LG G5 SE
เชื่อว่าแฟนๆ LG หลายคนคงถอดใจ เลิกหวังที่จะเป็นเจ้าของมือถือรุ่นใหม่จาก LG หลังจากที่ทางค่ายได้ประกาศพักการทำตลาดมือถือในไทยเป็นการชั่วคราว แต่แล้วทางตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่อย่าง TG ก็ได้มีเซอร์ไพรส์ นำ LG G5 SE แฝดน้องของ LG G5 เรือธงประจำปีนี้ เข้ามาวางจำหน่ายในไทย โดย LG G5 รวมถึง LG G5 SE นั้นได้มีการปรับดีไซน์ และ เปลี่ยนมาใช้โลหะเป็นวัสดุหลักของตัวเครื่อง การออกแบบเน้นไปที่ความโค้งมนเพื่อการจับถือที่กระชับมือ และในส่วนของหน้าจอก็ได้ลดขนาดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ LG G4 (ลดขนาดจาก 5.5 นิ้ว ลดเหลือ 5.3 นิ้ว) ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความกะทัดรัดมากยิ่งขึ้น
สำหรับสิ่งที่แฝดน้องอย่าง LG G5 SE แตกต่างจากพี่ใหญ่ G5 ก็คือเรื่องของขุมพลังภายในซึ่งไม่ได้จัดเต็มด้วยชิประดับท็อปเหมือนรุ่นพี่ แต่ปรับมาใช้ชิปเซ็ทรุ่นกลางๆ อย่าง Snapdragon 652 ตัวใหม่ ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Octa-core และจัด RAM 3 GB มาให้ ซึ่งจากการทดสอบก็ยังถือว่ามีประสิทธิภาพที่น่าพอใจ สามารถตอบโจทย์ด้านความบันเทิง และการทำงานได้ดี แต่แน่นอนว่าเราไม่สามารถหวังให้มันมีประสิทธิภาพดีเทียบเท่ากับ LG G5 รุ่นใหญ่ได้เช่นกัน
ระบบปฏิบัติการของ LG G5 เป็น Android 6.0 (Marshmallow) ครอบทับด้วย LG UX 5.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่มีการปรับเปลี่ยนหน้าตา และรูปแบบการใช้งานไปพอสมควร ทั้งในส่วนของหน้า App Drawer หรือหน้าเมนูแสดงรายการแอพฯ ซึ่งได้ถูกถอดออกไป โดยไอคอนของแอพฯ ต่างๆ จะแสดงอยู่บนหน้า Home สำหรับใครที่ขี้เกียจปัดหน้าจอเพื่อหาแอพฯ เราแนะนำให้ลากมาจัดกลุ่มรวมเอาไปเป็นโฟลเดอร์จะสะดวกกว่า ส่วนฟีเจอร์เด่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ก็คือ Always-on Display ที่ในขณะปิดหน้าจอก็ยังคงแสดงข้อมูลเวลา และการแจ้งเตือนต่างๆ ให้เรารู้โดยไม่ต้องเปิดจอมาดูบ่อยๆ ให้เปลืองแบต อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อคหน้าจอได้รวดเร็วขึ้น เพียงแค่สัมผัส (ต่างจาก LG V10 ที่ต้องกดปุ่ม หรือเคาะเพื่อเปิดหน้าจอก่อนสแกนนิ้ว)
Physical Overview
LG G5 SE มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5.3 นิ้ว มีความละเอียดระดับ QHD เสริมความทนทานด้วยกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 ขอบบนของหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง และไฟ LED Notification สำหรับกะพริบแจ้งเตือนสถานะต่างๆ
พื้นที่ด้านล่างของหน้าจอมีเพียงโลโก้ของ LG แสดงอยู่เพียงอย่างเดียว เพราะในส่วนของแผงปุ่มควบคุมแบบสัมผัส นั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็น Virtual Button บนหน้าจอสัมผัส ซึ่งรองรับการตั้งค่าเพื่อสลับ, เพิ่มปุ่มสั่งงาน ได้อย่างอิสระ
ขอบตัวเครื่องฝั่งขวาของ LG G5 SE มีถาดใส่ซิมแบบ Hybrid ซึ่งในส่วนของช่อง nanoSIM 2 สามารถเลือกสลับมาใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงจัดวางอยู่ ถัดลงมาใกล้ๆ กับมุมล่าง จะพบกับปุ่มเล็กๆ สำหรับกดเพื่อปลดล็อคสลักยึดฝาครอบแบตเตอรี่ เพื่อเปลี่ยนแบต ฯ รวมถึงสามารถสลับไปใช้งานโมดูลชนิดอื่นๆ อีกด้วย
ขอบด้านบนของ LG G5 SE มีพอร์ต Infrared สำหรับใช้งานร่วมกับแอพฯ QuickRemote จัดวางอยู่ พร้อมไมโครโฟนตัวที่ 2 ละช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
เมื่อย้ายมาดูที่ขอบล่าง จะพบว่า LG G5 SE ได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C สำหรับเสียบสายชาร์จ (รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 3.0) และสายดาต้าเพื่อโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ใกล้ๆ
ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องคู่ความละเอียด 16 พิกเซล และ 8 ล้านพิกเซลสำหรับรองรับการถ่ายภาพมุมกว้างจัดวางอยู่ พร้อมด้วยเลเซอร์ออโต้โฟกัส, แฟลช LED และ Color Spectrum Sensor ส่วนปุ่ม Rear Key ที่คุ้นเคย ได้ถูกนำปุ่ม Volume ออกไป เหลือไว้เพียงปุ่ม Power ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
Magic Slot
แม้จะเปลี่ยนมาใช้บอดี้โลหะแบบยูนิบอดี้ แต่ LG G5 SE ก็ยังสามารถถอดเปลี่ยนแบตฯ ได้อย่างสะดวกด้วย Magic Slot แค่กดปุ่มก็ปลดล็อคสลักชิ้นส่วนด้านล่างตัวเครื่องออกมาเพื่อเปลี่ยนแบตฯ ได้ทันที อีกทั้งยังมีความพิเศษสมชื่อ Magic Slot ด้วยความสามารถในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม โมดูลต่างๆ ที่ LG ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับ LG G5 SE เครื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นโมดูล LG Cam Plus ที่มีลักษณะคล้ายกริปของกล้องถ่ายภาพ พร้อมปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มถ่ายวิดีโอ และวงแหวนสำหรับหมุนซูมเข้า – ออก อีกทั้งยังเพิ่มแบตเตอรี่มาให้อีก 1,200 mAh (รวมกับแบตเดิมเป็น 4,000 mAh) ให้สามารถใช้งานถ่ายภาพได้ยาวนานยิ่งขึ้น ส่วนใครที่หลงใหลในเสียงเพลง ก็ยังมีโมดูล Hi-Fi Plus ที่พัฒนาร่วมกับ Bang & Olufsen ซึ่งมี DAC 32 bit ช่วยเสริมคุณภาพของเสียงเพลงให้มีพลังและมิติมากขึ้น โดยตัวโมดูล Hi-Fi Plus นั้นจะมีช่องหูฟังแยกต่างหากสำหรับย้ายหูฟังเสียบที่ด้านล่างเพื่อรับประสบการณ์เสียงแบบ Hi-Fi จาก DAC ตัวนี้ได้โดยตรง
Wide Angle Dual Camera
นอกจาก Magic Slot อีกส่วนหนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่นของ LG G5 SE นั่นก็คือกล้องคู่ ที่มาพร้อมระบบ Laser Auto focus และระบบกันสั่น OIS โดยกล้องคู่จะแบ่งเป็น กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ตัวเดียวกับที่ใช้ใน G4 (รูรับแสง f/1.8 เลนส์มุมมองปกติถ่ายภาพได้มุมกว้าง 78 องศา) และ กล้องอีกตัวที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/2.4) ที่รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ กว้างถึง 135 องศา ช่วยเปิดมุมมองการถ่ายภาพใหม่ๆ ให้เราถ่ายภาพได้สนุกกว่าที่เคย แต่ต้องทำใจกับคุณภาพของภาพถ่ายที่จะดร็อปลงเล็กน้อยเมื่อเลือกใช้เลนส์มุมกว้าง การถ่ายภาพในช่วงกลางคืน หรือในสภาวะแสงน้อย จะเก็บแสงได้ไม่ดีเท่ากล้องตัวหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้สำหรับถ่ายภาพในมุมมองปกติ
Connectivity
การเชื่อมต่อของ LG G5 SE ยังคงจัดเต็มมาให้แบบครบครัน รองรับทั้ง 4G, 3G ทุกเครือข่าย ใช้งานได้จากทั้ง 2 ซิม (ต้องเลือกสลับใช้งาน) พร้อม Wi-Fi ที่สามารถใช้งานเป็น Wi-Fi Hotspot แชร์อินเตอร์เน็ตให้อุปกรณ์อื่นๆ และสามารถใช้งาน Miracast แชร์หน้าจอของ LG V10 ขึ้นไปแสดงผลบนหน้าจออื่นๆ ที่รองรับ พร้อมชิป NFC สำหรับการส่งข้อมูลระยะใกล้ และยังคงมี Infrared Port เอาไว้ให้ใช้งาน Quick Remote เพื่อสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างสะดวก
Final Opinion & Conclusion
