ยิ่งใกล้ถึงสิ้นปีก็นับว่าเป็นโอกาสดีที่เราควรจะมองย้อนกลับไปว่าในปีที่ผ่านมานั้นเราได้ผ่านอะไรกันมาบ้าง และในการต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา ในปี 2016 เราจะเริ่มต้นทำอะไรที่แปลกใหม่หรือพัฒนาอะไรกันได้บ้าง
เมื่อช่วงสิ้นปีเดินทางเข้ามาใกล้ นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะทบทวนสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และคาดหวังถึงสิ่งที่เรากำลังจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ในปีถัดไป เพราะเมื่อเราวิเคราะห์และพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทที่อยู่ในวงการสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ ก็คงจะหนีไม่พ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง หลังจากที่ติดตามดูซัมซุงอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลาหลายปี เราจึงลองประมวลผลและคาดการณ์ถึงสิ่งที่ซัมซุงควรจะทำในปีใหม่นี้ขึ้นมา เพราะสิ่งที่ซัมซุงทำออกมาได้ดีก็มีเยอะแยะมากมาย แต่ไม่วายก็ยังต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอเฉกเช่นแบรนด์อื่นๆ ถึงแม้ความคาดหวังนี้มันจะไม่เกิดขึ้นทั้งหมดในทันทีก็ตาม แต่เราก็สามารถที่จะฝันว่ามันอาจจะเป็นไปได้ใช่มั้ย? และนี่คือสิ่งที่เราคาดว่าซัมซุงควรจะทำมันให้ได้ในปี 2016
- FOCUS ON SOFTWARE
ปี 2015 เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการออกแบบของซัมซุงและวัสดุ ของทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต Galaxy S6 และ Note 5 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่หัวจรดเท้า และนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่จุดอ่อนของซัมซุงในทุกๆ ปีที่ผลิตรุ่นใหม่ๆ ออกมามักจะเป็นเรื่องของซอฟแวร์เสมอ ทำให้ Galaxy S6 มีการปรับปรุง TouchWiz ใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และลบฟีเจอร์ออกจำนวนมาก นี่อาจจะเป็นนัยยะสำคัญที่บอกว่าซัมซุงต้องการที่จะไปต่อ และก้าวหน้าให้เร็วขึ้นอีก ก็เป็นได้
2. MOVE YOUR SERVICES OUT INTO GOOGLE PLAY
สิ่งถัดมาที่เราคาดการณ์กันว่าซัมซุงน่าจะทำนั่นก็คือ ยกเลิกบริการ Pre-install apps เอาจริงๆ เรื่องนี้แทบจะไม่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงเท่าไหร่นัก แต่จะต้องมีการชี้ให้เห็นในแง่มุมที่น่ารำคาญมากที่สุดอีกมุมหนึ่งให้ได้เห็นกันก็คือในเรื่องของประสบการณ์การใช้งานซอฟแวร์ที่ผู้ผลิตกำหนดขึ้นมาเอง คือในเรื่องของแอพพลิเคชั่นที่มีออกมาซ้ำกัน และการบริการ Pre-install apps มาให้เลยในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ทำเพื่อแข่งขันกับกูเกิ้ลโดยตรง นี่ถือเป็นความผิดพลาดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เช่นเดียวกับความผิดพลาดเมื่อครั้งที่ปล่อย TouchWiz ออกมา ซึ่งเรื่องนี้ซัมซุงควรจะต้องทำการแก้ไขเพราะปัญหาของการ Pre-install apps นั้นทำให้มีแอพฯ ที่มาพร้อมตัวเครื่องซ้ำกันกับกูเกิ้ล คือผู้ที่เริ่มต้นใช้งานใหม่จะสับสนในการใช้งานกับแอพฯ เหล่านี้ อาทิเช่น บนเครื่อง มีเมล์ 2 เมล์ มีปฏิทิน 2 ปฏิทิน และนี่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้มือใหม่เพียงเท่านั้น หากซัมซุงแค่ยอมยุติการทำ Pre-install apps ของตนออกไปจากระบบ และปล่อยให้ผู้ใช้ติดตั้งแอพฯ ผ่านทางเพลย์สโตร์ ผู้ใช้ก็จะมีทางเลือกเกิดขึ้น เพราะบางแอพฯที่มากับตัวเครื่องก็ใช่ว่าผู้ใช้งานจะชอบทั้งหมด 100%
3. OFFER CLARITY ON THE UPDATE PROCESS
