Meizu M2 Note
Meizu สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งแบรนด์ดังจากจีน ที่ถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ในบ้านเรา ได้ส่ง Meizu M2 Note เข้ามาลุยตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทย ชูจุดเด่นในเรื่องของสเปคที่คุ้มค่าคุ้มราคา โดยรูปร่างหน้าตา จะเน้นไปที่ความโค้งมน เรียบง่าย มีงานประกอบที่แน่นหนา ด้วยตัวเครื่องแบบยูนิบอดี้ไร้รอยต่อ ฝาหลังใช้วัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนตหุ้มกรอบตัวเครื่องแมกนีเซียม อัลลอยด์ ในส่วนของหน้าจอนั้นมีขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ Full HD ซึ่งเป็นจอ IPS IGZO จาก Sharp ที่ให้สีสัน และคอนทราสท์สดใสสมจริง นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นแรกที่ใส่เทคโนโลยี mBack เข้ามาในปุ่ม Home ซึ่งทำให้มันแยกแยะระหว่างแรงกด และการสัมผัสเบาๆ ได้ โดยเมื่อเราออกแรงกดปุ่มลงไป จะเป็นการย้อนกลับมาหน้า Home แต่ถ้าหากเราแค่สัมผัสลงไปเบาๆ จะเป็นการสั่งงานของปุ่ม Back เพื่อย้อนกลับไปยังเมนูก่อนหน้า
ประสิทธิภาพการใช้งานของ Meizu M2 Note นั้นถือเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ ด้วยขุมพลังของหน่วยประมวลระดับ Octa-core ความเร็ว 1.3 GHz จากชิป Mediatek MT6753 พร้อม RAM 2 GB มีหน่วยความจำภายใน 16 GB ซึ่งสามารถเพิ่มความจำด้วย microSD ได้ เพียงแต่ผู้ใช้งานอย่างเราต้องเลือกเอาว่าจะเพิ่มหน่วยความจำ หรือใช้งานแบบ 2 ซิม เนื่องจากช่องใส่ซิมแบบไฮบริดของ Meizu M2 Note นั้นใช้สล็อตใส่ซิม และช่องใส่เมมร่วมกัน สำหรับระบบปฏิบัติการ FlyMe OS เวอร์ชั่น 4.5.2i ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Android 5.1 ก็มีหน้าตาที่เรียบง่ายสวยงาม สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล แต่ติดปัญหาเล็กน้อยตรงที่เครื่องทดสอบซึ่งรันระบบปฏิบัติการ FlyMe OS 4.5.2i นั้นไม่สามารถซิงค์รายชื่อจาก Google Contact ได้ จะต้องรอให้ทาง Meizu ปล่อยตัวอัพเดท OS เวอร์ชั่น 4.5.3 ออกมาแก้ปัญหานี้ หรือไม่ก็ไปโหลดแอพ Google Installer จาก AppCenter ในเครื่อง มาเพื่อจัดการซิงค์ Google Account ได้เช่นกัน
Physical Overview
Meizu M2 Note มีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว มีความละเอียด Full HD โดยหน้าจอจะเป็นจอ IPS IGZO เทคโนโลยีจาก Sharp ซึ่งให้สีสันสดใส คมชัด ขอบบนของหน้าจอมีลำโพงสนทนา, กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ปรับระดับแสงอัตโนมัติ และ เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง จัดวางอยู่
พื้นทีด้านล่างหน้าจอของ Meizu M2 Note นั้นมีปุ่ม Home แบบใหม่ที่เรียกว่า mBack button ตั้งตระหง่านอยู่เพียงปุ่มเดียว ซึ่งมันไม่ได้มีไว้แค่กดเพื่อย้อนกลับสู่หน้า Home เท่านั้น แต่มันยังทำหน้าที่เป็นปุ่ม Back ด้วยระบบสัมผัส เพียงแค่แตะลงไปที่ปุ่มเบาๆ เพื่อย้อนกลับไปสู่เมนูก่อนหน้าได้ทันที
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่ม Volume จัดวางอยู่ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการปรับระดับเสียง และใช้งานเป็นชัตเตอร์เมื่อเข้าสู่โหมดถ่ายภาพ ส่วนปุ่มสั้นๆ ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลคือปุ่ม Power/Sleep-Awake หน้าจอ
