียเวลา ด้วยโหมดนี้สาวๆ ต้องชื่นชอบแน่นอน
นอกจากนี้กล้องหน้ายังมีโหมดถ่ายภาพ Double Exposure เป็นการซ้อนภาพเข้าไปในโหมดเซลฟี่ สามารถถ่ายภาพได้แบบเก๋ๆ ที่ไม่เหมือนใคร
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ปลอดภัยด้วยระบบปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และใบหน้า
ในด้านความปลอดภัยของข้อมูลในเครื่อง vivo Y76 5G ก็ยังมีให้เลือกปลดล็อคได้ 2 แบบ นั่นก็คือปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างที่สะดวกมากๆ เพียงใช้นิ้วแตะลงไปที่ปุ่มเปิดเครื่องซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัวก็สามารถปลดล็อคเครื่อง พร้อมใช้งานทันที ส่วนนิ้วมือที่สะดวกในการปลดล็อคหากใช้มือซ้าย นิ้วชี้จะอยู่ที่เซ็นเซอร์พอดี และหากใช้มือขวา นิ้วโป้งก็จะอยู่ที่เซ็นเซอร์พอดีเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 นิ้วด้วยกัน
หรือหากไม่สะดวกในการใช้นิ้วมือปลดล็อคก็ยังสามารถใช้กล้องหน้าเข้ามาช่วยปลดล็อคโดยการสแกนใบหน้าแทน วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วมากๆ เพียงแค่ตั้งค่าสแกนเพื่อจดจำใบหน้า ซึ่งระบบจะจดจำใบหน้าได้เพียง 1 ใบหน้าเท่านั้น เมื่อต้องการปลดล็อคก็เพียงแค่ยกมือถือขึ้นมาส่องหน้า ระบบก็จะปลดล็อคให้อย่างรวดเร็ว วิธีนี้อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่ออยู่ทีที่มืด หรือแสงน้อย แต่ก็ยังปลดล็อคได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ เราขอแนะนำให้ตั้งค่าปลดล็อคทั้งลายนิ้วมือ และปลดล็อคด้วยใบหน้าควบคู่กันเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน
แบตเตอรี่ 4100 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ FlashCharge 44 วัตต์
ตัวเครื่องที่บางเฉียบ ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4100 mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานด้วยหน่วยประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน มาพร้อมระบบ vivo Energy Guardian (VEG) ซึ่งเป็นระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะระบบจัดการการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ ในกล่องยังแถมอแดปเตอร์ FlashCharge กำลังไฟ 44 วัตต์มาให้ด้วย ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน จากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่จาก 1% เพียง 10 นาทีก็สามารถชาร์จได้ถึง 22% หากชาร์จ 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่มาถึง 60% ชั่วโมง และหากชาร์จจนเต็ม 100% ก็ใช้เวลาเพียง 60 นาทีเท่านั้น ถือว่าการชาร์จแบตเตอรี่จะเร็วมากในช่วงแรก และช้าลงในช่วงท้ายๆ เป็นระบบความปลอดภัยที่ช่วยถนอมแบตเตอรี่ไม่ให้ร้อนจนเกินไป
บทสรุปรีวิว vivo Y76 5G จากความเห็นของ What Phone
จากการทดสอบใช้งาน vivo Y76 5G มาสักระยะถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวย สีของตัวเครื่อง และวัสดุของรุ่นนี้เมื่อถือแล้วดูหรูหรา พรีเมี่ยม พร้อมกับการพกพาที่สะดวก กับความบางเบาที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ในด้านประสิทธิภาพการใช้งานก็ถือว่าเร็วแรงในระดับที่เล่นเกม 3D แบบหนักๆ ได้สบายๆ การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า และกล้องหลังก็ทำได้น่าประทับใจเช่นเคย ถ่ายภาพได้สวยงาม โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Potrait ที่ต้องถูกใจสาวๆ อย่างแน่นอน สำหรับราคาเปิดตัวหากยังไม่ทราบมาก่อนต้องทายว่าราคาเกินหมื่นขึ้นไปอย่างแน่นอน แต่สำหรับรุ่นนี้เปิดตัวในราคาเพียง 9,999 บาทเท่านั้น เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 18 ธ.ค. นี้ จะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง หรือซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้รับต้องถูกใจอย่างแน่นอน
สรุปสเป็ค vivo Y76 5G
- ขนาด 163.84 x 75.00 x 7.79 มม. นัำหนัก 173 กรัม
- รองรับเครือข่าย 3G, 4G LTE และ 5G
- หน้าจอ LCD ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ความเร็ว 2.2 GHz, GPU Mali G57
- ระบบปฏิบัติการ Android 11, ครอบทับด้วย FunTouch OS 12
- หน่วยความจำ RAM 8 GB (+4 GB), ROM 128 GB
- เพิ่มการ์ดหน่วยความจำ microSD
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด FullHD ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
- ปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง และใบหน้า
- แบตเตอรี่ 4100 mAh ชาร์จกำลังไฟ 44 วัตต์
- เชื่อมต่อ WiFi b/g/n/ac/ax ความถี่ 2.4 และ 5 GHz, Bluetooth 5.1
- มีให้เลือก 2 สี Midnight Space, Cosmic Aurora
- ราคาเปิดตัว 9,999 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
