HUAWEI P9
ในช่วงงาน Thailand Mobile Expo 2016 รอบกลางปีที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนรุ่นที่ร้อนแรงและมีผู้คนให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษนั่นคือ Huawei P9 ที่ถึงแม้ว่าจะมาวางขายไม่ทันในงานแต่ก็โกยยอดสั่งจองเครื่องกันไปเป็นจำนวนมาก ด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจเป็นพิเศษในรุ่นนี้ก็คือ ตัวกล้องด้านหลังที่ทาง Huawei ได้ร่วมมืดพัฒนากับทาง Leica แบรนด์กล้องระดับโลก ออกมาเป็นกล้องแบบคู่ที่ทำงานร่วมกัน ตัวแรกจะใช้เก็บภาพสีแบบ RGB ปกติ แต่อีกตัวจะเป็นกล้องถ่ายภาพขาวดำสี Monochrome เพื่อเก็บข้อมูลของภาพเรื่อง contrast และมิติของภาพ เมื่อเอามาประมวลผลรวมกันจะทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสวยงามพร้อมทั้งมีความคมชัดและรายละเอียดของภาพได้ดี
การออกแบบตัวเครื่องของ Huawei P9 เน้นเรื่องความสวยพรีเมี่ยมและเรียบง่าย ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นโลหะ กระจกด้านหน้าโค้งมนแบบ 2.5D ที่มีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้วทำให้ถือใช้งานมือเดียวได้สบายๆ ดูเครื่องเคราภายในใช้ CPU ของทาง Huawei เองนั่นคือ Kirin 955 แบบ Octa-core (แบ่งเป็น Quad-core 2.5 GHz กับ Quad-Core 1.8 GHz) ส่วนประมวลผลภาพใช้ Mali-T880 ที่ถือว่าแรงใช้ได้ ทางด้านหน่วยความจำในเครื่องมีมาให้ 32 GB ใส่เพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 256 GB ส่วนของ RAM ก็ให้มา 3 GB จากการทดสอบใช้งานจริงถือว่าลื่นไหลไม่มีสะดุด ทั้งการใช้งานทั่วไปรวมไปถึงการเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ ก็ยังพอรับมือได้อยู่
แบตเตอรี่ที่มีมาให้กับ Huawei P9 นั้นความจุอยู่ที่ 3,000 mAh ตัวเครื่องไม่มีเทคโนโลยีการชาร์จไวระบุมา จากการทดสอบใช้งานชาร์จด้วยที่ชาร์จแบบ 5V 2.0a และใช้สาย USB Type-C ระยะเวลาการชาร์จไฟจาก 0-100% ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ในการใช้งานระหว่างวัน แบบปกติ เล่น Social, Facebook, LINE, Instagram, เล่นเกม, ถ่ายภาพ แบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณ 5-7 ชั่วโมง โดยเฉพาะเวลาที่ใช้งานส่วนของกล้องถ่ายรูปนั้น ตัวเครื่องใช้พลังงานค่อนข้างมาก สัมผัสได้จากตัวเครื่องที่มีอุณภูมิค่อนข้างสูงในช่วงที่ใช้งานเพื่อถ่ายภาพ
ระบบปฎิบัติการมาเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย Emotion UI 4.1 ที่หน้าโฮมจะไม่มี App drawer นั่นคือแอพทั้งหมดจะโชว์อยู่ที่หน้าจอทั้งหมด เรียงตามหน้าไป มีส่วนของ Theme ให้ดาวน์โหลดมาใช้เปลี่ยนได้หลากหลายสไตล์ การเปลี่ยนหน้าเมนูหรือเปิดปิดแอพทำได้รวดเร็วลื่นไหล ตัวแถบ Notification Bar จะแบ่งเป็น 2 Tab คือส่วนของหน้าการแจ้งเตือนต่างๆ ที่จะแสดงในรูปแบบเป็น Timeline กับอีกส่วนเป็นหน้ารวม Shortcut เมนูในการปรับค่าต่างๆ
Physical Overview
ในกล่องของ Huawei P9 จะประกอบด้วยตัวเครื่อง, อแดปเตอร์สำหรับชาร์จ, สายชาร์จหัวแบบ USB Type-C, ตัวกดถาดซิม, หูฟัง, คู่มือ และมีเคสใสแบบ TPU มาให้ด้วย
Huawei P9 ตัวเครื่องจะมีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้วแบบ IPS ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 พร้อมกระจกด้านหน้าเป็น Corning Gorilla Glass 4 ขอบโค้งมนแบบ 2.5D ด้านบนของจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ลำโพงสนทนาที่มีไฟ LED แจ้งเตือนซ่อนอยู่ด้านใน
ด้านข้างของตัวเครื่อง ทางฝั่งขวาจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม power สำหรับเปิดปิดเครื่องและหน้าจอ สังเกตดีๆ ที่ปุ่ม power จะมีลวดลายเพิ่มขึ้นช่วยให้เวลาสัมผัสรู้สึกแตกต่างจากปุ่มอื่น
