ดีแทค ร่วมกับ 16 องค์กรชั้นนำพร้อมใจลงนาม ผนึกกำลังช่วยเหลือในโครงการ “Bright Smiles & Happy Hearts”ผ่านมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย (Operation Smile Thailand)
26 สิงหาคม 2557 – ดีแทค ร่วมกับ มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย หรือ Operation Smile Thailand เผยภาวะของผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ในไทยที่เผชิญ พบยังมีคนป่วยตกค้างและที่การรักษาเข้าไปไม่ถึงอีกหลายพันรายทั่วประเทศ ล่าสุดผนึกกำลังอีก 16 องค์กรชั้นนำร่วมพิธีลงนามความช่วยเหลือภายใต้โครงการ “Bright Smiles & Happy Hearts” ระดมทุนเพื่อมอบโอกาสและความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบและยั่งยืน
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เผยว่า “แนวทางการดำเนินงานเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่ดีแทคเรายึดมั่นมาโดยตลอด เราให้การสนับสนุนมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่องกว่า 7 ปีแล้ว มาปีนี้เพื่อให้การสนับสนุนเป็นไปตามแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เราจึงได้ร่วมกับองค์ชั้นนำอีก 16 องค์กรเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ครอบคลุมพื้นที่ทุรกันดารได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นและเป็นอย่างยั่งยืน สำหรับดีแทค ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเราเองก็ได้มีแผนในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อมาช่วยในการเก็บข้อมูลหรือแม้กระทั่งการพัฒนาให้ผู้ป่วยได้ใช้งานและสามารถฝึกการพูดหลังการผ่าตัดได้”
นาย เควิน เจ บูเว่ส์ ประธานกรรมการมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย หรือ Operation Smile Thailand กล่าวว่า “มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย (Operation Smile Thailand) ได้จดทะเบียนก่อตั้งเป็นองค์กรการกุศลในปี พ.ศ. 2544 ให้การรักษาผู้ป่วยภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ที่ยากไร้ อาศัยในพื้นที่ห่างไกลทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งจวบจนปัจจุบันมีผู้ยากไร้ที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนชีวิตกว่า 8,000 รายแล้ว จากการเก็บข้อมูลพบว่า ยังมีผู้ป่วยที่มีอาการเช่นนี้ที่รอคอยการรักษาทั้งที่มาลงทะเบียนเข้ารับการรักษาและที่ไม่ได้ลงทะเบียน นั่นหมายถึงกลุ่มที่เรายังเข้าไปไม่ถึงอีกจำนวนมากทั่วประเทศ จึงทำให้ทางมูลนิธิฯ ต้องพยายามลงพื้นที่เพื่อสำรวจจำนวนผู้ป่วย เพื่อหาแนวทางให้การรักษาได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น”
รองศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชัย อังสพัทธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคสนาม มูลนิธิสร้างรอยยิ้มประเทศไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันยังหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ไม่แน่ชัด เพราะภาวะนี้เป็นมาตั้งแต่กำเนิดซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เป็นระยะตั้งแต่ตัวอ่อนกำลังเจริญวัย จึงเชื่อว่าอาจเกิดจากปัจจัยด้านพันธุกรรมและด้านสิ่งแวดล้อมประกอบกัน อาทิ การขาดสารอาหาร หรือการติดจากสารเสพติด เป็นต้น จากสถิติพบว่า เด็ก 1 ใน 700 รายมีภาวะปากแหว่ง หรือเพดานโหว่ บางรายมีอาการทั้งสองอย่าง สำหรับประเทศไทยโดยเฉลี่ยแล้วจะมีเด็กเกิดใหม่ 2,000 รายต่อปีที่มีภาวะปากแหว่ง หรือเพดานโหว่
นอกจากนี้อาการปากแหว่งเพดานโหว่ และอาจจะเกิดปัญหาผิดปกติทางร่างกายอื่นๆ อีกหลายกรณีตามมา เช่น โรคเกี่ยวกับหู หูติดเชื้อเรื้อรัง โรคขาดสารอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับฟัน และการพัฒนาด้านการพูด รวมถึงอาจจะส่งผลกระทบด้านอารมณ์และความรู้สึกของเด็กซึ่งจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ดังนั้นทีมงานที่อาสาสมัครมาช่วยทำการรักษาและดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ ล้วนเป็นทีมแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง วิสัญญีแพทย์ กุมารแพทย์ ทันตแพทย์และพยาบาลจากหน่วยงานของรัฐทั้งหมดที่เสียสละเวลารวมถึงความชำนาญในวิชาชีพ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด เนื่องจากในปัจจุบันยังมีเด็กไทยอีกหลายพันคนที่กำลังรอโอกาสเช่นนี้อยู่ เพราะมันจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กๆ เหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้พวกเขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และเปลี่ยนจากเด็กที่ชอบเก็บตัวไป เป็นเด็กที่เปิดตัวเองสู่โลกกว้างแห่งการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์และมีประโยชน์ต่อสังคมภายภาคหน้า”
“เราจึงเชื่อมั่นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ Bright Smiles & Happy Hearts จะเป็นโครงการตัวอย่างที่ช่วยกระตุ้นให้สังคมหันมามอบรอยยิ้มใหม่ให้แก่คนไทย ด้วยศักยภาพการทำงานของแต่ละองค์กรที่จะมาบูรณาการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืนได้อย่างแน่นอน” คุณจอน กล่าวทิ้งท้าย
>