Review

รีวิว iQOO 11 5G ที่สุดของสมาร์ทโฟนเกมมิ่งแรงด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 2 เพียง 27,990 บาท

iQOO 11 5G สมาร์ทโฟนแรงแบบสุดขีด แรงแบบไม่เกรงใจใคร แถมยังชาร์จไว 120 วัตต์ กับราคาเปิดตัวเพียง 27,990 บาท รับรองว่าคุ้มค่า ไม่มีผิดหวังแน่นอน

สิ้นสุดการรอคอยกับสมาร์ทโฟนแบรนด์ iQOO ที่บรรดาเกมเมอร์ชาวไทยรอคอยมานาน โดยรุ่นที่นำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเป็นรุ่นแรกคือ iQOO 11 5G ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแบรนด์น้องใหม่นี้กันก่อนดีกว่า โดยชื่อแบรนด์ iQOO มีที่มาจาก “I Quest On and On” มุ่งมั่นที่จะคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ ต้องการมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สุดยอดกับเหล่าเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ และต่อยอดให้กับนักกีฬา eSports ให้ดีที่สุดด้วย สามารถคลิกอ่านเต็มๆ ได้จากบทความนี้  และเมื่อทำความรู้จักกับแบรนด์เรียบร้อยแล้ว เรามาทำการแกะกล่องของรุ่นนี้เลยดีกว่า

iQOO 11 5G

แกะกล่องลองเล่น iQOO 11 5G

หน้ากล่องเราจะเห็นโลโก้ iQOO กับ BMW M Motorsport ที่ร่วมมือในการออกแบบดีไซน์โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งของ BMW และยังมีการ์ดรูปรถแข่ง BMW M Motorsport มาให้ในกล่องด้วย และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้

iQOO 11 5G

  • iQOO 11 5G สี Legend White
  • อแดปเตอร์ FlashCharge กำลังไฟ 120 วัตต์
  • สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
  • เคสซิลิโคนแบบใส
  • ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
  • การ์ด iQOO x BMW M Motorsport
  • เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
  • อแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
  • ใบรับประกันสินค้า, คู่มือการใช้งาน

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

ถือว่ามีอุปกรณ์มาให้อย่างอย่างครบครัน จะขาดก็เพียงหูฟังเท่านั้น แต่ก็หาซื้อได้ง่าย หรือจะใช้หูฟังที่ใช้อยู่ประจำมาใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สายบลูทูธ หรือหูฟังแบบมีสายก็มีอแดปเตอร์แปลงเป็นช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 มม. มาให้ นอกนั้นก็มีอแดปเตอร์ 120 วัตต์ สายชาร์จ เคสซิลิโคนแบบใส สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G สี Legend White ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง BMW M Sport

ความโดดเด่นของ iQOO 11 5G รุ่นนี้นอกจากจะร่วมมือกับทางแบรนด์รถยนต์ระดับโลกอย่าง BMW แล้ว อีกทั้งยังได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถแข่ง BMW ในตำนาน นำเอาโทนสีของ BMW มาแต่งแต้มให้ iQOO 11 5G รุ่นนี้มีความสวยงาม โดดเด่นสะดุดตาไม่เหมือนใคร ฝาหลังทำจากหนังสีขาวลวดลายของ Clous de Paris “กลู เดอ ปารีส์” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาหรูหราสะดุดตาในแบบเรียบง่าย ให้สัมผัสนุ่มมือพร้อมกับความพรีเมี่ยม ด้านหลังนี้ยังคาดด้วยเส้นสีน้ำเงิน สีดำ และสีแดงพาดผ่านหลังเครื่องเป็นทางยาว ตัวเครื่องบางเพียง 8.72 มม. น้ำหนักเบาเพียง 203 กรัมเท่านั้น โดยรวมถือว่าเป็นการออกแบบที่เรียบหรู พรีเมี่ยม สัมผัสได้ถึงความแรงภายในเครื่องเลยทีเดียว

