กลับมาอีกครั้งกับการทดสอบสมาร์ทโฟนตัวท็อปของแต่ละค่าย ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเปิดตัวออกมาครบทุกค่ายแล้ว แต่ละรุ่นที่เรานำมาทดสอบก็ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจ และมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งหากท่านผู้อ่านกำลังวางแผนจะซื้อสมาร์ทโฟนตัวท็อปซักรุ่น หากได้อ่านการทดสอบครั้งนี้น่าจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่จะมีรุ่นไหนที่จะมาขึ้นสังเวียนครั้งนี้ เรามาดูกันเลย
HTC One M9 Plus
พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นาน กับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของค่าย HTC มาพร้อมดีไซน์เดิมๆ แต่ปรับให้ดูหรูกว่ารุ่นก่อนๆ และยังอัพเกรดซีพียูให้แรงกว่าเดิมอีกด้วย งานนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามอ่านให้ดี
Huawei P8
ท็อปสุดของ Huawei เราขอเลือกเป็น Huawei P8 ที่พึ่งเปิดตัวหมาดๆ กับวัสดุแบบโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียว ดีไซน์สุดหรู และยังมาพร้อมซีพียูที่ทาง Huawei ผลิตเองอีกด้วย จะแรงแซงโค้งหรือไม่ เดี๋ยวมาดูกัน
LG G4
ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 4 แล้วสำหรับเรือธงจาก LG คราวนี้มาใช้วัสดุหนังแท้ที่ฝาหลัง ให้ความรู้สึกกระชับ นุ่มมืออย่างบอกไม่ถูก ต้องลองสัมผัสเองถึงจะรู้ และได้ข่าวว่า LG เขยิบลงมาใช้ซีพียูรุ่นที่ต่ำกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีปัญหากับชิพเซ็ตที่วางสเป็คไว้ก่อนหน้านั้น การปรับตัวครั้งนี้จะสู้รุ่นอื่นได้หรือไม่ โปรดรอติดตาม
Samsung Galaxy S6 Edge
ไหนๆ ก็จะทดสอบตัวท็อปแล้ว เราขอหยิบ Samsung Galaxy S6 Edge มาเลยละกัน เพราะยังไงก็ใช้ซีพียูสเป็คเดียวกันกับ S6 รุ่นธรรมดาอยู่แล้ว โดยใช้ซีพียู Exynos ที่ทาง Samsung ผลิตเองใช้เอง แถมยังแรงพอตัวด้วย เรามาเริ่มต้นบททดสอบกันได้เลย
จากที่เคยทดสอบสมาร์ทโฟนครั้งก่อนๆ จะเห็นว่า Samsung จะมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ก็เพราะว่าส่วนใหญ่ทำมาจากพลาสติก ซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างเบา แต่คราวนี้ถึงแม้ว่าจะใช้วัสดุเป็นโลหะ และกระจก แต่ก็ยังคงทำน้ำหนักได้เบาที่สุดในกลุ่มคือ 132 กรัมเท่านั้น ส่วนรุ่นที่หนักที่สุดเป็น HTC One M9 Plus เพราะใช้โลหะขึ้นรูปชิ้นเดียวเป็นวัสดุ หนักถึง 168 กรัมเลยทีเดียว ส่วนรุ่นที่บางที่สุดเป็น Huawei P8 ที่บางเพียง 6.4 มม. เท่านั้น แต่สำหรับ LG G4 จะเห็นตัวเลขความบาง 6.3-9.8 นั่นก็หมายความว่า ส่วนที่บางที่สุดตรงขอบตัวเครื่องจะบางเพียง 6.3 มม. และส่วนโค้งหลังเครื่องหนาสุด 9.8 มม.
