OnePlus เปิดตัว OnePlus Nord Watch นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่สอง หลังจาก OnePlus Watch ถูกวิจารณ์ว่าบริษัทนั้นไม่ได้ใส่ใจในการทำนาฬิกาอัจฉริยะเท่าไหร่นัก และซอฟท์แวร์ก็เข้าขั้นเลวร้าย แถมการเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างการนอนก็ไม่แม่นยำเลยแม้แต่น้อย
หลังจากวางจำหน่าย OnePlus Watch ทาง OnePlus ก็หายไปจากวงการนาฬิกาอัจฉริยะปีครึ่ง แต่ระหว่างนั้นก็มีสายรัดข้อมือรุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศอินเดีย จนกระทั่งวันนี้เองทางแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่สอง ใช้ชื่อว่า OnePlus Nord Watch
หน้าจอของ OnePlus Nord Watch เป็นหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาด 1.78 นิ้ว (AMOLED) มีรีเฟรชเรท 60Hz และสว่างสูงสุดที่ 50 nits ทาง OnePlus ระบุว่าสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IP68 ส่วนสายนั้นยังใช้สายเดิมของ OnePlus Watch ได้
ตัวนาฬิกามีตัวจับการเคลื่อนไหวสามแกน ตัววัดชีพจร และตัววัดออกซิเจนในเลือด สามารถวัดระดับความเครียด และเก็บข้อมูลการนอนหลับได้ (ต้องรอดูว่าจะแม่นยำ หรือไม่แม่นเหมือน OnePlus Watch รุ่นแรกกันหลังจากสื่อเริ่มได้เครื่องรีวิวครับ) มีรูปแบบการออกกำลังกายที่บันทึกได้ 105 แบบ รวมไปถึงการออกกำลังกายยอดนิยมในอินเดียอย่างคริกเก็ต หรือการทำโยคะได้ด้วย ถ้าวิ่ง หรือเดินเยอะระบบจะทำการเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ แต่ต้องอนุญาตครั้งแรกก่อนว่าให้เก็บได้โดยไม่ต้องถามผู้สวมใส่
ทาง OnePlus ระบุว่า Nord Watch มีอายุการใช้งานราวๆ 10 วัน ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง หรือถ้าแสตนด์บายไวเฉยๆ จะอยู่ได้ 30 วัน แม้จะมีแบตเตอรี 230 mAh เท่านั้น ที่กินไฟน้อยขนาดนี้ก็เพราะว่ามันใช้ RTOS (ไม่ใช่ Wear OS อย่างที่หลายคนรอคอย) ทำให้ไม่สามารถติดตั้งแอพลงบนนาฬิกานี้ได้ และแม้จะมีตัวเลือก Watch Face มากถึงหลักร้อยแบบ แต่สามารถใส่เอาไว้ได้ในนาฬิกาเพียง 5 แบบเท่านั้น ถ้าอยากเปลี่ยนนอกเหนือจากนี้ต้องเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อเปลี่ยนใหม่
ตัวเครื่องใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 โดยมือถือจะต้องติดตั้งแอพ N Heatlh เสียก่อน โดยมือถือจะต้องเป็น Android 6.0 หรือ iOS 11 ขึ้นไป นอกจากแสดงผลข้อมูลจากเซนเซอร์ของนาฬิกาแล้ว ยังให้เราตั้งค่า Notification ที่จะส่งไปที่นาฬิกาได้ด้วย
OnePlus Nord Watch จะมีให้เลือกเพียงสองสีเท่านั้น คือ Midnight Black และ Deep Blue Shades ข่าวร้ายก็คือรุ่นนี้จะไม่วางจำหน่ายทั่วโลก จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในอินเดียเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 5,000 รูปี (ราวๆ 2,300 บาท)
ที่มา – Android Police