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

จอแสดงผลใช้จอภาพแบบ E6 AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K WQHD+ หรือความละเอียด 1400 x 3200 พิกเซล แสดงผล 1.07 พันล้านสี ให้ความละเอียดและสีสันที่สมจริง อัตราการแสดงผล 144 Hz รองรับ HDR 10+ เหนือจอแสดงผลมีกล้องแบบฝังใต้หน้าจอ มีลำโพงสนทนาแบบสเตอริโอ ซึ่งทำงานร่วมกับลำโพงด้านล่าง ให้เสียงแยกซ้ายขวาอย่างชัดเจน ส่วนล่างของหน้าจอเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังใต้หน้าจอ ปลดล็อคเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

iQOO 11 5G

ด้านหลังใช้วัสดุหนังสีขาวดูสะอาดตา และยังมีพื้นผิวนุ่ม ไม่ลื่นมือ มาพร้อมลวดลาย Clous de Paris (กลู เดอ ปารีส์) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาสุดหรูที่มีดีไซน์เรียบง่าย มีแถบสี 3 สีที่ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง BMW สีแดงสื่อถึงความหลงไหลในการแข่งรถ สีดำหมายถึงนวัตกรรมเทคโนโลยี และสีฟ้าหมายถึงการสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก สีเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวของเสน่ห์ นวัตกรรม และสุนทรียศาสตร์แห่งความเร็ว สำหรับโมดูมีทั้งหมด 3 เลนส์พร้อมไฟแฟลชแบบ LED มีเครื่องหมายชิปประมวลผล V2 กำกับอยู่ด้วย ส่วนล่างของกล้องยังมีแถบสีเงิน มีเซ็นเซอร์วัดแสงที่จะเข้ามาช่วยในการปรับแสงภาพถ่ายให้สมดุลย์

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

ด้านข้างซ้ายไม่มีปุ่มกดใดๆ บริเวณนี้ จะมีเพียงแถบสีเล็กๆ อยู่ 2 แถบเป็นเสาอากาศรับสัญญาณที่ซ่อนอยู่ด้านข้าง ส่วนที่ด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่องรวมอยู่ด้านนี้ทั้งหมด

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีพอร์ตอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โดยใช้งานร่วมกับแอพฯ Smart Remote ใกล้ๆ กันเป็นช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน

ส่วนที่ด้านล่างมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบประกบ SIM1 และ SIM2 ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสาย USB-C และลำโพงสปีกเกอร์โฟน ทำงานร่วมกับลำโพงด้านบนจะให้เสียงแบบสเตอริโอ ให้เสียงแยกซ้ายขวาสมจริง

แรงทะลุขีดสุดด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นแรก ทำคะแนน Antutu เกิน 1.2 ล้าน

ถือเป็นรุ่นแรกในตลาดสมาร์ทโฟนที่คว้าเอาชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 เทคโนโลยีการผลิต 4 นาโนเมตร มาใช้เป็นรุ่นแรก หลังจากทดสอบ และพัฒนามานานหลายเดือน โดยชิปเซ็ตนี้พัฒนามาจาก Snapdragon 8 Gen 1 ให้มีความแรงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่แรงที่สุดในตอนนี้ โดยตัวชิปมีแกนประมวลผลแบบ Octa-core ความเร็วถึง 3.2 GHz หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5X 16 GB ที่สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วถึง 8533 Mbps ซึ่งเร็วกว่า LPDDR5 รุ่นก่อนถึง 33% และยังสามารถเพิ่มได้อีก 8 GB ด้วยฟีเจอร์ Extened RAM รวมทั้งหมดถึง 24 GB กันเลยทีเดียว ส่วนหน่วยความจำ ROM สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ ก็ใช้ชิปรุ่นใหม่ UFS 4.0 มีหน่วยความจำมาให้ถึง 256 GB ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 บนพื้นฐาน Android 13 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

นอกจากชิปประมวลผลหลักแล้ว iQOO 11 5G ยังติดตั้งชิป V2 ที่ทาง vivo พัฒนาขึ้นมา มีสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการอัพเกรดจากชิป V1 ที่จะเข้ามาช่วยประมวลผล AI และหน่วยประมวลผลภาพ ถูกพัฒนาให้ใช้พลังงานต่ำ ลดการใช้พลังงานเกือบครึ่งหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ชิป V2 สามารถช่วยชิป GPU ประมวลผลกราฟฟิคในการแสดงรูปภาพได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งช่วยลดอัตราการทำงานของ GPU ได้ในระดับหนึ่งด้วย