HTC One M9 Plus ดูจากด้านหลังแล้วอาจจะไม่เห็นความแตกต่างจากรุ่นก่อน หากพิจารณาดีๆ จะเห็นความแตกต่างตรงที่ด้านหลังเป็นวัสดุโลหะแบบขัดเงา เสริมความหรูหราด้วยขอบสีทอง ส่วนการใช้งานจะใช้นิ้วมือแตะสั่งงานเป็นหลัก รวมถึงปุ่มใต้จอแสดงผลที่ดูเหมือนเป็นปุ่ม Hard key แต่เป็นเพียงแค่ปุ่มสัมผัสเท่านั้น บางทีก็เผลอโดนออกไปหน้าโฮมเฉยเลย และปุ่มนี้ยังทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย
Huawei P8 สมาร์ทโฟนที่ใช้วัสดุเป็นโลหะชิ้นเดียวเหมือนกับ HTC One M9 Plus จึงไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดขยับให้ดังกรอบแกรบเหมือนกับรุ่นอื่นๆ แถมยังมีความบางสุดๆ ด้วย การสั่งงานก็อาศัยนิ้วมือแตะบนหน้าจอเป็นหลัก ไม่มีปุ่มใดๆ อยู่บนหน้าจอเลย
LG G4 สมาร์ทโฟนสุดคลาสสิคแห่งปีที่เลือกใช้ฝาหลังเป็นลายหนังแท้ แถมยังมีให้เลือกเปลี่ยนเป็นฝาหลังพลาสติกธรรมดาได้ด้วย และนี่เป็นเพียงรุ่นเดียวในกลุ่มที่สามารถถอดฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ตามต้องการ สำหรับการใช้งานก็ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนๆ ที่อาศัยปลายนิ้วแตะสั่งงาน และยังคงมีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ที่ด้านหลังเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม
สุดท้ายกับ Samsung Galaxy S6 Edge กับวัสดุที่ไม่เหลือวัสดุที่เป็นพลาสติกอยู่เลย ขอบด้านข้างเป็นโลหะ ด้านหน้าด้านหลังเป็นกระจกที่ดูดีกว่าเดิมมากมาย ตัวเครื่องแต่ละสีเมื่อส่องดูกับไฟก็จะเห็นเป็นสีเหลือบๆ สวยงามมาก สำหรับการควบคุมใช้งานก็อาศัยหน้าจอเป็นหลัก แต่ก็มีปุ่ม Home แบบ Hard key ที่ช่วยให้เข้าถึงหน้าจอหลักได้สะดวกขึ้น ไม่เสียพื้นที่หน้าจอแสดงผลให้เป็นปุ่มเสมือนเหมือนกับรุ่นอื่นๆ
สมาร์ทโฟนตัวท็อปของแต่ละค่ายต่างเริ่มใช้จอแสดงผลความละเอียดระดับ 2k (1440 x 2560) เป็นมาตรฐานแล้ว ต่างจาก Huawei ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก จึงยังคงใช้จอแสดงผลที่ความละเอียด Full HD ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าก็แทบจะดูไม่ออกว่าความละเอียดต่างกันขนาดไหน ส่วนสมาร์ทโฟนที่มีจอใหญ่สุดเป็น LG G4 ที่มีขนาด 5.5 นิ้ว และที่เล็กที่สุดเป็น Samsung Galaxy S6 Edge ที่มีขนาดต่างกันเล็กน้อยเพียง 0.1 นิ้วเท่านั้นเอง
จากการทดสอบเปิดหน้าจอให้มีความสว่างสูงสุด และเปิดหน้าจอเป็นสีขาว แล้วสังเกตด้วยตาเปล่า พบกว่าทั้ง 4 รุ่นมีความสว่างพอๆ กันแต่ต่างกันที่สีขาวของ Samsung Galaxy S6 Edge และ Huawei P8 จะออกอมเหลืองเล็กน้อย ส่วน HTC One M9 Plus และ LG G4 หน้าจอสีขาวจะออกอมฟ้าเล็กน้อย ส่วนสีสันของ Samsung Galaxy S6 Edge และ LG G4 จะค่อนข้างสดกว่าอีกสองรุ่นที่เหลือ อย่างไรก็ดีหากท่านต้องการซื้อ แนะนำไปลองดูตัวจริงที่หน้าร้านดีกว่าครับว่าชอบแบบไหน
ระบบปฏิบัติการ หน่วยประมวลผล และหน่วยความจำ
