AIS เผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ประจำปี 2566 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 44,774 ล้านบาท ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4.1% จากไตรมาสก่อน จากปัจจัยตามฤดูกาลของการขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมทั้งส่งมอบกำไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่งที่ 7,180 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน เป็นผลมาจากการการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลักควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนจากการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการมุ่งเน้นคุณภาพของการให้บริการทุกมิติ โดยในครึ่งปีหลัง AIS ยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อยกระดับคุณภาพบริการและโครงข่ายอัจฉริยะ 5G เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดผู้ใช้งาน เสริมขีดความสามารถของกลุ่มธุรกิจหลัก พร้อมทั้งเดินหน้าขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงในพื้นที่ใหม่ๆ การพัฒนาโครงข่ายและโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจ ด้วยงบประมาณ 27,000-30,000 ล้านบาท พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ตามแผน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “จากวิสัยทัศน์ที่เราประกาศ พร้อมยกระดับ AIS สู่การเป็น Cognitive Tech-Co หรือผู้ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงเราสามารถนำแนวทางดังกล่าวเข้ายกระดับการทำงานในองค์รวม ตั้งแต่งานปฏิบัติการโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อพัฒนาคุณภาพสัญญาณสื่อสารให้แม่นยำและสามารถแก้ไขปัญหาได้แบบ Realtime ผ่านการใช้ AI ร่วมกับการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบ IT ที่ชาญฉลาดเพื่อความรวดเร็วและความปลอดภัย มาจนถึงกระบวนการนำเสนอการให้บริการที่สามารถส่งมอบบริการให้ลูกค้าได้แบบ Personalization ด้วยการประยุกต์ใช้ Data Analytic ระดับสูง
ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะมีความกังวลสำหรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ในขณะเดียวกันเราเริ่มเห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญต่อ Ecosystem Economy ของประเทศ”
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2566 AIS มีรายได้รวมอยู่ที่ อยู่ที่ 44,774 ล้านบาท ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน และลดลง 4.1% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่รายได้จากการให้บริการหลักเติบโตขึ้น 1.8% จากไตรมาส 2 ปีก่อนและ 1.1% จากไตรมาสก่อน และจากการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้าปรับใช้ในกระบวนการดำเนินงาน โดยเฉพาะด้านโครงข่ายให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า ทำให้เอไอเอสมีกำไรสุทธิที่ 7,180 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน และเติบโตขึ้น 6.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เท่ากับ 23,317 ล้านบาท เติบโต 4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เติบโตขึ้น 1.0% จากไตรมาส 2 ปีก่อน และ 0.8% จากไตรมาสก่อน มีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมแล้วกว่า 7.8 ล้านราย เติบโตขึ้นจาก 3.9 ล้านรายในไตรมาส 2 ปีก่อน ในขณะที่ปัจจุบันเอไอเอสมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 45.3 ล้านเลขหมาย และคงความเป็นผู้นำด้วยโครงข่าย 5G ที่ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการกว่า 99% ในกรุงเทพ และ 87% ของพื้นที่ประชากร ประกอบกับการมีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก กสทช.) ทำให้ AIS มีความพร้อมในการมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า
ขณะที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการขยายพื้นที่บริการ และการส่งมอบบริการและนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหนือกว่ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทั้งการเชื่อมโยงอุปกรณ์กระจายสัญญาณและสร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ Gigabit ทุกห้องภายในบ้านด้วยโครงข่ายไฟเบอร์ หรือ FTTR (Fiber to The Room) ที่พร้อมเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟแบบไร้รอยต่อ(Seamless Roaming) เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดทุกพื้นที่ในบ้าน หรือแม้แต่การเปิดให้บริการ WiFi 6E เทคโนโลยีมาตรฐานสัญญาณไร้สายใหม่บนคลื่นความถี่ใหม่ 6GHz เป็นรายแรกของอุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในเมืองไทย โดย AIS Fibre มีรายได้เติบโตกว่า 15% จากไตรมาส 2 ปีก่อน และเติบโตต่อเนื่อง 5.4% จากไตรมาสก่อน มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 60,500 รายต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนและ มีฐานลูกค้ารวมกว่า 2.33 ล้านราย
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรทำรายได้เติบโต 2.2% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อส่งมอบโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจตั้งแต่ผู้ประกอบการ SME ไปจนถึง ภาคการผลิต และภาคอุตสาหกรรมในการทำ Digital Transformation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
นายสมชัย กล่าวในช่วงท้ายว่า “การเดินทางสู่ Cognitive Tech-Co เป็นภารกิจหลักที่เราต้องการยกระดับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ก้าวไปอีกขั้น ให้มีขีดความสามารถและมาตรฐานระดับสากล ที่สำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ โครงข่ายเน็ตบ้านที่คุณภาพดีที่สุดและครอบคลุมที่สุดในประเทศ รวมถึงสิทธิพิเศษ และงานบริการที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการมุ่งส่งมอบคุณภาพและประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”