Garmin ยังคงลุยตลาดนาฬิกา GPS สำหรับออกกำลังกายและกีฬาอย่างต่อเนื่อง ได้มีการเปิดตัว Garmin Forerunner 735XT ไปในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นาฬิกา GPS รุ่นล่าสุดนี้ได้เพิ่มการใช้งานแบบมัลติสปอร์ตและการเล่นไตรกีฬาอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกันนี้ยังเพิ่มเซ็นเซอร์การวัด HR อัตราการเต้นของหัวใจแบบแสงเข้ามาเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
อีกทั้งยังถือเป็นรุ่นต่อยอดหลังจากที่ Garmin Forerunner 920XT เปิดตัวมานานถึง 2 ปีแล้ว โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์จากเดิมที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมมาเป็นทรงกลมและเพิ่มฟีเจอร์อย่าง VO2 Max, Cadence และ Race Predictors เข้ามาในรุ่นนี้ด้วย ทั้งนี้ในประเทศไทยจะมีสีดำ-เทา และ สีม่วง-ชมพูเข้ามาจำหน่ายเพียง 2 สีเท่านั้น
แกะกล่อง
ตัวกล่องจะเป็นกล่องสีดำทั้งหมด ไม่มีกล่องใสโชว์ตัวเรือนแตกต่างจาก Garmin Forerunner 235 แต่จะไปคล้ายกับกล่องของ Garmin Fenix 3 HR มากกว่า หน้ากล่องมีบอกรายละเอียดชัดเจนว่ารองรับการว่ายน้ำเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากการวิ่ง และปั่นจักรยาน พร้อมกันนี้หน้าจอของตัวเรือนยังโชว์โหมดการแข่งไตรกีฬาอีกด้วย
ด้านหลังของกล่องก็บอกถึงคุณสมบัติหลักๆ ของรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ข้อมือ, เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพฯ Garmin Connect, ระบบแจ้งเตือน Smart Notifications และ VO2 Max การวัดระดับการใช้ออกซิเจนในขณะออกกำลังกาย
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะพบกับ Garmin Forerunner 735XT ถูกวางอยู่ในกล่อง ส่วนนี้ก็มีการเน้นย้ำเรื่องเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเช่นเคย พร้อมกับการรองรับการแข่งไตรกีฬา
อุปกรณ์ภายในกล่องนั้นนอกจากจะเป็นตัวนาฬิกา GPS แล้ว ยังมีสายชาร์จแบบหนีบ, ใบรับประกันสินค้า, คู่มือการใช้งานมาให้ ไม่มีสายสำรองและชุดเปลี่ยนสายมาให้เหมือนกับ Garmin Forerunner 235 แล้ว
รูปลักษณ์และการออกแบบ
ตัวเรือนได้มานำดีไซน์หน้าปัดทรงกลมมาจาก Garmin Forerunner 235 ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งปุ่มต่างๆ ก็ตรงกัน แม้กระทั่งหน้าจอที่มีขนาดและความละเอียดเท่ากัน โดยมีหน้าจอสีขนาด 1.23 นิ้ว ความละเอียด 215 x 180 พิกเซล ไม่รองรับการสัมผัสหน้าจอ สามารถสั่งงานผ่านปุ่มกดเท่านั้น สำหรับหน้าจอสามารถมองเห็นได้ในที่กลางแจ้งและมี Backlight สำหรับดูในที่มืดหรือที่แสงน้อย
ด้านซ้ายจะมีปุ่มเปิด/ปิด ใช้ร่วมกับปุ่ม Backlight ถัดมา ปุ่ม Option ซึ่งใช้ร่วมกับปุ่มเลื่อนขึ้น, ปุ่มเลื่อนลง เพื่อเข้าเมนูและเลือกเมนูต่างๆ
ด้านขวาของตัวเรือนจะมีปุ่ม Start สำหรับเริ่มออกกำลังกาย ปุ่มนี้จะมีสีที่ตรงกับตัวเรือน เช่น เทา-ดำ สีหลักของตัวเรือนจะเป็นสีดำซึ่งมีสีเทาตัดตามขอบของหน้าจอ และด้านในของสาย ถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มย้อนกลับ
เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบแสงจะอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่องวางอยู่ตรงกลาง ด้านข้างจะเป็นแถบสำหรับสายชาร์จแบบหนีบ ซึ่งก็เหมือนกับ Garmin Forerunner 235
ตัวสายเป็นยางชั้นดี นิ่ม ไม่บาดข้อมือ มีการออกแบบที่ดูหรูขึ้นกว่าสายของ Garmin Forerunner 235 แต่ไม่มีแถมสายสำรองมาให้ หากใครที่คาดหวังว่าจะเอามาเปลี่ยนสายสลับสีเหมือนกับ Garmin Forerunner 235 ก็ทำใจไว้ได้เลยว่ารุ่นนี้จะมีเพียงแค่สายชุดเดียวเท่านั้น
Garmin Forerunner 735XT มีการออกแบบแบบผสมผสานจากหลายๆ รุ่น มีความลงตัวน่าใช้งาน หน้าปัดก็ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักเบาเพียง 40.2 กรัม ตัวสายยังคงมีตัวล็อค 2 ชั้นให้ความมั่นใจว่าสายจะไม่หลุดในขณะออกกำลังกายอย่างแน่นอน
การออกกำลังกายที่หลากหลาย
มีการรองรับการออกกำลังกายที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน(ในร่ม/กลางแจ้ง), วิ่ง(ในร่ม/กลางแจ้ง) และว่ายน้ำ (สระน้ำ/แม่น้ำหรือทะเล) แน่นอนว่ารองรับการแข่งแบบไตรกีฬาด้วย ทำให้ไม่ต้องมาคอยเลือกชนิดกีฬาในการแข่งขัน ตัวเรือนสามารถกันน้ำได้ 5 ATM แต่เมื่อว่ายน้ำไม่สามารถใช้เซ็นเซอร์วัด Heart Rate ได้ จำเป็นจะต้องใช้สายคาดหน้าอกสำหรับว่ายน้ำแทน
หลังจากที่นำสวมใส่ทดสอบด้วยการวิ่ง การแสดงผลในนาฬิกาก็แสดงข้อมูลได้รายละเอียดครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง, ความเร็ว, เวลา, จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ, อัตราเฉลี่ยการเต้นของหัวใจ, อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด, รอบขา รวมถึงระยะในการก้าวขา หรือจะต้องการดูเวลาในแต่ละรอบ (Laps) ซึ่งตามปกติจะแบ่งเป็นรอบละ 1 กิโลเมตร และเนื่องจากมี GPS ที่คอยเก็บพิกัดจากดาวเทียม ทำให้สามารถบันทึกเส้นทางการออกกำลังกายได้
Garmin Forerunner 735XT ยังมีฟีเจอร์ VO2 Max บอกผลการประเมินร่างกายใช้ออกซิเจน, Recovery advisor แนะนำระยะเวลาที่ต้องพักผ่อนหลังจากออกกำลังกาย, Race predictor ประเมินระยะเวลาในการวิ่งในแต่ละระยะ
สำหรับใครที่ชื่นชอบการฝึกโดยอาศัยข้อมูลจากการเต้นของหัวใจก็มี Time in Zone มาให้ดูเพื่อตรวจสอบว่าเราออกกำลังอยู่ในโซนไหนมากที่สุด แน่นอนว่าไม่ควรที่อยู่ใน Z5 นานๆ และถ้าหากใครที่ไม่รู้ว่าจะต้องฝึกแบบไหน สามารถเชื่อมต่อ Garmin Forerunner 735XT เข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อทำการดาวน์โหลดแผนการฝึกมาเก็บไว้ในนาฬิกาและทำการฝึกตามแผนการฝึกนั้นๆ ได้
หรือจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับออกกำลังกายเพิ่มเติมผ่านแอพฯ Garmin Connect ก็ได้เช่นกัน
เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ข้อมือของ Garmin Forerunner735XT นั้นใช้เทคโนโลยี Elevate เป็นแบบแสงยิงออกมา สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจในขณะออกกำลังกายเพื่อดูว่าเราอยู่ในโซนไหน หรือใช้เป็น Heart Rate Monitor ตรวจวัดตลอดทั้งวัน เราสามารถเปิดดูกราฟอัตราการเต้นของหัวใจได้ โดยจะแสดงเป็นกราฟสีตามโซนต่างๆ อีกด้วย และเมื่อกดเข้าไปดูจะเห็นรายละเอียดอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยในแต่ละวันเพื่อทำการเปรียบเทียบความแข็งแรงของเรา ซึ่งสามารถดูได้จาก RHR ยิ่งต่ำ ยิ่งแข็งแรงนั่นเอง