ก่อนจะทดสอบความแรง เรามาดูสเป็คของแต่ละรุ่นกันก่อนว่ารุ่นไหนใช้ซีพียูอะไร ซึ่งแต่ละรุ่นจะเห็นว่าใช้ซีพียูคนละตัวกันเลย ไม่มีรุ่นไหนใช้ซีพียูรุ่นเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันเลย ดูจากสเป็คแล้วเราไม่สามารถฟันธงได้เลยว่ารุ่นไหนจะแรงสุด นอกจากจะทำการทดสอบในหัวข้อถัดไป และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือหน่วยความจำประเภท RAM หากมีหน่วยความจำมากก็จะทำให้เครื่องทำงานไม่มีสะดุด และยังเปิดพร้อมกันได้หลายแอพฯ อีกด้วย และสำหรับ Samsung Galaxy S6 Edge เป็นเพียงรุ่นเดียวที่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ ก่อนตัดสินใจซื้อต้องถามตัวเองให้ดีว่าจะใช้ 32 GB พอหรือไม่ ไม่อย่างนั้นก็ข้ามไปรุ่น 64 GB ไปเลย
ทดสอบความแรงด้วย Geekbench 3
Geekbench 3 จะทำการทดสอบความเร็วหน่วยประมวลผลทั้งส่วนของ Integer และ Floating Point รวมถึงหน่วยความจำ โดยจะทดสอบด้วยหน่วยประมวลผลแกนเดียว หรือ Single-core และ Multi-core คะแนนจึงออกมาเป็น 2 ค่าอย่างที่ปรากฏในตาราง
ผลการทดสอบค่อนข้างเด่นชัดในเรื่องของความแรง ซึ่ง Samsung Galaxy S6 Edge เป็นรุ่นที่แรงที่สุดในกลุ่ม โดยมีคะแนนนำรุ่นอื่นๆ ในทุกการทดสอบ รองลงมาคะแนนของ LG G4 และ HTC One M9 Plus ค่อนข้างสูสีกัน แต่สำหรับ Huawei P8 ที่ใช้ซีพียูที่ผลิตเอง ผลออกมาได้น้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ในกลุ่ม ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ อีกทั้งราคาของตัวเครื่องยังถูกกว่ารุ่นอื่นๆ ในกลุ่มถึง 6 พันบาทไปจนถึงหนึ่งหมื่นบาท ต้องบอกว่าคุณสมบัติก็สมกับราคาแล้วล่ะครับ
หากดูลึกลงไปที่คะแนน จะเห็นว่า Geekbench score ในส่วนของ Single-core ของ Samsung Galaxy S6 Edge จะแรงกว่ารุ่นอื่นๆ พอสมควร แต่เมื่อทดสอบแบบ Multi-core คะแนนของ HTC One M9 Plus และ Samsung Galaxy S6 Edge กลับต่างกันเล็กน้อย นั่นก็เพราะ HTC One M9 Plus นั้นมีความเร็วเท่ากันถึง 8 แกนประมวลผล แต่ Samsung Galaxy S6 Edge ที่แบ่งออกเป็น 4 แกนประมวลผล 2 ชุด ความเร็วสูง 1 ชุด และความเร็วต่ำ 1 ชุด เมื่อทำงานร่วมกันแล้วจึงทำคะแนนได้พอๆ กับ HTC One M9 Plus นั่นเอง
ทดสอบความแรงด้วย AnTuTu Benchmark v5.7.1
Antutu Benchmark ก็เป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่ชาวแอนดรอยด์นิยมนำมาทดสอบความเร็วกัน หลักการทดสอบก็คล้ายๆ กับ Quadrant แต่จะมีการทดสอบที่ละเอียดกว่า คือมีการทดสอบความเร็ว UX Multitask/Runtime, RAM Operation/RAM Speed, CPU Integer, CPU Float-point, GPU 2D Graphic, GPU 3D Graphic, Storage I/O, Database IO ผลการทดสอบออกมาดังนี้
