กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมคุณภาพ และการันตีการอัพเดทนานถึง 2 ปีจากแบรนด์ Nokia คราวนี้เราได้มี Nokia C20 และ Nokia C1 2nd Edition มาทดสอบใช้งาน มาแกะกล่องดูกันว่าสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นเป็นอย่างไร
แกะกล่องพรีวิว Nokia C20
- สมาร์ทโฟน Nokia C20 สี Dark Blue
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
- สายชาร์จแบบ Micro USB
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ 5 วัตต์
- หูฟังสมอล์ลทอล์ค
- เคสใสแบบซิลิโคน
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- เอกสารคู่มือการใช้งาน
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ที่มีมาให้อย่างครบครันจนไม่ต้องซื้อหาอะไรเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นอแดปเตอร์, หูฟัง, เคสซิลิโคน หรือแม้กระทั่งฟิล์มกันรอยก็มีติดมาให้จากโรงงาน พร้อมใช้งานทันที นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้อีกด้วย หากต้องการใช้งานแบบหนักๆ ก็สามารถหาซื้อแบตก้อนที่ 2 มาเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ทันที
พรีวิว Nokia C20 สี Dark Blue
เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Dark Blue หรือเป็นสีน้ำเงินเข้ม แต่หากดูจากเครื่องจริงเราจะเห็นเป็นสีเทาเข้ม หรือสีน้ำเงินเข้มตามมุมแสงที่ตกกระทบลงบนฝาหลัง ตัวเครื่องออกแบบมาอย่างเรียบๆ ฝาหลังใช้วัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนต มีความแข็งแรงทนทาน ไม่เปินริ้วรอยได้ง่ายๆ แต่หากกังวลก็สามารถใส่เคสกันรอยที่แถมมาให้ในกล่องได้ พื้นผิวของฝาหลังมีลวดลายเป็น Texture ขนาดเล็ก จึงให้ผิวสัมผัสที่ไม่ลื่นมือจนเกินไปนัก สามารถแกะฝาหลังออกมาใส่ซิม, การ์ดหน่วยความจำ และเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว กล้องหน้าเป็นแบบ V-Notch หรือเป็นแบบหยดน้ำอยู่กลางจอ มีความละเอียด HD+ เหนือจอแสดงผลมีลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ และมีไฟแฟลชสำหรับกล้องหน้าซ่อนอยู่บริเวณนี้
ฝาหลังของ Nokia C20 ออกแบบมาอย่างเรียบๆ สามารถแกะออกได้เมื่อต้องการใส่ซิมการ์ด หน่วยความจำ หรือแบตเตอรี่ ส่วนของกล้อง และไฟแฟลชแบบ LED อยู่ในวงกลมดูโดดเด่นที่ด้านหลัง มีกล้องมาให้เพียงเลนส์เดียว ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน ส่วนล่างของตัวเครื่องมีลำโพงสปีกเกอร์ มีจุดเล็กๆ สำหรับยกระดับช่องลำโพงนี้เพื่อให้เสียงลอดออกมาเมื่อวางบนพื้นโต๊ะ
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ พร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Micro SIM 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนในท้องตลาดที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเองได้ในขณะนี้
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และที่ด้านล่างมีช่องเสียบสายชาร์จแบบ Micro USB และช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา
แกะกล่องพรีวิว Nokia C1 2nd Edition
- สมาร์ทโฟน Nokia C1 2nd Edition สี Blue
- แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh
- สายชาร์จแบบ Micro USB
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ 5 วัตต์
- หูฟังสมอล์ลทอล์ค
- เคสใสแบบซิลิโคน
- เอกสารคู่มือการใช้งาน
พรีวิว Nokia C1 2nd Edition สี Blue
