รู้ไหมว่าอาการช่องคลอดอักเสบไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่คุณดูแลสุขลักษณะของตนเองไม่ดีเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับภาวะช่องคลอดอักเสบกันมากขึ้น ว่ามีอาการอย่างไร ไปรู้พร้อมกันในบทความนี้
ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) คืออะไร
ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) คืออาการอักเสบของช่องคลอด ซึ่งเป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างปากมดลูกและอวัยวะเพศภายนอก ช่องคลอดอักเสบ มีอาการที่พบได้บ่อยคือ ปวดแสบปวดร้อนบริเวณอวัยวะเพศ มีไข้ หนาวสั่น อาจมีตกขาวผิดปกติ เป็นสีเขียวหรือมีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้ยังอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปวดท้องน้อย มีเลือดออกผิดปกติระหว่างประจำเดือน รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น คันบริเวณอวัยวะเพศ รู้สึกระคายเคือง และปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
ช่องคลอดอักเสบ มีสาเหตุมาจากอะไร
เมื่อได้รู้แล้วว่าช่องคลอดอักเสบ มีอาการอย่างไร เราไปรู้ถึงสาเหตุกันก่อนเลยดีกว่า
สาเหตุของช่องคลอดอักเสบมีหลายประการ สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรียหรือรา โดยเฉพาะเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกัน ทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรียจากคู่นอน ภาวะนี้จึงสามารถพบได้มากในผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน นอกจากนี้การดูแลรักษาสุขอนามัยไม่ดี การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศภายนอกที่ไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้สมดุลของแบคทีเรียธรรมชาติในช่องคลอดเปลี่ยนแปลง กลายเป็นสาเหตุของการติดเชื้อและอักเสบได้
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ เช่นโรคเบาหวานหรือภาวะร่างกายอ่อนแอจากการเจ็บป่วย การคงอยู่ของวัสดุแปลกปลอมในช่องคลอดนานเกินไป เช่น ถุงยางอนามัย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์บางชนิดผิดวิธี รวมถึงภาวะความผิดปกติของฮอร์โมนเพศหญิงด้วย
การป้องกันช่องคลอดอักเสบ มีอะไรบ้าง
หลังจากได้รู้สาเหตุของช่องคคลอดอักเสบ และอาการกันไปแล้ว เรามาดูวิธีป้องกันช่องคลอดอักเสบกันบ้าง
การป้องกันช่องคลอดอักเสบให้ความสำคัญกับการรักษาสุขอนามัยและสมดุลแบคทีเรียในร่างกาย โดยการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค การล้างทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ด้วยน้ำสะอาดและสบู่ที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือผลิตภัณฑ์รักษาความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป มิฉะนั้นอาจทำลายสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด นอกจากนี้ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-6 ชั่วโมง สวมใส่ชุดชั้นในจากวัสดุระบายอากาศได้ดี เลี่ยงการสวมชุดรัดรูปเกินไป รวมถึงการออกกำลังกายพอประมาณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
การรักษาช่องคลอดอักเสบมีอะไรบ้าง
สำหรับการรักษาช่องคลอดอักเสบ หากมีอาการไม่มากและทนได้ สามารถลองรักษาด้วยตนเองที่บ้านก่อนได้ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยขับเสมหะและล้างตัวได้ดี หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราว โดยสังเกตอาการเพิ่มเติม 1-2 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นหรือกลับมีอาการหนักมากขึ้น เช่น มีไข้สูง ปวดท้องรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ หรือการผ่าตัดกรณีมีภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรง
ภาวะช่องคลอดอักเสบ เป็นสภาวะที่สามารถป้องกันได้หากเข้าใจอาการและสาเหตุ อย่าปล่อยปละละเลยเพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ดูแลรักษาสุขอนามัยให้ดี และพึ่งหมอเมื่อมีอาการผิดปกติ จะสามารถลดความเสี่ยงนี้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น