i-mobile i-note 2
i-mobile i-note 2 แท็บเล็ตรุ่นใหม่จาก i-mobile ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล มีดีไซน์โค้งมนตามสมัยนิยม เพิ่มรายละเอียดด้วยหน้าตัดเฉียงที่ขอบของตัวเครื่องทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รับกับอุ้งมือ สามารถจับถือเพื่ออ่านเมล์, เปิดเว็บเพจ หรือดูหนังได้อย่างสะดวกด้วยมือเดียว นอกจากนี้ i-mobile i-note 2 ยังเป็นแท็บเล็ตที่รองรับการใช้งานโทรศัพท์ โดยเราสามารถพูดผ่านไมโครโฟนของตัวเครื่องได้เลย ซึ่งเสียงของคู่สนทนาก็จะแสดงผลผ่านสปีกเกอร์โฟนที่ด้านข้างของตัวเครื่อง แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถเสียบสมอลล์ทอล์ก หรือใช้หูฟังบลูทูธในการสนทนาก็ทำได้เหมือนกัน
ทางด้านระบบปฏิบัติการของ i-mobile i-note 2 จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (ICS) ที่มีส่วนติดต่อผู้ใช้งาน(UI) แบบเดิมๆ ซึ่งค่อนข้างลงตัวดีอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้น i-mobile ก็ได้ทำการปรับแต่งนู่นนี่นิดหน่อยเพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่มแถบ Toggle บน Notification Bar ซึ่งเป็นทางลัดสำหรับเปิด/ ปิด การตั้งค่าเชื่อมต่อต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปตั้งค่าในเมนู Setting ให้วุ่นวาย นอกจากนี้ i-mobile i-note 2 ยังมาพร้อมขุมกำลังแบบ Dual-core ด้วยชิป Qualcomm Snapdragon MSM8625 ที่มี CPU แบบ Dual-core ความเร็ว 1 GHz พร้อม RAM ขนาด 512 MB ตอบโจทย์การใช้งานระดับเริ่มต้นอาทิ เช็คเมล์, ท่องเว็บ, ดูหนัง-ฟังเพลง, เล่นเกมทั่วไปได้อย่างลื่นไหล ส่วนเกมกราฟฟิก 3D หนักๆ เท่าที่ลองทดสอบกับเกม Death Dome ก็ยังพอไหวอยู่ อีกทั้ง i-mobile i-note 2 ยังมาพร้อมโปรแกรม Social Network สุดฮิตหลากหลายโปรแกรม ทั้ง Line, WhatsApp, Instagram, Facebook, twitter, Viber, Tango ฯลฯ ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ ทาง i-mobile ได้ Pre-Installed หรือติดตั้งมาให้เสร็จสรรพจากโรงงาน ไม่ต้องเสียเวลามาดาวน์โหลดเองที่บ้าน
Physical Overview
i-mobile i-note 2 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 7 นิ้ว รองรับการสัมผัสแบบ Multi-Touch มีความละเอียด 480 x 800 พิกเซล แสดงผลได้ 262,144 สี พร้อมกล้องหน้า 3 แสนพิกเซล (VGA) และเซ็นเซอร์ปรับระดับแสงหน้าจอ
ถัดลงมาใต้จอจะเป็นแผงปุ่มกดแบบสัมผัสเรียงกันอยู่ 3 ปุ่ม ซึ่งผู้ที่ใช้งานมือถือแอนดรอยด์คงจะคุ้นเคยกันดี เริ่มจากปุ่ม Setting, ปุ่ม Home และปุ่ม Back
เนื่องจาก i-mobile i-note 2 นั้นมีการใช้งานในแนวนอนเป็นหลัก เราจึงขออธิบายส่วนประกอบในแนวนอน เริ่มจากด้านซ้าย จะมีปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่องและล็อคหน้าจอ
ด้านขวามีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ท micro USB , ช่องลำโพงหลัก 2 ตัว และจุดเล็กๆ คือปุ่มสำหรับรีเซ็ทเครื่อง
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม/ ลด ระดับเสียง พร้อมช่องไมโครโฟนสำหรับการสนทนา
ย้ายมาดูที่ด้านหลังมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสน่าเสียดายที่ไม่มีไฟแฟลช LED ติดมาให้
i-mobile i-note 2 ไม่สามารถเปิดฝาหลังออกมาได้ มีเพียงช่องที่มีฝาพลาสติกปิดเอาไว้ เมื่อเลื่อนออกมาจะพบกับช่องใส่ซิม และช่องใส่ microSD อยู่ข้างๆ กัน
5 Mega Pixels Digital Camera