ย้ายมาดูที่ขอบด้านขวาของตัวเครื่องจะพบกับถาดใส่ซิมแบบไฮบริด ซึ่งรองรับ nanoSIM ทั้ง 2 สล็อต โดยที่สล็อตแรกนั้นสามารถรองรับได้ทั้ง nanoSIM และ microSD แต่เราจะต้องเลือกใช้งานเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
ที่ขอบบนของ Meizu M2 Note มีช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนจัดวางอยู่
ขอบด้านล่างของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของพอร์ต microUSB สำหรับเสียบสายชาร์จ และสายดาต้าเพื่อโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ขนาบด้วยช่องลำโพงที่ด้านขวา และช่องไมโครโฟนสนทนาที่ด้านซ้าย
พลิกมาที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับกล้องถ่ายภาพระบบออโต้โฟกัสความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED แบบ Dual-Tone และด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องแบบยูนิบอดี้ ทำให้เราไม่สามารถเปิดฝาหลังออกมาเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง
13 Mega Pixels Camera
Meizu M2 Note มีกล้องดิจิตอลระบบออโต้โฟกัสความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพจาก Samsung มีความกว้างของรูรับแสงอยู่ที่ f/2.2 จากการทดสอบคุณภาพของภาพถ่ายถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ ตัวกล้องสามารถจับโฟกัสได้รวดเร็วดี ผู้ใช้งานสามารถเลือกจุดวัดแสงแยกจากจุดโฟกัสได้อย่างอิสระ อีกทั้งซอฟแวร์ในการถ่ายภาพยังมีความน่าสนใจ ด้วยการใส่ฟังก์ชั่นการตั้งค่าแบบ Manual มาให้เราเลือกปรับสปีดชัตเตอร์, ISO, ค่าชดเชยแสง (EV) และระยะโฟกัสได้ตามต้องการ สามารถเอาไปประยุกต์ถ่ายภาพเส้นของแสงไฟในยามค่ำคืน (Light Trail) หรือถ่ายภาพโบเก้สวยๆ ได้อารมณ์คล้ายกับกล้องโปร ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ก็มีโหมดบิวตี้แบบจัดเต็มมาให้ปรับหน้าเนียน หน้าเรียว ตาโต หรือแม้กระทั่งเลือก เมคอัพฟิลเตอร์ ช่วยแต่งหน้าให้เราแบบอัตโนมัติ และสำหรับการบันทึกวิดีโอก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD พร้อมเลือกใส่ฟิลเตอร์สีแนวๆ ให้กับวิดีโอ ได้แบบเรียลไทม์ ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
Entertainment
การใช้งานด้านความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง Meizu M2 Note เครื่องนี้พร้อมตอบสนองให้กับคุณได้อย่างครบครัน ด้วยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถรองรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ได้แบบไม่กระตุก, รองรับการเล่นวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p ซึ่งสามารถย่อเป็นหน้าต่างขนาดเล็ก เพื่อดูวิดีโอแบบ Pop Up พร้อมกับใช้งานแอพอื่นๆ ไปด้วย และสำหรับเครื่องเล่นเพลงก็มาพร้อมการปรับแต่งเสียงผ่านอีควอไลเซอร์แบบอิสระ รวมไปถึงยังมีระบบเสียง Dirac HD Sound ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลเสียงของฮาร์ดแวร์ให้ได้คุณภาพเสียงใกล้เคียงระดับ Hi-Fi
Connectivity
Meizu M2 Note มาพร้อมการเชื่อมต่อที่ครบคันรองรับทั้ง 4G LTE, 3G ทุกเครือข่าย (สลับการเชื่อมต่อได้จากทั้ง 2 ซิม), มีพอร์ต microUSB 2.0 ที่รองรับการใช้งาน USB On-The-Go ผ่านสาย OTG หรือใช้ร่วมกับแฟลชไดรฟ์ 2 หัวที่เป็น USB Dual Drive สำหรับเปิดไฟล์มีเดีย ไฟล์เอกสารต่างๆ บนมือถือ รวมไปถึงโอนถ่ายไฟล์จาก Meizu M2 Note ไปยังอุปกรณ์อื่นได้อย่างสะดวก