และเมื่อมีหน่วยประมวลผลที่เร็วแรงแบบสุดๆ แล้ว ระบบระบายความร้อนแบบด้วยของเหลวแบบ Vapour Chamber ของ iQOO 11 5G มีประสิทธิภาพกระจายความร้อนด้วยพื้นที่ใหญ่ถึง 24,768 ตาราง มม. มีแผ่นแกรไฟต์ 3 เลเยอร์เพื่อลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดอุณหภูมิพื้นผิวของโทรศัพท์มือถือได้ 4°C และอุณหภูมิที่จุดเชื่อมต่อได้เต็ม 14°C เมื่อเทียบกับโทรศัพท์ที่ไม่มีระบบระบายความร้อน จึงไม่ทำให้เฟรมเรทตกเมื่อเครื่องมีความร้อนสะสมสูงเกินไป

iQOO 11 5G

มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ Antutu เวอร์ชั่น 9.4.4 ที่เราใช้ทดสอบอยู่เป็นประจำ สามารถทำคะแนนได้ถึง 1,265,100 คะแนน ทำคะแนนได้สูงสุดในการจัดอันดับของ Antutu เรียกได้ว่าแรงที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้

iQOO 11 5G

ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 ก็สามารถทำคะแนน Single-core ได้สูงถึง 1463 คะแนน และ Multi-core ทำคะแนนได้ถึง 4727 คะแนนเลยทีเดียว

iQOO 11 5G

ที่สุดสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่เร็วแรงที่สุด มาพร้อม Monster mode เล่นเกมลื่นสุดๆ

ด้วยชิปประมวลผล CPU Snapdragon 8 Gen 2, ชิป GPU Adreno 740 และชิป V2 ที่ผ่านการทำงานร่วมกัน จึงเกิดพลังในการประมวลผลด้าน Hardware ที่แรงมหาศาล อีกทั้งยังมีซอฟท์แวร์เข้ามาช่วยอย่างโหมด Multi-Turbo ที่จะเข้ามาช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากขึ้น สามารถเลือกปรับไปที่ Monster mode ที่จะเร่งความเร็วในการทำงานให้ถึงขีดสุด ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีในเครื่อง ทั้งหน่วยความจำ หน่วยประมวลผล การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมาให้สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G

iQOO 11 5G ยังให้อรรถรสในการเล่นเกมอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้เทคโนโลยี In-Display Dual Monster Touch ให้คุณควบคุมตำแหน่งทั้งซ้ายและขวาบนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ ระบบสั่น Dual X-Axis Linear Motors เพื่อความตื่นเต้นเร้าใจเต็มอรรถรสไปกับทุกเกม และระบบเสียง Dual Stereo Speakers ให้เสียงแบบรอบทิศทาง ให้ผู้เล่นรู้ตัวก่อนศัตรูจะมาถึง 

iQOO 11 5G

ในด้านการแสดงผลในการเล่นเกม iQOO 11 5G ก็มีจอภาพที่ถือเป็นสุดยอดของสมาร์ทโฟนแล้ว ยังมีฟีเจอร์ Game Frame Interpolation ที่ให้อัตราเฟรมเรทสูง 90 Hz ในเกมยอดนิยมเช่น BGMI, PUBG, Genshin Impact, COD และ Free Fire โดยเฉพาะเกม Genshin Impact เพิ่มขึ้นเป็น 144 Hz มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้เล่น และนักกีฬา eSports อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย

iQOO 11 5G

จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ที่เราใช้ทดสอบอยู่เป็นประจำก็สามารถปรับภาพกราฟฟิคในการตั้งค่าได้สูงสุดที่ระดับ Ultra HD ส่วนเฟรมเรทก็สามารถปรับไปได้สูงสุดที่ Ultra ด้วยเช่นกัน 