Nokia C1 2nd Edition สมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นที่มีขนาดกะทัดรัด ดีไซน์แบบเรียบๆ ด้วยสีน้ำเงิน ตัวเครื่องใช้วัสดุแบบโพลีคาร์บอเนต ที่มีความทนทาน ไม่เป็นริ้วรอยง่ายๆ ฝาหลังมี Texture ให้ผิวสัมผัสที่ไม่ลื่นจนเกินไปนัก อีกทั้งยังไม่ติดรอยนิ้วมือให้เป็นคราบให้เช็ดบ่อยๆ ถ้าชอบมือถือที่ไม่ใหญ่จนเกินไป Nokia C1 เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะมืออีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
การใช้งานบนหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ เหนือจอแสดงผลมีไฟแฟลชแบบ LED สำหรับถ่ายภาพ Selfie ในที่มืด ถัดมาเป็นกล้องหน้าสำหรับ Selfie ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และช่องลำโพงสำหรับสนทนา
ด้านหลังมีเพียงเลนส์กล้องถ่ายภาพความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และไฟแฟลชแบบ LED และส่วนล่างของตัวเครื่องมีช่องสปีกเกอร์โฟน มีปุ่มเล็กๆ ที่ช่วยยกระดับเครื่องขึ้นมาเพื่อไม่ให้แนบกับพื้นโต๊ะจนเกินไป
ที่ด้านข้างซ้ายดีไซน์แบบโล่งๆ ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ส่วนที่ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และช่องเสียบสายชาร์จพอร์ต Micro USB และที่ด้านล่างมีเพียงช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 2500 mAh และยังมีช่องเสียบซิมการ์ด 2 ใบ โดยช่อง SIM2 จะเป็นช่องเสียบแบบประกบกับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD
หน่วยประมวลผลสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น บนระบบปฏิบัติการ Android Go
Nokia C1 2nd Edition และ Nokia C20 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่งหน่วยประมวลผลของทั้งสองรุ่นก็รองรับการใช้งานแบบทั่วไป อาจจะใช้เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ โดยหน่วยประมวลผลของ Nokia C1 2nd Edition ใช้ชิพเซ็ต Unisoc SC7731e เป็นหน่วยประมวลผลแบบ Quad-core ความเร็ว 1.3 GHz ส่วนชิพประมวลผลภาพ 3D ใช้ Mali-T820 มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB และ ROM ขนาด 16 GB พร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีกสูงสุด 128 GB และนอกจากนี้ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพิเศษคือ Go Edition พร้อมรองรับการอัพเกรดจาก Nokia ยาวๆ ถึง 2 ปี
และสำหรับ Nokia C20 ก็เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเช่นกัน โดยหน่วยประมวลผลจะแรงกว่า Nokia C1 2nd Edition เล็กน้อย โดยใช้ชิพเซ็ต Unisoc SC9863a เป็นหน่วยประมวลผลแบบ Octa-core ความเร็ว 1.6 GHz ส่วนชิพประมวลผลภาพ 3D ใช้ PowerVR Rogue GE8322 มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB และ ROM ขนาด 32 GB พร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีกสูงสุด 256 GB ส่วนระบบปฏิบัติการก็เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Android เวอร์ชั่น 11 Go Edition พร้อมรองรับการอัพเกรดจาก Nokia ยาวๆ ถึง 2 ปีเช่นกัน
ในด้านการทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia C1 2nd Edition ด้วยแอพฯ Geekbench 5 ทำคะแนน Single-Core ได้ 68 คะแนน, Multi-Core 137 คะแนน
ส่วน Nokia C20 ทำคะแนน Single-Core ได้ 128 คะแนน, Multi-Core 466 คะแนน โดยรวมแล้ว Nokia C20 จะทำคะแนนได้ดีกว่า ซึ่งทั้งสองรุ่นเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ไม่เหมาะกับการเล่นเกมภาพ 3D หนักๆ เท่าใดนัก