LG G5 SE เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ ด้วยความแปลกใหม่ กับเรื่องราวของ Magic Slot ที่ให้เราเพิ่มความสามารถตัวเครื่องได้ด้วยโมดูลต่างๆ เสริมด้วยกล้องคู่มุมกว้าง เพื่อการถ่ายภาพในมุมมองที่ดูน่าสนุกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าใครที่กำลังจะเปลี่ยนมือถือใหม่ รวมถึงกลุ่มแฟนๆ LG น่าจะเล็ง LG G5 เอาไว้ในใจ แต่การที่ TG นำ LG G5 SE ซึ่งเป็นรุ่นน้อง สเปคเบากว่า เข้ามาวางขายด้วยราคาเปิดตัวแรงเกินคาด อาจจะทำให้กลุ่มที่รอคอยการมาของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เกิดการลังเลใจพอสมควร แต่ถ้ามองในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งานล้วนๆ LG G5 SE เครื่องนี้ ก็จัดได้ว่ามีความสามารถที่พร้อมตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครันเลยล่ะ
Strength
- หน้าจอสัมผัส IPS ขนาด 5.3 นิ้ว, ความละเอียด 2K QHD
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow), LG UX 5.0
- ทนทานด้วยกระจก Gorilla Glass 4, บอดี้โลหะ
- CPU Qualcomm Snapdragon 652 Octa-core, RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB, เพิ่ม microSD ได้, รองรับ USB OTG
- Magic Slot ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ รองรับการใช้งานร่วมกับโมดูลอื่นๆ
- กล้องคู่มุมกว้าง, ระบบ Laser Auto Focus, ระบบกันสั่น OIS, กล้องหน้า 8 ล้าน
- ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K, ระบบกันสั่น Steady Recording
- พอร์ต USB Type-C (รองรับ QuickCharge 3.0, USB OTG)
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน 4G, 3G, Wi-Fi และ NFC/ มีพอร์ต Infrared
Weakness
- ต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 ซิม หรือเพิ่ม microSD
- เปิดตัวด้วยราคาค่อนข้างสูง
รูกตัวเครื่อง LG G5 SE
รูปหน้าจอ LG G5 SE
ข้อมูลทั่วไป |
ราคา 21,900 บาท |
ขนาด, น้ำหนัก | 149.4 x 73.9 x 7.3 มิลลิเมตร, 156 กรัม |
เครือข่าย | GSM 850/ 900/ 1800/ 1900 MHz
HSDPA 850/ 900/ 1900/ 2100 MHz LTE 700/ 800/ 850/ 1800/ 1900/ 2100/ 2600 MHz |
แบตเตอรี่ | Li-Ion 2,800 mAh |
ระยะเวลาสแตนด์บาย | สูงสุดประมาณ 380 ชั่วโมง (3G) |
ระยะเวลาสนทนา | สูงสุดประมาณ 20 ชั่วโมง (3G) |
ระบบการทำงาน | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0.1 (Marshmallow) |
หน่วยประมวลผล | Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 Octa-core (Quad-core 1.8 GHz Cortex-A72 & Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53), Adreno 510 GPU |
หน่วยความจำภายใน | 32 GB ROM, 3 GB RAM |
หน่วยความจำภายนอก | microSD สูงสุด 200 GB |
จำนวนซิมการ์ด, ประเภท | Dual SIM, nanoSIM |
จอแสดงผล | |
ความละเอียด, ขนาด | 1440 x 2560 พิกเซล, ขนาด 5.3 นิ้ว (554 ppi) |
ชนิดและจำนวนสี | IPS LCD capacitive touchscreen, 16.7 ล้านสี |
เสียง | |
การใช้คำสั่งเสียง | มี |
ลำโพงสเตอริโอ | ไม่มี |
แฮนด์ฟรี | มี |
บันทึกเสียง | มี |
มัลติมีเดีย | |
กล้องหลัง | กล้องคู่ 16 ล้านพิกเซล (f/1.8) + 8 ล้านพิกเซล (f/2.4), Laser AF, LED Flash, OIS 2.0 |
กล้องหน้า | ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.0) |
กล้องวิดีโอ | 4K 2160p, FullHD 1080p, ระบบกันสั่นขณะถ่ายวิดีโอ Steady Record, บันทึกเสียงด้วยไมค์ 3 ตัว |
วิทยุ FM | มี |
เครื่องเล่นเพลง MP3 | มี |
เครื่องเล่นวิดีโอ | มี |
การเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูล | |
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก | บลูทูธ 4.2 (A2DP), USB 2.0, Type C 1.0, USB OTG, Wi-Fi ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Hotspot, NFC, Infrared Port |
3G | HSDPA, 42 Mbps; HSUPA, 21 Mbps |
4G LTE | LTE Cat9, 50 Mbps UL, 450 Mbps DL |
อื่นๆ | เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ |