หลังจากที่ได้ชมภาพ Wiko Bloom ไปแล้วว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรในตอนแกะกล่องและพรีวิว กันไปแล้ว คราวนี้เรารับ พูดถึงต่อในเรื่องของ Software กันบ้างดีกว่าว่า Wiko Bloom จะมีฟีเจอร์เด็ดๆอะไรบ้าง
เริ่มต้นด้วย Software กันก่อนเลย Wiko Bloom จะมาพร้อมกับ android v 4.4.2 (Kitkat) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมหน่วยความจำภายในเครื่อง 8GB หากไม่พอก็สามารถเพิ่ม เมม microSD จากภายนอกได้ถึง 32GB แรมให้มาถึง 1GB ใช้งานได้ดี
Wiko Bloom มาพร้อมกับ ยูไอแบบเพียวกูเกิ้ลก็คือไม่มีการปรับแต่งใดๆเพิ่มเติม จึงทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลดี
แถบสถานการณ์แจ้งเตือนเมื่อเลื่อนลงมาก็จะพบกับ การตั้งค่ามากมาย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นส่วนอื่นๆก็จะเป็น recent app การมัลติทาสกิ้ง หรือการเปลี่ยนโปรแกรม หรือปิดโปรแกรมโดยการกดปุ่มซ้ายสุดด้านล่างที่เป็นปุ่มทัสค้างไว้สัก 3วินาทีก็จะขึ้นมาให้เราใช้งาน นอกจากนี้เมื่อแตะหน้าจอโฮมสกรีนค้างไว้ก็จะขึ้นเมนูมาสามเมนู โดยสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง เพิ่มวิดเจ็ดไปยังหน้าจอได้เช่นกัน รวมถึงเข้าเมนูตั้งค่าจากทางนี้ก็ได้เช่นกัน
ในส่วนของการใช้งาน 2ซิมการ์ดนั้น สามารถตั้งค่าให้ซิมไหนโทรออกเป็นเบอร์หลักหรือ ถามทุกครั้งที่โทรก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้การใช้งานอินเตอร์เนตผ่าน Data นั้นก็ตั้งค่าให้ใช้งานเฉพาะซิมก็ได้เช่นกัน โดยซิมหนึ่งจะรองรับ 3G เท่านั้น ส่วนซิมสองไม่รองรับ ต่อมาก็จะเป็นจุดเด่นของ Wiko นั้นก็คือฟีเจอร์ Smart Gesture หรือการสั่งงานได้โดยไม่ต้องสัมผัสจอ นั้นเอง โดยมีตัวเลือกให้เลือกใช้งานมากมายไมว่าจะเป็น สั่งงานเพื่อปลดล็อคจอ สั่งงานให้ถ่ายรูปเป็นต้นทำให้เราสะดวกมากยิ่งขึ้นเวลาใช้งาน รวมถึงเวลาที่รามือเปื้อน หรือมือเปียกอยู่ ฟีเจอร์นี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานนั้นข้างในจะมีวิธีสอนการใช้งานให้ด้วย โดย Wiko Bloom นั้นจะรองรับ 3G 900/1900/2100 เท่านั้นนะครับ
มาถึงในส่วนของเครื่องเล่นเพลงกันบ้าง หน้าตาเล่นเพลงจะแบบเรียบๆ สามารถปรับแต่งเสียงเพอ่มเติมตามความชอบของเราได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถฟัง วิทยุ โดยตรงเสียบหูฟังก่อนทุกครั้งเพื่อเป็นเสาสัญญานในการหาคลื่น นอกจากนี้ ไฟล์ส่วนตัวนั้นมีการจัดเรียงอย่างสวยงาม และใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในส่วนของ การเล่นวิดีโอนั้น Wiko Bloom สามารถเล่นไฟล์ Full-HD 1080p ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ย่อภาพให้เล็กลงโดยสามารถเล่นได้ทุกหน้าแม้กระทั้งตอนเราคุยแชท ทำให้เราไม่พลาดในการดูหนัง หรือเอ็มวี
นอกจากนี้ Wiko Bloom ยังมาพร้อมกับโหมด ART หรือการปรับการรันระบบใหม่ที่ทำงานได้เร็วกว่าระบบเดิมอย่าง Dalvik นั้นเองซึ่งน้อยรุ่นที่จะมีโหมดนี้มาให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมจดโน้ต และโปรแกรมป้องกันไวรัสของ Norton มาให้อีกด้วย ทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น
เรามาดูข้อมูลภายในของ Wiko Bloom กันบ้างว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ด้วยโปรแกรม CPU-Z ในการตรวจสอบ พร้อมกับรายละเอียดอื่นๆตามภาพเลยครับ
ไปวัดความแรงกับโปรแกรมทดสอบ CPU เริ่มด้วย โปรแกรม AnTuTu Benchmark ด้วยคะแนน 18,720 คะแนน ต่อที่ โปรแกรม Quadrant Standard 8,816 คะแนน ปิดท้ายด้วยโปรแกรม Basemark OS ll 424 คะแนน
มาถึงการใช้งานกล้องกันบ้างนะครับ กล้องของ Wiko Bloom มาพร้อมกับกล้องหลัง 8ล้านพิกเซลพร้อมระบบ ออโต้โฟกัส กล้องหน้า 2ล้านพิกเซล และบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด Full-HD 1080p หน้าตาของเมนูกล้องก็จะมีหน้าตาแบบเรียบง่าย มีโหมด HDR, พาโนรามา, Smile เป็นต้น
โดยจุดเด่นของกล้อง Wiko ยังมาพร้อมกับโหมดกล้องสุดเจ๋ง ที่ชื่อว่า Object Eraser หรือการลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพออกไปได้โดย การทัสที่กรอบสี่เหลี่ยมเพียงเท่านี้ก็ลบออกได้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีโหมด Cinemagraph สุดเจ๋ง มาให้เราได้เล่นกันอีกด้วย โหมดนี้ก็คือการทำภาพเคลื่อนไหวที่สิ่งที่เราต้องการให้เคลื่อนไหวนั้นเอง เรามาชมตัวอย่างภาพถ่ายของ Wiko Bloom กันสักนิด
สุดท้ายนี้ ต้องบอกเลยว่า Wiko Bloom นั้นมีรูปร่างดีไซน์ที่สวยงาม สีสันที่โดนใจวัยรุ่น รักเรียนทำให้หลายๆคนที่เห็นแล้วนั้นต่างอยากลองจับจองเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ด้วยจุดเด่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ มาพร้อมซีพียูสุดแรงระดับ Quad-core และที่สำคัญยังมาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 4.4 KitKat อีกด้วย กล้องที่ต้องบอกว่าเด็ดจริงๆกับฟีเจอร์ Object Eraser และ Cinemagraph ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมภาพที่ได้นั้นดูคมชัดอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้วางขายแล้วในราคา 3,990บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ
สำหรับท่านใดที่ยังได้ชมการแกะกล่อง ก็สามารถเข้าไปดูได้ในลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย ในนั้นจะมีสเป็คเครื่อง Wiko Bloom ด้วยครับ
Unboxing : Wiko Bloom สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังอันดับสองของฝรั่งเศส มาพร้อม Android 4.4 KitKat สีสันสดใส