สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาววอทโฟนทุกคน หลังจากที่ได้รีวิวเจ้า Galaxy A7(2016) กันไปแล้วนะคะ วันนี้ก็ถึงคิวของเจ้า Galaxy A5 (2016) มารีวิวกันบ้างแล้วค่ะ
หลังจากที่ซัมซุงได้ส่งเจ้ากาแล๊คซี่ซีรี่ย์ A ออกมาสามรุ่นครั้งแรกเมื่อปี 2015 ซึ่งก็ได้สร้างยอดขายมากมายมหาศาลให้กับซัมซุงอย่างไม่คาดคิด ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูหรูหราพร้อมกับราคาสุดประทับใจ ทำให้บรรดาสาวกซัมซุงกาแลคซี่หลายคนอดใจไม่ไหวไปหามาไว้ในครอบครองกัน และปีนี้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 ซัมซุงก็ได้เปิดตัวซีรี่ย์ A ตัวใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Galaxy A5(2016) ออกมาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้วด้วยราคา 13,900 บาท และ 15,900 บาท หน้าตาจะสวยอย่างที่ร่ำลือกันแค่ไหนไปชมกันเลยค่ะ
อย่างที่ทราบกันดีว่าเจ้าซีรี่ย์ A(2015) จะมีดีไซน์ที่ค่อนข้างไม่มนสักเท่าไหร่และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาพร้อมกับวัสดุหลักใช้เป็นโลหะทั้งหมดทำเป็นตัวเครื่อง ซึ่งเจ้าซีรี่ย์ A(2016) นี้เรียกได้ว่ามีหน้าตาที่แตกต่างจากเดิมออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของตัวเครื่องที่เป็นโลหะประกบด้วยกระจก Gorilla Glass 4 ทั้งหน้าและหลังแล้ว หน้าจอยังคงเป็นหน้าจอ Super AMOLED เหมือนเดิมแต่เพิ่มขนาดขึ้นเป็น 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p ซึ่งถ้าเพื่อนๆลองสังเกตุใกล้ๆ จะเห็นการดีไซน์โค้งมนตรงขอบที่ทำให้ จับถนัดมือมากขึ้น สวยมากขึ้น เรียบหรูมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ในส่วนถัดมาก็จะเป็นเรื่องของฟีเจอร์ใหม่ที่นำมาจากสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล๊กชิปเอามาใส่ไว้ใน Galaxy A(2016) ซึ่งตัวนี้จะมาพร้อมกับปุ่มโฮมแบบใหม่ที่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับการใช้งานปลดล็อคหน้าจอและด้านความปลอดภัยอื่นๆ เรียกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆค่ะ
ในส่วนถัดมาที่ดูแปลกหูแปลกตาไปจากรุ่นเก่าก็จะเป็นลำโพงสปีกเกอร์ของเจ้ากาแลคซี่ A5(2015) ที่เคยมีอยู่ด้านข้างของกล้องหลัง ก็ได้ถูกย้ายลงไปอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง และยังคงไม่สามารถถอดฝาหลังออกได้เช่นเดิม
และในส่วนของการรองรับการใช้งานซิมก็ได้เพิ่มการรองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบนาโนซิม และรองรับ microSD Card ได้สูงสุด 128GB โดยมีการปรับให้ดีขึ้น ก็คือไม่ต้องเลือกการใช้งานระหว่างเมมโมรี่การ์ดกับซิมที่ 2 แล้ว สามารถใส่ซิม 1, ซิม 2 และ microSD Card พร้อมกันได้เลยค่ะ
มาดูกันต่อในเรื่องของกล้องกันค่ะ กล้องหลังถึงแม้จะยังคงใช้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่ด้วยการปรับให้มีรูรับแสงที่กว้างขึ้นเป็น f/1.9 ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัดและสว่างมากขึ้น ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ด้วยขนาดของรูรับแสง f/1.9 ทำให้การถ่ายภาพระยะใกล้ หรือหน้าเบลอหลังชัดก็สามารถทำได้สวยงามขึ้น พร้อมกันนี้ก็ยังมีระบบกันสั่น OIS ให้อีกด้วย
ภาพตัวอย่างจากกล้อง Galaxy A5(2016)
