Asus Fonepad
แท็บเล็ตรุ่นใหม่จาก Asus อย่าง Asus Fonepad มาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาที่เรียบง่าย เอาใจผู้ใช้งานทั่วไปด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ซึ่งพกพาจับถือใช้งานได้สะดวก มีน้ำหนักเพียง 340 กรัม ให้ความคมชัดทุกมุมมองด้วยหน้าจอแบบ IPS ที่ Asus เคลมว่าให้มุมมองที่กว้างถึง 178 องศา รองรับการสัมผัสสั่งงานแบบมัลติทัช 10 จุด พร้อมโหมด Asus Splendid ที่สามารถเลือกปรับการแสดงผลของสีสันบนหน้าจอได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ Asus Fonepad ยังเลือกใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุหลักของตัวเครื่อง ซึ่งให้ความทนทานควบคู่ไปกับความหรูหราสวยงาม และชื่อ Fonepad ก็เหมือนจะเป็นการประกาศให้ผู้ใช้งานได้ทราบถึงคุณสมบัติในการใช้งานเป็นโทรศัพท์สามารถโทรออก, รับสาย ด้วยการแนบหูพุดคุยเหมือนโทรศัพท์ทั่วๆ ไป ซึ่งสมัยก่อนอาจจะรู้สึกเขินที่ต้องเอาแท็บเล็ตมาแนบหน้า แต่ในปัจจุบันการพูดคุยโทรศัพท์ผ่านแท็บเล็ตนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่มีให้เห็นกันโดยทั่วไป
ในเรื่องของหน่วยประมวลผล Asus Fonepad นั้นน่าจะเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ใช้หน่วยประมวลผลจาก intel กับชิป Intel Atom Z2420 (Lexington) นั้นมี CPU แบบ Single-core ความเร็ว 1.2 GHz ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการใช้งานเทียบเท่ากับ CPU Dual-core ของ ARM ที่มีในสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตส่วนใหญ่ ด้วยเทคโนโลยี Hyper-Threading ที่ทำให้ระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่นมองเห็น CPU เป็น 2 ตัว ทำให้สามารถรองรับการทำงานจาก ชุดคำสั่งได้ 2 ชุดพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี RAM 1 GB และหน่วยความจำภายใน 8 GB ซึ่งสามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32 GB ทางด้านระบบปฏิบัติการ Asus Fonepad นั้นมาพร้อมกับ Android 4.1.2 (Jelly Bean)
Physical Overview
Asus Fonepad มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีความละเอียด 800 x 1280 พิกเซล แสดงผลได้ 16 ล้านสี หน้าจอเป็นแบบ IPS ที่แสดงสีสันได้คมชัดสดใสจากทุกมุมมอง พร้อมกล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล และลำโพงสนทนา
ถัดลงมาที่ด้านล่างของหน้าจอมีเพียงโลโก้ Asus เนื่องจากแผงเมนูแบบสัมผัสนั้นถูกย้ายไปแสดงผลบนหน้าจอหลักหมดแล้ว
โดยทั่วไปปุ่ม Power จะถูกจัดวางอยู่ที่ด้านบน ไม่ก็ด้านขวาของตัวเครื่อง แต่ใน Asus Fonepad จะจัดวางไว้ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ถัดลงไปคือปุ่ม Volume สำหรับปรับระดับเสียง
ย้ายมาดูกันที่ด้านบนของ Asus Fonepad จะพบกับช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 จัดวางอยู่เพียงอย่างเดียว
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ท micro USB สำหรับเสียบสายชาร์จ และสายดาต้าเพื่อโอนถ่ายข้อมูล ใกล้กันคือช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา
พลิกมาที่ด้านหลังจะพบกับกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส โดย Asus Fonepad นั้นมีความทนทานด้วยฝาหลังอลูมิเนียม
ขอบบนของฝาหลังเป็นพลาสติกซึ่งสามารถดันออกมาเพื่อใส่ micro SIM และการ์ดหน่วยความจำ microSD
3 Mega Pixels Digital Camera
Asus Fonepad นั้นเป็นแท็บเล็ตที่ติดกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล มาให้ใช้งานกัน โดยเลนส์กล้องจัดวางอยู่ข้างหลังตามปกติ ไม่ได้มีแค่กล้องหน้าเหมือนกับ Nexus 7 แต่อย่างใด โดยกล้องหลักของ Asus Fonepad นั้นมาพร้อมระบบออโต้โฟกัส แต่น่าเสียดายที่ไม่มีไฟแฟลชติดมาให้ สำหรับการถ่ายภาพเราสามารถสัมผัสหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัสได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ในส่วนของการตั้งค่าพื้นฐานต่างๆ ก็ยังคงมีมาให้ใช้งานกันอย่างครบครัน ทั้งการปรับไวท์บาลานซ์, เลือกเอฟเฟ็คท์สี, ปรับความสว่าง, เลือกซีน, ตั้งเวลาถ่ายภาพ และบันทึกพิกัดดาวเทียมลงไปในข้อมูลของภาพถ่าย สำหรับการบันทึกวิดีโอ Asus Fonepad สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงระดับ HD 720p และมีกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล ให้ได้ใช้งานถ่ายภาพตัวเอง และใช้งานวิดีโอคอลล์ได้คมชัดพอสมควร
Music Player
ซอฟแวร์เครื่องเล่นเพลงของ Asus Fonepad เป็นแบบมาตรฐานที่ติดมากับ Stock ROM ของ Android ไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม แต่ทาง Google เพิ่งปล่อยอัพเดทไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาที่ผ่านมา มีการเปลี่ยน Interface โดยเน้นธีมสีส้มเป็นหลัก แต่ยังคงมีรูปแบบการจัดการเพลงเป็นหมวดหมู่ทั้งแบบเรียงตามประเภทของเพลง, รายชื่อศิลปิน, อัลบั้ม และรายชื่อเพลง หรือจะสร้างเพลย์ลิสต์รายการเพลงที่เราชื่นชอบขึ้นมาเองก็ได้ โดยสามารถแสดงภาพปกอัลบั้มขณะเล่นเพลง เลือกรูปแบบการเล่นได้ทั้ง เล่นซ้ำ, เล่นแบบสุ่ม และเราสามารถเลือกปรับโทนเสียงผ่านอีควอไลเซอร์แบบ 5 แถว พร้อมโทนเสียงสำเร็จรูปให้เลือกปรับอีก 10 แบบ อีกทั้งยังมีเอฟเฟ็คท์เพิ่มเสียงเบส และเสียง 3 มิติ ที่จะแสดงผลเมื่อใช้งานผ่านหูฟัง สำหรับใครที่ต้องการรับฟังวิทยุ FM คงต้องใช้งานผ่านโปรแกรมฟังวิทยุออนไลน์แทน เพราะ Asus Fonepad นั้นไม่มีฟังก์ชั่นวิทยุ FM ติดมาให้แต่อย่างใด
Connectivity
Asus Fonepad เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนเครือข่าย 3G แบบ Quad band ใช้งานได้ทุกคลื่นทุกเครือข่าย หรือจะเลือกเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ตามจุด Hot-Spot ต่างๆที่เปิดให้บริการก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีภาครับสัญญาณดาวเทียม A-GPS โดยงานใช้ร่วมกับโปรแกรม Google Maps ในตัวเครื่องได้ทันที
Final Opinion & Conclusion
Asus Fonepad น่าจะเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่ใช้ CPU จาก Intel ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่มันเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Single-core แต่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานพอๆ กับ CPU Dual-core ในแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ ดูหรูหราทนทานด้วยตัวเครื่องอลูมิเนียม อีกทั้งยังรองรับการใช้งานโทรศัพท์ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ที่ครบครัน ในราคา 8 พันมีทอน ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตฟังก์ชั่นครบ ก็ไม่ควรมองข้าม Asus Fonepad ไปนะครับ
Strength
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 (Jelly Bean)
– หน้าจอสัมผัสแบบ IPS ขนาด 7 นิ้ว, ตัวเครื่องอลูมิเนียม
– รองรับการใช้งานโทรศัพท์
– CPU Intel Atom Z2420 (Lexington) ความเร็ว 1.2 GHz/ RAM 1 GB
– กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส, ถ่ายวิดีโอ HD 720p
– กล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
– เครื่องเล่น MP3
– รองรับ 3G ทุกเครือข่าย/ รองรับ Wi-Fi
– แบตเตอรี่ความจุ 4,270 mAh
Weakness
– ไม่มีไฟแฟลช
– ไม่รองรับการใช้งานวิทยุ FM
รูปตัวเครื่อง Asus Fonepad
รูปหน้าจอ Asus Fonepad