Final Opinion & Conclusion
Meizu M2 Note สมาร์ทโฟนแบรนด์น้องใหม่จากประเทศจีน น่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่มองหาสมาร์ทโฟนสเปคครบเพื่อรองรับการใช้งานมัลติมีเดีย ในงบประมาณที่จำกัด ด้วยค่าตัวไม่ถึง 6 พันบาทกับประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่น้อยหน้ามือถือราคาหลักหมื่น อีกทั้งรูปร่างหน้าตาการออกแบบ และงานประกอบ ก็ต้องถือว่าทำออกมาได้ดี ซึ่งเราเชื่อว่าการวางจำหน่าย Meizu M2 Note แบบ Flash Sale ผ่านเว็บ Lazada เพื่อชิมลางด้วยจำนวนจำกัด นั้นน่าจำได้กระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ใช้งาน เป็นใบเบิกทางให้แบรนด์ Meizu ได้ไปต่อในตลาดมือถือของเมืองไทย
Strength
– หน้าจอ Sharp IGZO IPS ขนาด 5.5 นิ้ว, ความละเอียด Full HD
– ชิป Mediatek MT6753 Octa-core ความเร็ว 1.3 GHz/ RAM 2 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 ครอบทับด้วย FlyMe OS
– หน่วยความจำภายใน 16 GB/ เพิ่ม microSD ได้
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม
– รองรับ 4G / 3G / Wi-Fi
– กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์ Samsung), AF, แฟลช LED (Dual-Tone)
– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
– เครื่องเล่น MP3, ระบบเสียง Dirac HD Sound
– รองรับ USB OTG
– แบตเตอรี่ความจุ 3,100 mAh
Weakness
– คอนเท้นท์ใน Store ของ Meizu ยังคงเป็นภาษาจีน
– ในเครื่องทดสอบ ไม่สามารถซิงค์ Google Account ได้ (ต้องลงแอพแก้ไข)
– ต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 ซิม หรือเพิ่มหน่วยความจำ (ถาดซิมแบบไฮบริด)
รูปตัวเครื่อง Meizu M2 Note
รูปหน้าจอ Meizu M2 Note
ข้อมูลทั่วไป |
ราคา 5,990 บาท |
ขนาด, น้ำหนัก | 150.9 x 75.2 x 8.7 มิลลิเมตร, 149 กรัม |
เครือข่าย | GSM 850/900/1800/1900 MHz
WCDMA 850/900/2100 MHz 4G LTE 1800/2100/2600 MHz |
แบตเตอรี่ | Li-Ion 3,100 mAh |
ระยะเวลาสแตนด์บาย | ไม่ระบุ |
ระยะเวลาสนทนา | ไม่ระบุ |
ระบบการทำงาน | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 5.1 with Flyme OS 4.5.2i |
หน่วยประมวลผล | Mediatek MT6753 Octa-core 1.3 GHz, Mali-T720MP3 GPU |
หน่วยความจำภายใน | 16 GB, 2 GB RAM |
หน่วยความจำภายนอก | Micro SD Card สูงสุด 128 GB |
จำนวนซิมการ์ด, ประเภท | 2, nanoSIM (สล็อตซิม 1 ต้องเลือกสลับใช้งานกับ microSD) |
จอแสดงผล |
|
ความละเอียด, ขนาด | Full HD 1920 x 1080 พิกเซล, ขนาด 5.5 นิ้ว (403 ppi) |
ชนิดและจำนวนสี | IPS IGZO (SHARP) Capacitive Touchscreen 16 ล้านสี |
เสียง | |
การใช้คำสั่งเสียง | มี |
ลำโพงสเตอริโอ | ไม่มี |
แฮนด์ฟรี | มี |
บันทึกเสียง | มี |
มัลติมีเดีย | |
กล้องหลัง | 13 ล้านพิกเซล,ออโต้โฟกัส, แฟลช Dual LED (Dual-Tone) |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล, แฟลช LED |
กล้องวิดีโอ | มี (Full HD 1080p) |
วิทยุ FM | ไม่มี |
เครื่องเล่นเพลง MP3 | มี |
เครื่องเล่นวิดีโอ | มี |
การเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูล | |
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก | Bluetooth 4.0 (A2DP, LE), microUSB 2.0 (USB Host), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot |
3G | HSDPA 42.2 Mbps |
4G LTE | LTE Cat4, 150 Mbps DL |
อื่นๆ | – |