สำหรับซัมซุงขั้นตอนของการรักษาอุปกรณ์ให้อัพเดทอยู่เสมออาจจะดูยุ่งยากไปสักหน่อย แต่สิ่งที่อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าการปรับปรุงที่ออกล่าช้าแล้วก็คือ การขาดการสื่อสารเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อมูลของการปรับปรุงว่าจะเกิดอะไรจะเป็นยังไง และสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบการปรับปรุงสำหรับอุปกรณ์ซัมซุงยังคงเป็นเหมือนกล่องดำบนเครื่องบินที่ไม่มีข้อมูลใดๆ ออกมาให้ได้เห็นกันเลย ง่ายๆ คือซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก ถ้าเพียงแค่มีการบอกกล่าวถึงการอัพเดทว่าจะออกเมื่อไหร่ และรุ่นไหนจะได้ไปต่อรุ่นไหนไม่ได้ไป แค่นี้ก็น่าจะทำให้ผู้ใช้งานหมดปัญหาที่จะต้องมาคอยลุ้นว่าจะอัพเดทหรือถูกทอดทิ้งไว้กลางทาง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้เพียงแค่ซัมซุงเองบอกให้บรรดาผู้ใช้งานทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการปรับปรุงสำหรับอุปกรณ์ของพวกเขาอย่างชัดเจน
4. KEEP STRONG ON THE CAMERA FRONT
แน่นอนว่าจุดแข็งของซัมซุงอีกข้อหนึ่งที่เห็นได้ชัดนั่นก็คือเรื่องกล้อง ซึ่งหลังจากที่เกิดข้อผิดพลาดจากรุ่น S5 ก็ทำให้ซัมซุงปฏิวัติเรื่องกล้องกันใหม่ให้ดีขึ้นในรุ่นถัดมาคือ Note 4 และก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนพิสูจน์ให้เห็นว่าซัมซุงเองก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่สามารถผลิตสมาร์ทโฟนที่มีกล้องภาพที่มีคุณภาพ จะเห็นได้จากรุ่น Galaxy S6 แต่รุ่นที่ทำให้เราเห็นว่ากล้องนั้นไม่เป็นรองใครก็น่าจะเป็นรุ่น Galaxy Note 5 ที่นำเสนอความโดดเด่นในเรื่องของกล้องที่มีคุณภาพเกินราคา ด้วยจุดนี้เองทำให้ซัมซุงหันไปเอาดีในเรื่องของกล้องอย่างจริงจังเพราะกระแสการตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งเราเองคาดว่าซัมซุงน่าจะเอาจุดแข็งในเรื่องนี้ไปพัฒนาต่อในปี 2016 อย่างแน่นอน
5 Available Samsung Pay Service
จากข่าวล่าสุดที่แอปเปิ้ลได้ประกาศว่ามีการเจรจากับ ยูเนี่ยนเพย์, องค์กรสินเชื่อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เพื่อที่จะนำ Apple Pay เข้ามาใช้ในจีนในปี 2016 นั้น ล่าสุด Samsung ก็ได้ประกาศถึงการขอเปิดบริการ Samsung Pay เข้าในจีนโดยผ่านยูเนี่ยนเพย์เช่นกัน โดยหากผ่านการรับรองตามกฎข้อบังคับต่างๆ แล้วก็จะสามารถเปิดตัวได้ในราวต้นปี 2016 ณ ขณะนี้ซัมซุงและแอปเปิ้ล ต่างพยายามเป็นอย่างมากที่จะนำระบบการรูดบัตรเครดิตผ่านสมาร์ทโฟนนี้ ให้ทันพร้อมใช้ในจีนก่อนวันตรุษจีนซึ่งเป็นเทศกาลปีใหม่ของจีนที่กำลังจะมาถึง เพราะช่วงนี้จะเกิดกระแสการหมุนเวียนและการจับจ่ายใช้สอยอย่างมหาศาลในเวลานั้น แต่หากไม่ทันตามเวลาที่กำหนด บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองก็จะยังได้เปรียบอยู่ดีในการนำระบบนี้มาใช้ในจีนให้เร็วที่สุดในอนาคต เพราะดูจากการจับจ่ายใช้สอยอย่างบ้าคลั่งของชาวจีนในช่วงเทศกาลแล้วเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
6 First Voice over LTE
ซัมซุง Voice over LTE (VoLTE) คือ การแก้ปัญหาคือครั้งแรกของโลกที่ดีที่สุด VoLTE เป็นการให้บริการเสียง และดาต้าพร้อมกันบน LTE ในรูปแบบครบวงจร ซึ่งในปีหน้าซัมซุงเองจะเป็นผู้ประกอบการที่มีแบบ end-to-end IP การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์มือถือและเครือข่ายหลักของพวกเขาผ่าน VoLTE และใช้บริการแพ็คเก็ตที่ใช้ IP ทั้งหมดสำหรับเสียง, ดาต้าและบริการมัลติมีเดียอื่นๆ VoLTE ใช้ตัวแปลงสัญญาณไวด์แบนด์ (Wideband) เพื่อให้คุณภาพการโทรที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 3จี ด้วยสิ่งนี้ซัมซุงอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดแอลทีอีที่มีประสบการณ์ในการสื่อสารโทรคมนาคมมานานนับ 20 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้ใช้ซัมซุงทั่วโลกได้อย่างแน่นอน
สำหรับการณ์คาดการณ์ทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมานั้นอาจจะเกิดขึ้นทั้งหมดหรือเกิดขึ้นเพียงข้อเดียวก็นับเป็นเรื่องดีเพราะถ้าหากสิ่งเหล่านี้เกิดจริงก็แปลว่าซัมซุงได้มีการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่เราคาดหวังว่าจะให้มันมีขึ้นในอนาคตถึงจะไม่รวดเร็วอย่างที่กล่าวแต่เราก็ยังคงหวังว่าซัมซุงจะพยายามพัฒนากันต่อไปจนถึงที่สุด