มาทางด้านซ้ายของเครื่องจะเป็นถาดสำหรับใส่ซิมแบบ Hybrid ที่เลือกได้ว่าจะใช้เป็นแบบใส่ซิมขนาด nanoSIM ได้ 2 เบอร์ หรือว่าจะเปลี่ยนใช้ 1 ซิมและใส่หน่วยความจำแบบ microSD ที่รองรับความจุได้มากถึง 256GB
ด้านบนของตัวเครื่องจะเรียบๆ มีเพียงรูของไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวนภายนอกช่วยให้เสียงเวลาสนทนาชัดขึ้น
มาดูที่ด้านล่างของเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ที่ใช้เพื่อเสียบชาร์จแบตเตอรี่รวมถึงการโอนย้ายข้อมูล และขวาสุดจะเป็นช่องลำโพงเสียง
ด้านหลังจะมีกล้องแบบเลนส์คู่ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ตัวเลนส์กล้องเนียนเรียบไปกับฝาหลังไม่มียื่นออกมาจากตัวเครื่อง มีไฟแฟลชแบบ LED dual-tone และเซนเซอร์จับโฟกัสแบบ Laser Autofocus ที่สำคัญมีตัวอักษรของ Leica ติดอยู่ด้วยบอกสเปคของเลนส์กล้องที่เป็น SUMMARIT H 1:2.2/27 ASPH และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังเครื่อง
FingerPrint Scan
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Huawei P9 ถูกเอาไว้ในตำแหน่งกลางเครื่องด้านหลัง ซึ่งใช้นิ้วชี้แตะได้ถนัดที่สุด ตัวเซนเซอร์ไม่ได้มีเอาไว้ใช้แค่ปลดล็อคเครื่องเพียงอย่างเดียว Huawei ยังออกแบบฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติมเข้าไปอีกหลายอย่างเช่น แตะค้างไว้เพื่อเป็นปุ่มกดชัตเตอร์เวลาที่ใช้เมนูถ่ายภาพ, รับสายโทรเข้า หรือปิดเสียงนาฬิกาปลุก, แตะแล้วปัดลงจะเป็นการเลื่อนแถบ Notification Bar ลงมา หรือในหน้า Gallery เวลาดูรูปภาพ ปัดเลื่อนที่เซนเซอร์ด้านหลังเพื่อเปลี่ยนรูปได้
Leica Dual Camera
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่ากล้องของ Huawei P9 นั้นเป็นกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica การใช้กล้องคู่ที่แยกส่วนของภาพสีและขาวดำมาประมวลผล ทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีสีสันสดในและรายละเอียดของภาพที่คมชัด นอกจากนี้ยังใช้ในการถ่ายแบบ Refocus ปรับระยะชัดลึก-ตื้นของภาพได้ โดยเป็นการจำลองขนาดรูรับแสงที่สามารถทำได้ระยะตั้งแต่ถึง F/0.95 ถึง F/16 และสามารถถ่ายแล้วมาปรับความชัดภายหลังได้
ในโหมดการถ่ายภาพ Huawei จัดเอาไว้ให้เลือกได้หลากหลาย ตั้งแต่โหมด Photo ธรรมดา, ภาพถ่ายสีเดียวแบบ Monochrome, Beauty ถ่ายภาพปรับผิวเนียนสวยที่ทำได้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ, HDR, Panorama, โหมดถ่ายกลางคืนที่มี Night shot และ Light Panting ถ่ายภาพวาดแสงไฟ, Time-Lapse, Slow-mo, ใส่ลายน้ำ, ถ่ายภาพพร้อมบันทึกเสียง และถ่ายสแกนเอกสาร
Connectivity
เสาสัญญาณของ Huawei P9 นั้น ทาง Huawei ได้ออกแบบมาเป็นพิเศษใช้เสาสำหรับรับสัญญาณถึง 3 เสา พร้อมเทคโนโลยี Single+ 2.0 รองรับการใช้งานคลื่น 2G 3G และ 4G LTE ได้ทุกเครือข่าย ระบบสัญญาณ Wi-Fi ใช้มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac แบบ Dual Band มีฟีเจอร์พิเศษที่เรียกกว่า WiFi+ ที่ช่วยให้เวลาที่ต่อ Wi-Fi แล้วสัญญาณไม่ดี ระบบจะใช้การเชื่อมต่อสัญญาณของเครือข่ายมาช่วยเสริมให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น แต่นั่นก็แปลว่าจะมีผลกับการใช้งาน data ในโปรโมชั่นของคุณไปด้วย
Final Opinion & Conclusion