สำหรับหน้าตาเมนูของกล้องก็เป็นแบบใหม่ เมื่อแตะโพสกัสลงไปที่หน้าจอ จะสามารถปรับระดับแสงด้วยการเลื่อนไอค่อนหลอดไฟขึ้น-ลงได้ทันที (อยู่ใกล้ปุ่มชัตเตอร์) ส่วนลูกเล่นต่างๆก็มีโหมดโปรมาให้ใช้งาน แต่น่าเสียดายที่ปรับอะไรได้ไม่เยอะ โหมด HDR ก็มีมาให้ แต่ไม่ใช้ Auto-HDR ซึ่งจะต้องเลือกโหมดใช้งานเอง และรุ่นนี้สามารถใช้งานควิกลันช์โดยกดปุ่มโฮมลง 2 ครั้ง ก็จะเข้าสู่โหมดกล้องทันทีแม้ตัวเครื่องจะล็อค ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็มีอยู่บนสมาร์ทโฟนระดับแฟล็กชิปเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน การบันทึกวิดีโอก็สามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p อีกด้วยค่ะ
นอกจากกล้องหลังที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นแล้ว กล้องหน้าที่มาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเช่นเดิมที่เพิ่มรูรับแสงกว้างขึ้นเป็น f/1.9 เท่ากับกล้องหลัง และมาพร้อมโหมดเซลฟี่ครบสูตรเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น บิวตี้ที่ปรับหน้าเนียน, หน้าเรียว และตาโตได้ พร้อมกับโหมดสั่งงานด้วยเสียง และ ปาล์มเซลฟี่ แค่ยกมือก็ถ่ายรูปแล้วก็ยังมีมาให้เช่นเดิมอีกด้วยค่ะ
นอกจากรูปร่างหน้าตาและวัสดุที่เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว สเปคภายในก็มีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นไปด้วย โดยเจ้ากาแลคซี่ A5(2016) นี้จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop และใช้ชิปประมวลผลเป็นอ๊อคต้า คอร์ 1.6GHz เพิ่มแรมเป็น 2GB มีหน่วยความจำ 16GB เท่าเดิม แต่รองรับไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มเป็น 128GB สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่าดีกว่าเดิมมากจนรู้สึกได้ค่ะ
สำหรับรุ่นนี้ยังมีการเพิ่มแบตเตอรี่เป็น 2,900 mAh และรองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ส่วนการเชื่อมต่ออื่นๆ ก็ยังคงรองรับ Wi-Fi, บลูทูท, NFC และรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน 3G, 4G LTE พร้อมเซ็นเซอร์หลักต่างๆค่ะ
สรุป
- ดีไซน์ที่เป็นโลหะและกระจก Corning Gorilla Glass 4 สวยและทนทานขึ้น
- หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและละเอียดขึ้นจาก HD มาเป็น Full HD
- CPU จาก Quad-core 1.2 GHz แรงขึ้นเป็น Octa-core 1.6 GHz
- รูรับแสงของกล้องที่เล็กลงจากกล้องหลัง f/2.0 กล้องหน้า f/2.2 มาเป็น f/1.9 ทั้งหน้าและหลัง
- มี Quick Launch ที่ช่วยให้เข้าโหมดกล้องได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 วินาที
- แบตเตอรี่มีความจุเพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่มระบบ Fast Charge
- เพิ่มเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งราคาก็น่ารักน่าคบหา ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาปานกลางแต่คุณภาพพรีเมี่ยมแอดมินแนะนำให้รอดูโปรโมชั่นส่วนลด, และของแถมที่แว่วๆมาว่าจะแถมเมมโมรี่การ์ด EVO+ 32GB MicroSDHC Class 10 อีกด้วยละค่ะ ไปเลือกซื้อเลือกหาจับจองเป็นเจ้าของกันได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2016 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นะคะ