กล้องหน้า กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ในด้านการถ่ายภาพ ทั้งสองรุ่นก็มีกล้องหน้า กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเท่ากันหมด แต่ความพิเศษของทั้งสองรุ่นคือมีไฟแฟลชแบบ LED ที่กล้องหน้ามาให้ด้วย จึงถ่ายภาพเซลฟี่ในตอนกลางคืนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าใบหน้าจะมืดมัว ในโหมดการถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นก็ถือว่ามีฟีเจอร์แบบพื้นฐานมาให้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบ Panorama, Time-Lapse มีโหมด Beautification ปรับหน้าเนียนได้ 10 ระดับ และมีโหมด HDR ที่ช่วยปรับภาพให้มีความสว่างอย่างเหมาะสม
ส่วนการถ่ายคลิปวิดีโอด้วยกล้องหลัง ทั้งสองรุ่นก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p ส่วนกล้องหน้าของ Nokia C1 2nd Edition สามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ระดับ HD 720p และสำหรับ Nokia C20 กล้องหน้าปรับความละเอียดในการถ่ายวิดีโอได้ที่ Full HD 1080p
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Nokia C20
บทสรุป Nokia C1 2nd Edition และ Nokia C20
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นถือว่าเป็นมือถือในระดับเริ่มต้น เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเล่นอะไรมากมาย อาจจะแค่ไว้ใช้โทรศัพท์ ถ่ายรูป ดูคลิปวิดีโอ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเบาๆ อย่างเกม Puzzle ที่ไม่ต้องอาศัยการแสดงผลภาพ 3D มากนัก จะซื้อให้น้องๆ หนูๆ พกติดตัวไปโรงเรียนไว้ติดต่อกับผู้ปกครอง หรือซื้อให้ญาติผู้ใหญ่เอาไว้โทรศัพท์ คุยแชทไลน์ วิดีโอคอลล์หากันก็ยังได้ หรือจะซื้อไว้เป็นเครื่องสำรองก็เหมาะเช่นกัน หากยังคิดถึงแบรนด์โทรศัพท์มือถือ Nokia และต้องการมือถือในราคาประหยัดในราคาเริ่มต้นเพียงสองพันนิดๆ ก็ยังมีสมาร์ทโฟน Nokia 2 รุ่นนี้ให้เลือกใช้งานอยู่ครับ
สรุปสเป็ค Nokia C1 2nd Edition
- ขนาด 148 x 78.1 x 9.3 มม. นัำหนัก 154 กรัม
- รองรับเครือข่าย 3G, 4G LTE
- หน้าจอ TFT ความละเอียด FHD ขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1440 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล Unisoc SC7731e Quad-core ความเร็ว 1.3 GHz, GPU Adreno 610
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 Go Edition
- หน่วยความจำ RAM 1 GB, ROM 16 GB
- เพิ่มการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ FullHD 1080p
- กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ HD 720p
- แบตเตอรี่ 2500 mAh ชาร์จกำลังไฟ 5 วัตต์
- เชื่อมต่อ WiFi b/g/n ความถี่ 2.4 GHz, Bluetooth 4.2
- ราคาเปิดตัว 2,190 บาท
- วางจำหน่ายออนไลน์ที่ Shopee, Lazada, JD Central
สรุปสเป็ค Nokia C20
- ขนาด 169.9 x 77.9 x 8.8 มม. นัำหนัก 191 กรัม
- รองรับเครือข่าย 3G, 4G LTE
- หน้าจอ IPS ความละเอียด FHD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1440 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล Unisoc SC9863a Octa-Core ความเร็ว 1.6 GHz, GPU owerVR Rogue GE8322
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 Go Edition
- หน่วยความจำ RAM 2 GB, ROM 32 GB
- เพิ่มการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ FullHD 1080p
- กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ FullHD 1080p
- แบตเตอรี่ 3000 mAh ชาร์จกำลังไฟ 5 วัตต์
- เชื่อมต่อ WiFi b/g/n ความถี่ 2.4 GHz, Bluetooth 4.2
- ราคาเปิดตัว 3,290 บาท
- วางจำหน่ายที่ dtac