อุปสรรคนึงของการถ่ายวิดีโอผ่านกล้อง Action Cam ก็คือ การควบคุมการสั่นของวิดีโอ – ภาพ เพราะตอนใช้จริงคงไม่วางกล้องนิ่งๆ จริงมั้ย ? จากเทรนด์การ Live หรือถ่ายทอดสดผ่าน Social ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก ทำให้เกิด Solution ในแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย #แท่งหรรษา มีชื่อเรียกว่า Gimbal, Stabilizer หรือไม้กันสั่นนั่นเอง คุณสมบัติคือ ลดการสั่นระหว่างถ่ายวิดีโอ / ภาพถ่ายด้วยระบบมอเตอร์ควบคุมแกนหมุน (Axis) อิสระ สูงสุดที่ระดับ 3-Axis (X-Y-Z) ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ทำให้การถ่ายวิดีโอ / ภาพถ่ายทำได้นิ่มนวล สมูทมากขึ้น แม้ตัว Device จะไม่มีระบบ OIS ก็ตาม
GoPro KARMA Grip
ปัจจุบันมี Gimbal หรือ Stabilizer หลากหลายแบรนด์ครับ ราคาหลักพันยันหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับออฟชั่น – คุณภาพ สำหรับวันนี้หยิบของ ‘Karma Grip’ จาก GoPro มาแนะนำกัน เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ Karma Drone เมื่อมีกระแสเรียกร้องจากผู้ใช้ GoPro จึงแยกตัว Grip มาขายต่างหาก คุณสมบัติการใช้งานคล้ายคลึงกับ Gimbal ทั่วไป เพียงแต่ Karma Grip ถูกออกแบบสำหรับ ‘GoPro’ เท่านั้น
คุณสมบัติเด่น
– ขนาด 149 x 109 x 83 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 242 กรัม (หัวกันสั่น)
– ขนาด 205 x 43 x 43 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 245 กรัม (ไม้ควบคุม)
– แบตเตอรี่บิ้วท์อิน / 5-15 VDC, 3A / ใช้งานสูงสุด 1.45 ชั่วโมง
– ระยะเวลาชาร์จ 1.50 ชั่วโมง (วอลชาร์จแบบเร็ว), 6 ชั่วโมง (วอลชาร์จปกติ)
– อุปกรณ์ชุดขาย : ไม้ควบคุม, หัวกันสั่น, กระเป๋าเคส, ห่วง Mount สำหรับติดตั้งบนจักรยาน / มอเตอร์ไซค์
ภาพรวมของ Karma Grip คล้ายกับ Gimbal แบรนด์อื่นๆ มีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วนคือ ไม้ด้ามจับ (Handle) กับหัวกันสั่น (Karma Stabilizer) สำหรับหัวกันสั่น สามารถหมุนเปลี่ยน Mount รองรับ GoPro 4 และ GoPro 5 Session อันนี้ต้องซื้อแยกนะครับ ราคาสูงพอสมควร นอกจากนี้ อนาคตยังมี Extension Cable ไว้ปรับระยะอีกด้วย เหมาะกับสาย Backpack วางจำหน่ายเร็วๆ นี้
ตัวด้าม (Handle) ของ Karma Grip วัสดุโพลีคาร์บอเนตสีดำผิวด้าน พร้อมที่จับ – ส่วนควบคุม ใช้งานง่าย มีเพียงปุ่มเปิด – ปิด, บันทึกวิดีโอ – ถ่ายภาพ, ปรับจูนหัวกันสั่น แสดงสถานะแบตเตอรี่ ไม่มี Joystick เพื่อควบคุมการหมุนแบบ Osmo Mobile ส่วนท้ายมีจุกยางปิด USB แบบยางสำหรับชาร์จ (พอร์ต USB Type-C) ตัว Handle และช่องร้อยสายห้อย
ด้านหัวกันสั่น (Stabilizer) ถอดแยกจากตัว Handle ได้ครับ วัสดุเป็นโลหะแข็งแรงทนทาน หมุน 3-Axis ส่วนหัว Mount ถอดเปลี่ยนเป็นของ GoPro 4, GoPro 5 Session ตามต้องการ ต้องซื้อแยกต่างหาก เพราะชุดขายแถมของ GoPro 5 Black เท่านั้น
ข้อดีของ Karma Grip คือง่ายสำหรับผู้ใช้ GoPro ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย ระหว่างใช้งานตัว Grip จะชาร์จแบตเตอรี่ของกล้อง GoPro ด้วย ขณะเดียวกัน ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น (Capture) หรือควบคุมผ่านตัวกล้อง อย่างไรก็ดี การใช้งานจริงพบว่าแกนหัวกันสั่นบังหน้าจอ ทัชสกรีนลำบาก ดังนั้นควรเชื่อมต่อแอพฯ ก่อนใช้งาน จะดีที่สุดครับ
แบตเตอรี่รองรับการใช้งานสูงสุด 1.45 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เอาชัวร์ๆ คือประมาณ 1.30 ชั่วโมง เพียงพอกับการ Live 1 งาน การชาร์จสามารถเสียบวอลชาร์จ USB Type-C หากคุณมีวอลชาร์จ (5V, 3A) พร้อมสาย USB Type-C to C สามารถชาร์จเต็มภายใน 1.50 ชม.
ตัวอย่างวิดีโอจาก GoPro 5 Black ใช้งานร่วมกับ Karma Grip สามารถชมได้ที่นี่ (ความละเอียด 4K)
สรุป
เป็นอีก 1 เครื่องมือเสริมที่คนชอบถ่ายวิดีโอต้องมีไว้ครอบครอง สำหรับไม้กันสั่น ปัจจุบันมีหลากแบรนด์ – รุ่น ออกแบบใช้งานบน Mobile Device หรือ แอคชั่นแคมตามความต้องการ เช่นเดียวกับ ‘GoPro’ ที่ออก Karma Grip มาเพื่อใช้งานร่วมกับกล้อง GoPro จุดขายหลักคือใช้งาน – ติดตั้งง่าย รองรับบน GoPro รุ่นปัจจุบัน / GoPro 4 และมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ตามมาอีก เช่น Extension Cable ไว้ยืดระยะถ่าย (หากแขนคุณยาวไม่พอ) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม Karma Grip ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างคือ รองรับเฉพาะ GoPro บางรุ่นเท่านั้น / Mount มีราคาค่อนข้างสูง เหมาะกับผู้ใช้ที่มีกล้อง GoPro ใช้งานอยู่แล้ว แต่อยากได้ภาพวิดีโอที่นิ่งกว่า และได้ภาพไวด์กว่า Karma Grip วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ สนนราคา 15,999 บาท รับประกัน 2 ปี (Mentagram) ส่วนตัว Mount (รองรับ GoPro 4) ราคา 2,400 บาทครับ