หลายครั้งที่ผมเคยเจอปัญหาจุกจิกที่ว่าถ่ายรูปสิ่งของหรือพื้นที่ แล้วส่งไปให้ผู้รับ ผู้รับอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ระยะหรือความยาวของสิ่งของหรือพื้นที่นั้นๆ มีขนาดเท่าไร, เอียงเท่าไร แบบนี้เป็นต้น ก็ต้องไปวัดกันใหม่แล้วก็บอกตามไปกันอีกรอบแต่ก็ไม่สะดวกเท่าไรครับ กว่าจะคุยกันรู้เรื่องด้านไหนมีระยะเท่าไร ถูกด้านผิดด้านกันก็มีบ้าง
จนได้มาเจอ My measures ครับ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการบอกขนาดหรือระยะของวัตถุหรือพื้นที่นั้นได้เป็นอย่างดี ผมดาวน์โหลดเวอร์ชั่น Pro มาได้ฟรีอีกด้วยเพราะเป็นโปรโมชั่นแนะโปรแกรมพอดี เยี่ยมมากเลยครับ
อ้อ คำที่ใช้ในคำโปรยใช้คำว่า sketch นั่นเองครับ
ส่วนเพิ่มเติมของเวอร์ชัน Pro ที่เพิ่มเข้ามาจากเวอร์ชันธรรมดา หลักๆ คือ ในส่วนของการแชร์และส่งออก (Export)
หน้าจอต้อนรับสวยถูกใจจริงๆ สื่อความหมายได้อย่างดี
เปิดใช้งานครั้งแรก มีเมนูแนะนำให้พร้อมเลือกใช้
ลองเลือกที่ Introduction to my measures จะเป็นคลิปแนะนำการใช้งาน
เลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายจะเป็นการใช้งาน Search สามารถค้นหาไฟล์ที่เราต้องการได้อย่างสะดวก
มาเลือกรูปกันครับ จะเลือกจากรูปเดิมหรือถ่ายใหม่ก็ได้ มีคำขออนุญาตการใช้กล้องก็เลือกที่ Ok
ลองถ่ายชั้นหนังสือนะครับ
เมื่อพอใจกับรูปถ่ายที่ได้เลือกที่ Use Photo จะมีแถบเมนูปรากฏขึ้นมาด้านล่าง
มีคำแนะนำปรากฏบอกว่า ซูมได้นะ ใช้สองนิ้วซูมเข้า/ออก
เลือก็เลือกที่ Oที่เมนูซ้ายสุด “Arrow” ใช้ในการลากลูกศรกำหนดระยะ
มีหน้าต่างขยายช่วยในการวางปลายลูกให้แม่นยำมากขึ้นด้วย
จากนั้นใส่ระยะลงไป อันนี้เราต้องวัดเองนิดนึงครับ วัดแล้วใส่แล้วดีกว่ามาวัดทีหลัง
ความสูง 47 cm เลือกหน่วยได้นะครับ
เมนูถัดมา Tools มีเมนูย่อยทั้งคำนวณพื้นที่, ปริมาตรและความยาวอีกด้านของสามเหลี่ยมโดยใช้ทฤษฎีบทปิทากอรัส
ขอวัดความลึกเพิ่มครับ จะได้คำนวณปริมาตรได้
มาลองวัดพื้นที่กันก่อนครับ Square = 0.423 ตร.ม.2 เป๊ะเวอร์
จากนั้นเลือกที่ Volume โปรแกรมจะคำนวณออกมาให้เราได้เลย แม่นด้วยครับ เพราะโดยมากแล้วกล่องใส่ของหรือวัตถุที่มีด้าน กว้าง, ยาว, ลึก จะบอกเป็นปริมาตรด้วยครับ โดยเฉพาะกล่องใส่ของต่างๆ จะระบุไว้เลยว่า ปริมาตรเท่าไร
จากนั้นลองเลือกใช้ c2 = a2+b2 หาความยาวด้านทแยงมุมหรือด้าน c กัน ก็ได้คำตอบออกมาเลย ในที่ผมเลือก a เป็นแนวตั้งและ b เป็นแนวนอนนะครับ
ลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คือ ใส่สีให้กับลูกศรได้ จะได้เห็นได้ชัดเจนขึ้น
มีตัวเลขให้พร้อมใช้ รวมไปถึงมีขอบกำหนดระยะหลายแบบให้เลือก
ลักษณะหัวลูกศรและการวางตัวหนังสือก็มีให้เลือกหลายแบบ
ระบบที่ใช้ในการวัดมีให้เลือกหลากหลายเลยครับ นอกเหนือจากระบบ Metric ก็มี Imperial
Chinese หรือหน่วยวัดแบบจีน
ญี่ปุ่นก็มีมาให้ครับ ครบเลย
นอกจากวัดระยะแล้วก็มีวัดมุมด้วยครับ วางแขนวัดมุมลงไป แล้วค่อยๆ ลากแขนวัดให้ตรงกับแนวที่ต้องก็จะได้มุมที่เราต้องการวัดออกมา
ในส่วนของเมนู View ใช้ในการปรับมุมมองให้ละเอียดหรือหยาบมากขึ้นด้วยการซูมเข้า/ออกและใช้ในการหมุนรูปเพื่อให้มุมมองที่เราต้องการ
ลองหมุนรูปดูนะครับ
สำหรับเวอร์ชั่นโปร สามารถส่งรูปออกไปได้อย่างง่ายเลยครับ
ประทับใจเลยครับ สำหรับท่านที่ใช้งานแบบนี้บ่อยๆ ถ่ายรูปแล้ววัด จากนั้นให้โปรแกรมค่าต่างๆ ที่ต้องการออกมาแล้วส่งต่อได้เลย ไม่ต้องไปคำนวณซ้ำ และไม่ต้องมาเข้าใจผิดกันทีหลังว่า ด้านไหนระยะเท่าไร, ขนาดมุมเท่าไร, หน้ากว้างเท่าไรและปริมาตรที่ต้องการพอไหม ลองใช้เวอร์ชันปกติกันดู ถ้าถูกใจซื้อแบบโปรก็คุ้มค่า หรือลองเข้าไปเช็คเป็นระยะว่าเวอร์ชั่นโปรเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีได้เมื่อไร คุ้มสุดๆ กันเลยครับ