iQOO 11 5G

50MP Ultra Sensing Triple Camera พร้อมชิปประมวลภาพ V2

นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพความแรงแล้ว ชิปประมวลผล V2 ก็มีส่วนช่วยในการประมวลผลภาพอีกด้วย โดยกล้องของ iQOO 11 5G มาพร้อมกล้องหลังถึง 3 เลนส์ Ultra-Sensing 50 ล้านพิกเซล ถ่ายได้คมชัดทุกระยะ พร้อม Ambient Light Sensor หรือเซ็นเซอร์วัดแสงที่จะเข้ามาช่วยปรับความสว่างของภาพให้เหมาะสม อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Zero-Shutter-Lag Motion Snapshot สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีติดขัด พร้อมอัลกอริธึมป้องกันภาพสั่นไหวทำให้เก็บเสี้ยววินาทีของภาพได้อย่างทันท่วงทีได้อย่างชัดเจน สำหรับสเป็คกล้องของรุ่นนี้มีดังนี้

iQOO 11 5G

สเป็คกล้อง iQOO 11 5G

  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • กล้องหลักเลนส์ Wide 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.88 ระบบ OIS ป้องกันภาพสั่นไหว
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.46 ซูมออฟติคอล 2 เท่า
    • กล้อง Ultra & Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45

iQOO 11 5G

ด้วยชิปประมวลผลภาพ V2 ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับประมวลผลภาพโดยเฉพาะการถ่ายภาพตอนกลางคืนจะเข้ามาช่วยเพิ่มความสว่าง ช่วยลด Noise ของภาพ รวมไปถึงการถ่ายวิดีโอตอนกลางคืนด้วย นอกจากนี้ยังช่วยประมวลผลภาพ Portrait ละลายฉากหลังได้อย่างสมจริง การถ่ายภาพย้อนแสง ช่วยปรับความสว่างของภาพไม่ให้มืด หรือสว่างจนเกินไปด้วย และสำหรับการถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K 30 เฟรมต่อวินาที หรือหากปรับความละเอียดลงเหลือ 4K ก็จะถ่ายได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที

iQOO 11 5G

โหมดถ่ายภาพอื่นๆ

นอกจากนี้แล้วยังมีโหมดการถ่ายภาพในแบบอื่นๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • 50 MP เหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพความละเอียดสูง โดยกล้องจะถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดที่ 50 ล้านพิกเซล
  • พาโนรามา เหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพในมุมกว้าง สามารถเก็บภาพได้ทีละเฟรมแล้วนำมาต่อกันเป็นภาพมุมกว้างแบบพาโนรามา
  • สโลโม เป็นการถ่ายวิดีโอแบบช้าได้สูงสุด 240 เฟรมต่อวินาที
  • ไทม์แลปส์ เป็นการถ่ายวิดีโอแบบเร็ว เหมาะกับการตั้งกล้องเพื่อเร่งการเคลื่อนไหวเก็บไว้ในไม่กี่วินาที
  • โปร เป็นการถ่ายภาพในแบบมืออาชีพ สามารถเลือกปรับค่าความสว่าง, ค่า ISO, สปีดชัตเตอร์, White Balance ได้
  • เอกสาร Ultra HD เป็นโหมดช่วยถ่ายภาพเอกสารในความละเอียดสูง
  • เปิดม่านรับแสงนาน เป็นโหมดการถ่ายภาพที่จะเปิดชัตเตอร์เป็นเวลานาน เหมาะกับการถ่ายภาพแสงไฟ หรือถ่ายไฟเป็นเส้นยาวๆ
  • มุมมองคู่ เป็นการถ่ายวิดีโอโดยใช้กล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกันในเฟรมเดียว เหมาะสายกับ VLOG การถ่ายรีวิวสินค้า หรือรีวิวสถานที่
  • ซุปเปอร์มูน เป็นการถ่ายภาพที่มีพระจันทร์อยู่ด้านหลัง โดยระบบจะทำการขยายพระจันทร์ให้ใหญ่ขึ้น ดูน่าสนใจขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

Dual Cell แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วทันใจด้วย FlashCharge 120 วัตต์ เต็ม 100% ใน 26 นาที