i-mobile i-note 2 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสแต่ไม่ไฟแฟลช LED ติดมาให้ สามารถสัมผัสหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัสได้ทันที พร้อมการเลือกปรับเอฟเฟ็คท์สีได้ 6 แบบ ทั้ง Mono, Sepia, Negative, Solarized, Posterized และ Aqua นอกจากนี้ยังเลือกถ่ายภาพแบบพาโนรามา หรือภาพมุมกว้างได้อย่างสะดวก เพียงแค่แพนกล้องไปรอบๆ ในส่วนของลูกเล่นต่างๆ สำหรับเมนูถ่ายภาพนั้นก็มีให้ตามมาตรฐานทั่วไป อาทิ การปรับ White Balance, ปรับ ISO, ปรับความคมชัด, ปรับจุดวัดแสง, เลือกโหมดโฟกัส ฯลฯนอกจากนี้ยังสามารถเปิดโหมด Store Location ที่สามารถบันทึกพิกัดดาวเทียม GPS เก็บไว้ในข้อมูลของไฟล์รูปภาพ สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้นก็สามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล (VGA) ได้นานสูงสุด 30 นาที นอกจากนี้ i-mobile i-note 2 ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซลสำหรับใช้ในการถ่ายภาพตัวเองได้อย่างสะดวก รวมไปทั้งใช้งานวิดีโอคอลล์ หรือสนทนาแบบเห็นหน้าผ่านโปรแกรม Skype, Tango หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่รองรับ
Music Player & FM Radio
เมื่อเข้าสู่โหมดเครื่องเล่นเพลงของ i-mobile i-note 2 ก็จะพบกับเมนูแสดงรายการเพลงที่จัดเป็นหมวดหมู่ทั้งแบบเรียงตามรายชื่อศิลปิน, อัลบั้ม, เพลง หรือจะสร้างเพลย์ลิสต์รายการเพลงที่เราชื่นชอบขึ้นมาเองก็ได้ โดยสามารถแสดงภาพปกอัลบั้มขณะเล่นเพลง เลือกรูปแบบการเล่นได้ทั้ง เล่นซ้ำ, เล่นแบบสุ่ม และเราสามารถเลือกปรับโทนเสียงผ่านอีควอไลเซอร์แบบ 5 แถว พร้อมโทนเสียงสำเร็จรูปให้เลือกปรับอีก 10 แบบ อีกทั้งยังมีเอฟเฟ็คท์ Bass Boost และ 3D ให้ใช้งานผ่านหูฟัง นอกจากนี้ยังมีวิทยุ FM มาให้ผู้ที่ชื่นชอบการฟังข่าวสารและอัพเดทเพลงฮิตจากคลื่นวิทยุได้ใช้งานกันเหมือนเช่นเคย
Connectivity
i-mobile i-note 2 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่รองรับการเชื่อมต่อได้อย่างครบครัน โดยสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 850/2100 MHz ของ i-mobile 3GX, dtac, true move-H และ TOT หรือจะเลือกเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ตามจุด Hot-Spot ต่างๆที่เปิดให้บริการก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีภาครับสัญญาณดาวเทียม A-GPS โดยงานใช้ร่วมกับโปรแกรม Google Maps ในตัวเครื่องได้ทันที
Final Opinion & Conclusion
i-mobile i-note 2 เป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ระดับเริ่มต้นที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างครบครัน ด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual-core ความเร็ว 1 GHz ควงคู่มากับระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 แถมยังรองรับการใช้งานโทรศัพท์ สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G และ Wi-Fi ครบครัน พร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีออโต้โฟกัส ติดมาให้ใช้งานกันในราคาเบาๆ เข้าขั้นแท็บเล็ตสุดคุ้มอีก 1 รุ่นในตลาดแท็บเล็ตตอนนี้
Strength
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (ICS)
– หน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 7 นิ้ว
– รองรับการใช้งานโทรศัพท์
– กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส
– เครื่องเล่น MP3/ วิทยุ FM
– รองรับ 3G/Wi-Fi พร้อมเป็นตัวกระจายสัญญาณเตอร์เน็ต
Weakness
– ซอฟแวร์กล้องมีอาการหน่วงพอสมควร (เครื่องทดสอบ)
– การบันทึกวิดีโอจำกัดเวลาไว้สูงสุดแค่ครั้งละ 30 นาที
– รองรับ 3G ไม่ครบทุกเครือข่าย
รูปตัวเครื่อง i-mobile i-note 2
รูปหน้าจอ i-mobile i-note 2