จากการทดสอบของ Antutu คะแนนก็ยังคงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเช่นกัน โดยคะแนนของกลุ่ม Asus Padfone S และ HTC Desire 820s นั้นต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น โดย HTC Desire 820s นั้นมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อย ส่วนอีกกลุ่มคือ Acer Iconia Talk S และ Samsung Galaxy E5 ก็มีคะแนนสูสีด้วยเช่นกัน มาถึงการทดสอบนี้ท่านผู้อ่านคงจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกรุ่นไหน
GPU benchmark 3D
สำหรับการทดสอบนี้จะทำการทดสอบเกี่ยวกับการประมวลผลภาพ 3 มิติโดยเฉพาะ ซึ่งเราจะได้ใช้กันหนักๆ ก็ต่อเมื่อเล่นเกมที่มีภาพกราฟฟิคความละเอียดสูง จะส่งผลให้ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ หากหน่วยประมวลผลกราฟฟิค หรือ GPU มีความเร็วสูง ภาพก็จะลื่นไหล ไม่กระตุก เล่นเกมสนุก ไม่เสียอารมณ์ โดยคะแนนจะแบ่งออกเป็น 2 ค่า คือ Score ทั่วไป และ Screen resolution normalized score ซึ่งเป็นคะแนนที่ทำการทดสอบกับความละเอียดของจอแสดงผลนั้นๆ ผลการทดสอบออกมาได้ตามตารางนี้
จากการทดสอบจะเห็นได้ชัดเจนว่า Samsung Galaxy S6 Edge ก็ยังมีคะแนนนำโด่งทิ้งห่างไปค่อนข้างมากถึงแสนกว่าคะแนน ตามมาห่างๆ ด้วย HTC One M9 Plus และ LG G4 ที่ทำคะแนนได้ไร่เรี่ยกัน สำหรับ Huawei P8 นั้นจะเห็นว่าคะแนน Score จะนำทั้งสองรุ่นอยู่เล็กน้อย นั่นก็เพราะ Huawei P8 ใช้จอแสดงผลที่มีความละเอียดน้อยกว่า จึงทำให้ได้คะแนนสูงกว่า ไม่ต้องประมวลผลภาพที่มีความละเอียดสูงมากนัก
บทส่งท้าย
และแล้วก็ได้บทสรุปให้กับการทดสอบความแรงของสมาร์ทโฟนตัวท็อปในแต่ละแบรนด์ อันดับหนึ่งต้องยกให้กับ Samsung Galaxy S6 Edge อย่างไม่ต้องสงสัย ได้คะแนนนำโด่งเป็นเอกฉันท์ในทุกการทดสอบ เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุดแน่นอน อันดับรองลงมาเป็น HTC One M9 Plus กับ LG G4 ที่ได้คะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ ถ้าเทียบดูตัวเลขแล้ว HTC One M9 Plus จะมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อยเท่านั้นเอง ส่วน Huawei P8 ที่ได้คะแนนน้อยที่สุดในกลุ่มคงจะต้องอธิบายอย่างเป็นธรรมว่าทั้ง CPU และ GPU ที่ใช้นั้นเหมาะสมกับราคาที่ 15,900 บาทแล้ว เพราะรุ่นอื่นๆ นั้นมีราคาสูงเกินสองหมื่นบาททั้งนั้น นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความแรงเหมาะสมกับราคาแล้ว
สำหรับ Samsung Galaxy S6 Edge นั้นมีราคาค่อนข้างสูง หากต้องการความแรงในระดับที่เท่ากันก็ขยับลงมาเล่น Samsung Galaxy S6 ธรรมดาก็ได้เช่นกัน เพราะต่างกันที่หน้าจอขอบโค้งด้านข้างเท่านั้นเอง ราคาลดลงมาหลายพันเลยทีเดียว สุดท้ายก็อยากจะฝากกับท่านผู้อ่านว่าไม่จำเป็นต้องซื้อสมาร์ทโฟนราคาแพงเสมอไป ควรเลือกรุ่นที่เหมาะกับตัวเอง และเงินในกระเป๋าท่านด้วย หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหาก็สามารถซื้อรุ่นแพงๆ มาใช้ได้เลย ยังไงก็ใช้สมาร์ทโฟนให้คุ้มกับเงินที่เสียไปด้วยนะครับ แล้วพบกับการทดสอบแบบนี้ได้ใน What Phone ฉบับหน้า สวัสดีครับ