Activity Tracker ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากจะทำการตรวจจับการออกกำลังกายแล้ว ยังสามารถใช้งานเป็น Activity Tracker ตรวจนับก้าวเดินในชีวิตประจำวัน พร้อมกับคำนวณแคลอรี่ที่เผาผลาญมาให้ด้วย ซึ่งจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
สมาร์ทวอช
Garmin Forerunner 735XT เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น Garmin Connect จะสามารถแสดงผลการแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่นาฬิกา และสามารถดูข้อมูลปฏิทิน, สภาพอากาศ บนนาฬิกาได้เลย อีกทั้งยังใช้เป็นรีโมทสำหรับควบคุมเพลงในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
ปรับแต่งได้ตามใจชอบ
อีกข้อดีของนาฬิกา GPS มัลติสปอร์ตรุ่นนี้คือสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น Watch Face, Widget, Application การออกกำลังกาย สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จากแอพฯ Garmin Connect และติดตั้งลงนาฬิกาได้เลย ทำให้การใช้งานนาฬิกาเป็นไปตามไลฟ์สไตล์ของเราได้ง่ายๆ
แบตเตอรี่
สำหรับแบตเตอรี่และการใช้งานของ Garmin Forerunner 735XT นั้น ถึงแม้จะไม่อึดเท่ากับ Garmin Forerunner 920XT แต่ก็เพียงพอต่อการแข่งขันไตรกีฬา หรือการใช้งานทั่วไปในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ฝึกซ้อมวิ่งโดยใช้ GPS ใช้กันเพลินๆ ถึง 5 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
สรุป
Garmin Forerunner 735XT ถือเป็นนาฬิกา GPS มัลติสปอร์ตที่น่าสนใจอีกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา วัสดุสวมใส่สบาย รองรับการออกำลังกายที่หลากหลาย และรองรับการแข่งขันแบบไตรกีฬา อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์วัดตราการเต้นของหัวใจที่ข้อมือ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการออกกำลังกาย เพราะไม่จำเป็นต้องสวมใส่สายคาดอกทุกครั้ง แต่ถ้าหากจะใช้วัดประสิทธิภาพอย่างจริงจัง อาทิ Running Dynamics หรือ lactate threshold ก็ยังจำเป็นต้องใช้งานสายคาดอกอยู่
หากใครที่กำลังมองหานาฬิกา GPS สำหรับออกกำลังกาย และต้องการครอบคลุมทุกการออกกำลังกาย นาฬิการุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เลย
จุดเด่น
- น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
- มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ข้อมือ
- มี GPS ภายในตัว ไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟนออกไปด้วยในขณะออกกำลังกาย
- รองรับการแข่งขันไตรกีฬา
- ปรับแต่ง Watch Face, Widget เพิ่มเติมได้
ข้อจำกัด
- ไม่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะอยู่ในน้ำได้
- ไม่รองรับการโอนถ่ายข้อมูลผ่านทาง Wi-Fi