จากกระแสรักษ์โลกของแบรนด์อื่นๆ เริ่มจะไม่มีอแดปเตอร์ชาร์จแบตให้ในกล่องแล้ว แต่ iQOO 11 5G ยังคงมีอแดปเตอร์มาให้ในกล่อง และยังเป็นแบบ FlashCharge ถึง 120 วัตต์ ชาร์จได้เร็วแบบสุดๆ จากเสียบชาร์จเพียง 5 นาทีก็สามารถชาร์จได้ถึง 33% เลยทีเดียว สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ก้อน มีความจุรวมกัน 2500 mAh เมื่อชาร์จด้วยกำลังไฟเต็มที่ 120 วัตต์ กระแสไฟจะถูกแบ่งออกไปชาร์จแบตเตอรี่ทั้ง 2 ก้อน จึงมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงกับแบตเตอรี่รับกระแสเกินขีดจำกัด

iQOO 11 5G

จากการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่จาก 1% ใช้เวลาเพียง 5 นาทีสามารถชาร์จได้ถึง 33% ชาร์จต่อไปถึง 10 นาที ได้ไฟมาถึง 57% และหากชาร์จต่อไปจนเต็ม 100% จะใช้เวลาเพียง 26 นาที ถือว่าเร็วมากๆ อีกทั้งยังไม่ทำให้เครื่องร้อน เพียงแค่อุ่นๆ เท่านั้น หากเกิดเหตุการณ์มาลืมชาร์จแบตเตอรี่ ก็เพียงแค่เสียบไว้ครู่เดียว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เต็ม 100% ใช้งานได้ทั้งวันแล้ว

บทสรุปรีวิว iQOO 11 5G จากความเห็นของ What Phone

กล้าพูดได้เลยว่านี่คือสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่แรงที่สุด คุ้มค่าที่สุดในเวลานี้ มาพร้อมดีไซน์รถแข่งสุดแรงอย่าง BMW M Sport สำหรับความแรงในการเล่นเกมนั้นถือว่าแรงเหลือๆ ในการเล่นเกมยุคนี้ สามารถเล่นเกมที่มีภาพกราฟฟิคแบบหนักๆ ได้สบายๆ เฟรมเรทลื่นไหล ไม่มีกระตุก ไม่มีสะดุดแน่นอน ในด้านการถ่ายภาพถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ส่วนใครที่อยากได้สมาร์ทโฟนแรงแบบสุดขีด แรงแบบไม่เกรงใจใคร แถมยังชาร์จไว 120 วัตต์ กับราคาเปิดตัวเพียง 27,990 บาท รับรองว่าคุ้มค่า ไม่มีผิดหวังแน่นอน

iQOO 11 5G

สรุปจุดเด่นของ iQOO 11 5G

  • ขนาด 164.86 x 77.07 x 8.72 มม., น้ำหนัก 203 กรัม
  • หน้าจอ AMOLED E6 ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K แสดงผล 1.07 พันล้านสี
  • อัตรารีเฟรชเรท 144 Hz รองรับ HDR10+
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Octa-core 3.2 GHz
  • หน่วยประมวลผลภาพ V2
  • หน่วยความจำ RAM LPDDR5X+ 16+8 GB, ROM 256 GB UFS 4.0
  • หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 740
  • รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G SA/NSA
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • กล้องหลักเลนส์ Wide 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.88 ระบบ OIS ป้องกันภาพสั่นไหว
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.46 ซูมออฟติคอล 2 เท่า
    • กล้อง Ultra & Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • ถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K 30 เฟรมต่อวินาที, 4K 60 เฟรมต่อวินาที
  • แบตเตอรี่ Dual Cell 5000 mAh ชาร์จเร็ว FlashCharge กำลังไฟ 120 วัตต์
  • ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
  • ระบบสั่นแบบ Dual X-Axis
  • รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 ความถี่ 2.4/5 GHz 2×2 MIMO, MU MIMO และบลูทูธ 5.3
  • สี Legend White
  • ราคาเปิดตัว 27,990 บาท

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

 

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save