ตอนนี้หลายๆ แบรนด์ต่างเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ รวมถึงแบรนด์น้องใหม่ที่วันนี้แอดมินจะมาแนะนำแบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง Wiko ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากในประเทศฝรั่งเศส โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงเป็นอันดับที่สองของประเทศเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังดังไปยังประเทศอื่นๆในยุโรปอีกหลายประเทศด้วยเช่นกัน และล่าสุด Wiko ก็ได้มาบุกตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย โดยในครั้งนี้ แอดมินจะขอแนะนำรุ่น Wiko Slide ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5นิ้ว รองรับสองซิม และรันแอนดรอย์เวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง android 4.4 kitkat อีกด้วย ตอนนี้ได้วางจำหน่ายแล้ว ในราคาเพียง 5,990บาทเท่านั้น สามารถหาซื้อได้ที่ JayMart, TG Fone, และร้านค้าในห้างมาบุญครอง
คุณสมบัติเด่น ของ Wiko Slide มีดังนี้
- ขนาดเครื่อง 156x77x8.9mm
- น้ำหนักเครื่อง 166 กรัม
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G (900/1900/2100MHz)
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว IPS
- ความละเอียดจอ qHD 540×960 พิกเซล
- ชิปประมวลผล Mediatek MT6582 Quad-core ความเร็ว 1.3GHz
- ชิปกราฟิค Mali-400MP
- แรมขนาด 1GB
- หน่วยความจำภายใน 4GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32GB
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวิดีโอ Full-HD 1080×1920 พิกเซล
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (SIM 1 / microSIM 2)
- แบตเตอรี่ความจุ 2,350 มิลลิแอมป์
- Android 4.4.2 KitKat
- สีตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทยคือ สีดำ
- ราคาขาย 5,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้าน Jaymart, TG Fone, Banana Mobile, Mango Mobile และห้าง MBK
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาทำความรู้จักกับ Wiko Slide กันเลยดีกว่า
มาพร้อมกับกล่องใส่ที่สวยโดดเด่นไม่เหมือนใคร
มาดูอุปกรณ์ภายในกล่องกันบ้าง
- ตัวเครื่อง วีโก สไลด์
- แบตเตอรี่ความจุ 2,350 มิลลิแอมป์
- สาย USB 2.0
- หัวเต้าเสียบชาร์ต
- หูฟัง SmallTalk
- คู่มือการใช้งาน
- ตัวแปลง ซิมการ์ด
และนี้ก็คือ วีโก สไลด์ โดยรุ่นนี้จะมีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว โดยใช้เทคโนโลยี IPS เพื่อให้ภาพดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
ด้านบน จะมีแผงเซ็นเซอร์, ไฟแจ้งเตือน, ช่องลำโพงสนทนา, และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้านล่าง จะปุ่มทัส คือปุ่มเครื่องมือ ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียง
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง จะมีเพียงปุ่มเพาเวอร์เท่านั้น ซึ่งวางไว้บนๆของตัวเครื่อง เวลาใช้งานถือว่ากดได้ถนัดดีทีเดียว
ด้านบนตัวเครื่อง มีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. และช่องเสียบ microUSB 2.0 ข้างๆกันจะร่องให้แงะฝาหลังออกด้วย
ด้านล่างตัวเครื่องมีเพียง รูไมโครโฟน ไว้สนนทนาเท่านั้น
ด้านหลังตัวเครื่องนั้น ดีไซน์แบบเรียบ โดยตรงกลางจะมีโลโก้ Wiko อยู่ตรงกลาง
ด้านบน จะมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED
ด้านล่างจะมีเพียง ช่องลำโพง และมีปุ่มนูนขึ้นมานิดนึงเพื่อให้เสียงเรียกเข้านั้นไม่ถูกบดบังเวลาวางมือถือแบบหงายนั้นเอง
เมื่อแกะฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องใส่ซิม 1 เป็นแบบ ซิมใหญ่ และช่องใส่ซิม 2 เป็นแบบ ไมโครซิม และด้านมุมขวาจะเป็นช่องใส่เมม microSD
หลังจากที่ได้ชมภาพไปแล้วว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรในตอนแกะกล่องและพรีวิว กันไปแล้ว คราวนี้เรารับ พูดถึงต่อในเรื่องของ Software กันบ้างดีกว่าว่า Wiko Slide จะมีฟีเจอร์เด็ดๆอะไรบ้าง
เริ่มต้นด้วย Software กันก่อนเลย Wiko Slide จะมาพร้อมกับ android v 4.4.2 (Kitkat) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมหน่วยความจำภายในเครื่อง 8GB หากไม่พอก็สามารถเพิ่ม เมม microSD จากภายนอกได้ถึง 32GB แรมให้มาถึง 1GB ใช้งานได้ลื่นไหล
Wiko Slide มาพร้อมกับ ยูไอแบบเพียวกูเกิ้ลก็คือไม่มีการปรับแต่งใดๆเพิ่มเติม จึงทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลดี
แถบสถานการณ์แจ้งเตือนเมื่อเลื่อนลงมาก็จะพบกับ การตั้งค่ามากมาย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นส่วนอื่นๆก็จะเป็น recent app การมัลติทาสกิ้ง หรือการเปลี่ยนโปรแกรม หรือปิดโปรแกรมโดยการกดปุ่มซ้ายสุดด้านล่างที่เป็นปุ่มทัสค้างไว้สัก 3วินาทีก็จะขึ้นมาให้เราใช้งาน นอกจากนี้เมื่อแตะหน้าจอโฮมสกรีนค้างไว้ก็จะขึ้นเมนูมาสามเมนู โดยสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง เพิ่มวิดเจ็ดไปยังหน้าจอได้เช่นกัน รวมถึงเข้าเมนูตั้งค่าจากทางนี้ก็ได้เช่นกัน
ในส่วนของการใช้งาน 2ซิมการ์ดนั้น สามารถตั้งค่าให้ซิมไหนโทรออกเป็นเบอร์หลักหรือ ถามทุกครั้งที่โทรก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้การใช้งานอินเตอร์เนตผ่าน Data นั้นก็ตั้งค่าให้ใช้งานเฉพาะซิมก้ได้เช่นกัน โดยซิมหนึ่งจะรองรับ 3G เท่านั้น ส่วนซิมสองไม่รองรับ
ต่อมาก็จะเป็นจุดเด่นของ Wiko เลยนั้นก็คือฟีเจอร์ Smart Gesture หรือการสั่งงานได้โดยไม่ต้องสัมผัสจอ นั้นเอง โดยมีตัวเลือกให้เลือกใช้งานมากมายไมว่าจะเป็น สั่งงานเพื่อปลดล็อคจอ สั่งงานให้ถ่ายรูปเป็นต้นทำให้เราสะดวกมากยิ่งขึ้นเวลาใช้งาน รวมถึงเวลาที่รามือเปื้อน หรือมือเปียกอยู่ ฟีเจอร์นี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานนั้นข้างในจะมีวิธีสอนการใช้งานให้ด้วย
มาถึงในส่วนของเครื่องเล่นเพลงกันบ้าง หน้าตาเล่นเพลงจะแบบเรียบๆ สามารถปรับแต่งเสียงเพิ่มเติมตามความชอบของเราได้เช่นกัน วีโก สไลด์ ยังสามารถฟัง วิทยุ ได้โดยตรงเสียบหูฟังก่อนทุกครั้งเพื่อเป็นเสาสัญญานในการหาคลื่น นอกจากนี้ ไฟล์ส่วนตัวนั้นมีการจัดเรียงอย่างสวยงาม และใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในส่วนของ การเล่นวิดีโอนั้นสามารถเล่นไฟล์ Full-HD 1080p ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ย่อภาพให้เล็กลงโดยสามารถเล่นได้ทุกหน้าแม้กระทั้งตอนเราคุยแชท ทำให้เราไม่พลาดในการดูหนัง หรือเอ็มวี
นอกจากนี้ วีโก สไลด์ ยังมาพร้อมกับโหมด ART หรือการปรับการรันระบบใหม่ที่ทำงานได้เร็วกว่าระบบเดิมอย่าง Dalvik นั้นเองซึ่งน้อยรุ่นที่จะมีโหมดนี้มาให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมจดโน้ต และโปรแกรมป้องกันไวรัสของ Norton มาให้อีกด้วย ทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น
เรามาดูข้อมูลภายในของ Wiko Slide กันบ้างว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ด้วยโปรแกรม CPU-Z ในการตรวจสอบ พร้อมกับรายละเอียดอื่นๆตามภาพเลยครับ
ไปวัดความแรงกับโปรแกรมทดสอบ CPU เริ่มด้วย โปรแกรม Quadrant Standard 7,204 คะแนน ต่อที่โปรแกรม AnTuTu Benchmark ด้วยคะแนน 18,628 คะแนน ปิดท้ายด้วยโปรแกรม Basemark OS ll 430 คะแนน
มาถึงการใช้งานกล้องกันบ้างนะครับ กล้องมาพร้อมกับกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ ออโต้โฟกัส กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล และบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด Full-HD 1080p
หน้าตาของเมนูกล้องก็จะมีหน้าตาแบบเรียบง่าย มีโหมด HDR, พาโนรามา, Smile เป็นต้น
โดยจุดเด่นของกล้อง Wiko ยังมาพร้อมกับโหมดกล้องสุดเจ๋ง ที่ชื่อว่า Object Eraser หรือการลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพออกไปได้โดย การทัสที่กรอบสี่เหลี่ยมเพียงเท่านี้ก็ลบออกได้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีโหมด Cinemagraph สุดเจ๋ง มาให้เราได้เล่นกันอีกด้วย โหมดนี้ก็คือการทำภาพเคลื่อนไหวที่สิ่งที่เราต้องการให้เคลื่อนไหวนั้นเอง
สำหรับท่านใดที่สนใจโหมดกล้อง Object Eraser และ Cinemagraph สามารถเข้าไปดูในคลิปด้านล่างนี้ได้เลย เรามีวิธีการใช้งานให้ได้ชมกันครับ
เรามาชมตัวอย่างภาพถ่ายของ วีโก สไลด์ กันสักนิด
Wiko Slide แบรนด์ชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศสถือเป็นรุ่นที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับราคาเลยทีเดียว ด้วยขนาดหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5นิ้ว และยังมาพร้อมชิปประมวลผลระดับ Quad-core ทำให้ใช้งานได้ลื่นไหลเลยทีเดียวบวกกับแรมขนาด 1GB สลับแอพใช้งานได้ไม่มีสะดุด ตัวกล้องหลังที่ให้มามากถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟ แฟลช LED และโหมดออโต้โฟกัส ที่ถ่ายภาพได้ง่าย ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้ความจุ 2,350 มิลลิแอมป์ ใช้งานได้พบดีกันการใช้งาน 1 วัน โดยมาพร้อมกับ Android 4.4.2 Kitkat ใหม่ล่าสุดอีกด้วย