เรื่องของกล้องถ่ายภาพนั้นถือว่าทำได้ดีและน่าประทับใจ Huawei P9 ให้ประสบการณ์ในการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนอย่างแตกต่างจากที่เคยใช้มาในมือถือทุกๆ เครื่อง โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพแบบสีขาวดำนั้นได้ภาพที่สวยมีมิติและมีเสน่ห์ในแบบฉบับกล้อง Leica มากๆ เพราะมันสวยกว่าการเอาภาพสีมาย้อมเป็นขาวดำมาก ตัวเครื่องงานประกอบและการออกแบบทำได้ดีและเริ่มรู้สึกได้ว่า Huawei ค้นพบปรัชญาการออกแบบเครื่องในรูปแบบสไตล์ของตัวเองได้แล้ว ส่วนการใช้งานอื่นๆ พื้นฐานของสมาร์ทโฟน Android 6.0 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่โอเค ลื่นไหลไม่มีอะไรกวนใจ
Strength
- ตัวเครื่องงานประกอบสวยงามดูพรีเมี่ยม เครื่องบางและขนาดพอดีถือใช้งานมือเดียวได้สะดวก น้ำหนักเบา
- กล้องถ่ายภาพทำได้ดีสมกับโลโก้ Leica ที่แปะมา ซอฟท์แวร์กล้องทำออกมาได้ดี พร้อมโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้หลากหลายสถานการณ์
- ระบบ refocus ให้สามารถปรับความชัดของภาพภายหลัง ทำภาพแบบหลังละลายได้สวยงาม พร้อมมีลูกเล่นแต่งสีเพิ่มได้
- กล้อง Monochrome ถ่ายภาพแบบขาวดำออกมาได้น่าประทับใจ ให้เฉดสี greyscale ที่สวยงาม
- เมนูปรับแต่งภาพลูกเล่นหลากหลาย ใช้งานได้ง่าย
- เปิดเข้าใช้งานกล้องได้ไว (กดปุ่ม Volume down 2 ครั้งในตอนที่ปิดหน้าจอ) ใช้เวลาเรียกเมนูกล้องขึ้นมาได้ทันที
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่แม่นยำและอ่านได้รวดเร็ว
Weakness
- เวลาใช้ถ่ายภาพไปสักพักเครื่องค่อนข้างร้อน
- รุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในไทยไม่มี NFC
- รูรับแสงของกล้องค่อนข้างกว้าง ทำให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยแล้วมี noise
รูปตัวเครื่อง HUAWEI P9
รูปหน้าจอ HUAWEI P9
ข้อมูลทั่วไป | ราคา 16,990 บาท |
ขนาด, น้ำหนัก | 145 x 70.9 x 6.95 มิลลิเมตร, 144 กรัม |
เครือข่าย | GSM 850/ 900/ 1800/ 1900 MHz
HSDPA 850/ 900/ 2100 MHz LTE 850/ 900/ 1800/ 2100 MHz |
แบตเตอรี่ | Li-Ion 3,000 mAh |
ระยะเวลาสแตนด์บาย | สูงสุดประมาณ 380 ชั่วโมง (3G) |
ระยะเวลาสนทนา | สูงสุดประมาณ 20 ชั่วโมง (3G) |
ระบบการทำงาน | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 (Marshmallow) Emotion UI 4.1 |
หน่วยประมวลผล | Huawei Kirin 955 (Quad-core 2.5 GHz Cortex-A72 & Quad-core 1.8 GHz Cortex-A53), Mali-T880 GPU |
หน่วยความจำภายใน | 32 GB ROM, 3 GB RAM |
หน่วยความจำภายนอก | microSD สูงสุด 256 GB |
จำนวนซิมการ์ด, ประเภท | Dual SIM, nanoSIM |
จอแสดงผล |
|
ความละเอียด, ขนาด | 1080 x 1920 พิกเซล, ขนาด 5.2 นิ้ว (423 ppi) |
ชนิดและจำนวนสี | IPS-NEO LCD capacitive touchscreen, 16.7 ล้านสี |
เสียง | |
การใช้คำสั่งเสียง | มี |
ลำโพงสเตอริโอ | ไม่มี |
แฮนด์ฟรี | มี |
บันทึกเสียง | มี |
มัลติมีเดีย | |
กล้องหลัง | กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซล (f/2.2) 27 mm, Leica optics, phase detection autofocus, แฟลช dual-LED |
กล้องหน้า | ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.4) |
กล้องวิดีโอ | 1080p@60fps, 1080p@30fps, 720p@120fps |
วิทยุ FM | ไม่มี |
เครื่องเล่นเพลง MP3 | มี |
เครื่องเล่นวิดีโอ | มี |
การเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูล | |
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก | บลูทูธ 4.2 (A2DP), USB 2.0, Type C 1.0, USB OTG, Wi-Fi ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Hotspot |
3G | HSDPA, 42 Mbps; HSUPA, 5.76 Mbps |
4G LTE | LTE Cat6, 50 Mbps UL, 300 Mbps DL |
อื่นๆ | เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ |