Samsung Galaxy Mega 6.3
เรียกได้ว่ากำลังมาแรงแบบสุดๆ สำหรับเทรนด์มือถือจอใหญ่ ซึ่งค่ายมือถือจากฝั่งเกาหลีอย่าง Samsung ก็ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่เริ่มบุกตลาดสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เริ่มจาก Galaxy Note ที่ฮิตถล่มทลาย ตามมาด้วย Galaxy Grand ที่มีกระแสตอบรับดีไม่แพ้กัน ล่าสุดจึงได้ผุดสมาร์ทโฟนตระกูล Mega ออกมาเอาใจผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เน้นการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก และมองว่าการพกพาแท็บเล็ตก็ดูจะใหญ่เทอะทะไปหน่อย โดย What Phone ฉบับนี้ มีโอกาสได้รีวิวเจ้า Samsung Galaxy Mega 6.3 ซึ่งมีขนาดหน้าจอตรงตามชื่อรุ่นนั่นคือ 6.3 นิ้ว เป็นหน้าจอ Super Clear LCD มีความละเอียดระดับ HD 720p มีดีไซน์ และการจัดวางปุ่มต่างๆ ที่อธิบายได้สั้นๆ ว่ามันคือ Galaxy S4 เวอร์ชั่นเพาะกาย (ฮา) ซึ่งทีแรกคิดว่าหน้าจอใหญ่ขนาดนี้ น่าจะจับถือได้ลำบากพอควร แต่ด้วยความบางของตัวเครื่องที่มีเพียง 8 มิลลิเมตร ก็พอจะช่วยให้จับตัวเครื่องใช้งานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีระบบ One-handed operation สำหรับอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วยมือเดียว โดยเราสามารถเลือกย้ายแผงปุ่มกดตัวเลข ไปไว้ชิดขอบหน้าจอฝั่งที่เราถนัด เพื่อใช้งานแผงปุ่มกดได้จากนิ้วโป้งเพียงนิ้วเดียว แต่ในส่วนของการเลื่อนแถบ Notification ที่ขอบบนของหน้าจอ หรือการย้อนลงมากดปุ่ม Back ที่ด้านล่างตัวเครื่องนั้นคงเกินความสามารถของการใช้งานด้วยมือเดียว เป็นแน่แท้
ทางด้านประสิทธิภาพ Samsung Galaxy Mega 6.3 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 400 ที่มีหน่วยประมวลผลระดับ Dual-core ความเร็ว 1.7 GHz พร้อม RAM 1.5 GB ใช้กราฟิกการ์ด Adreno 305 รันระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 (Jelly Bean) ในส่วนฟังก์ชั่นต่างๆ แม้ว่าจะไม่ได้จัดเต็มเหมือนรุ่นท็อป แต่ก็ยังมีความสามารถหลักๆ อย่าง Smart Stay, Direct Call, Smart Alert, Pop Up Play รวมไปถึงโปรแกรม Group Play, S Memo, S Planner, S Voice, S Translator และ Story Album ให้ใช้งานกันครบครัน
Physical Overview
Samsung Galaxy Mega 6.3 มาพร้อมหน้าจอสัมผัส Super Clear LCD ขนาดใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว มีความละเอียดระดับ HD 720p (1280 x 720 พิกเซล) พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์วัดแสง และเซ็นเซอร์วัดระยะห่าง พร้อมไฟ LED Notification ที่ด้านซ้ายของลำโพงสนทนา
ถัดลงมาใต้จอจะพบกับแผง Capacitive Button เริ่มจากปุ่ม Option ที่ด้านซ้าย และปุ่ม Back ที่ด้านขวา จัดวางขนาบข้างปุ่ม Home
ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นขอบโครเมียมชุบเป็นลายอลูมิเนียมขัดด้าน โดยที่ด้านขวา จะมีปุ่ม Power สำหรับเปิด – ปิดเครื่อง และใช้ในการล็อค/ ปลดล็อคหน้าจอ
ย้ายมาดูที่ด้านซ้ายจะพบกับปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม/ ลดเสียง และใช้ในการซูมภาพเข้า- ออก เมื่อใช้งานกล้อง
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบชุดหูฟังสเตอริโอมาตรฐานขนาด 3.5 มม. ส่วนจุดเล็กๆ คือช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน ถัดไปไม่ไกลจะพบกับ IR Blaster หรือพอร์ตอินฟราเรดสำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรล
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต micro USB สำหรับเสียบสายชาร์จและเชื่อมต่อสายดาต้าเพื่อซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ พร้อมรองรับเทคโนโลยี MHL ถัดไปจะเป็นช่องไมโครโฟนสนทนา
ด้านหลังของ Samsung Galaxy Mega 6.3 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ LED แฟลช 1 ดวงจัดวางอยู่ ในส่วนของฝาหลังยังคงเปิดออกมาเพื่อถอดแบต, ใส่ micro SIM และเพิ่ม microSD ได้เหมือนเคย
8 MP Digital Camera
Samsung Galaxy Mega 6.3 มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ LED แฟลช รองกับการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที สามารถถ่ายรูปตัวเอง และใช้งานวิดีโอคอลล์ผ่านกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับ UI ของกล้องจากมือถือ Samsung ในรุ่นหลังๆ จะมีหน้าตาเหมือนกับ UI ของ Galaxy Camera จะแตกต่างกันก็เพียงแค่ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีมาให้ลดหลั่นกันไปตามระดับราคา โดย Samsung Galaxy Mega 6.3 นั้นก็มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานกันมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นโหมด Auto, Panorama, Beauty Face, Best Photo, Best Face, Continuous shot, Sports, Night, Rich Tone (HDR) และขาดไม่ได้กับการถ่ายภาพนิ่งพร้อมเสียงอย่าง Sound & Shot และยังคงสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Buddy Photo Share ซึ่งใช้ระบบจดจำใบหน้า ให้เราสามารถแชร์ภาพถ่ายให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นเจ้าของใบหน้าในภาพถ่าย ซึ่งเราเคย Tag ข้อมูลเอาไว้ได้ทันที
Music Player
เครื่องเล่นเพลงของ Samsung Galaxy Mega 6.3 แบ่งการแสดงผลรายชื่อเพลงออกเป็นหมวดหมู่ ทั้งการแสดงตามอัลบั้ม, รายชื่อศิลปิน, เพลย์ลิสต์ และสามารถเลือกเล่นเพลงจากโฟลเดอร์ได้อย่างสะดวก พร้อมฟังก์ชั่น Sound Alive ซึ่งมีเอฟเฟ็คท์เสียงแบบพรีเซ็ทมาให้เลือกปรับแต่งหลากหลายแบบ หรือจะเลือกปรับอีควอไลเซอร์ด้วยตัวเองก็ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบ Adapt Sound ที่ช่วยปรับแต่งโทนเสียงให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพในการรับฟังเสียงผ่านหูฟังของเราโดยอัตโนมัติ
Connectivity
Samsung Galaxy Mega 6.3 รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ได้ทุกเครือข่าย และขาดไม่ได้กับชิป NFC ที่รองรับการใช้งานฟังก์ชั่น S Beam เพื่อแชร์ไฟล์มีเดียต่างๆ ด้วยความเร็วสูงผ่าน Wi-Fi Direct อีกทั้งยังมีพอร์ทอินฟราเรด (IR Blaster) ให้ใช้งานเป็น Universal Remote หรือรีโมทควบคุมทีวี หรืออุปกรณ์ต่างๆ พร้อมใช้งานร่วมกับโปรแกรม WatchON
Final Opinion & Conclusion
Samsung Galaxy Mega 6.3 ถือเป็น Phablet (Phone + Tablet) หรือสมาร์ทโฟนจอยักษ์ ที่ถูกปล่อยออกมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบหน้าจอขนาดใหญ่ ด้วยขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ HD 720p ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง อ่านอีบุ๊ค ได้เป็นอย่างดี ซึ่งใครที่มองว่าการพกพาแท็บเล็ตไปไหนต่อไหน มันดูเทอะทะจนเกินไป เชื่อว่า Samsung Galaxy Mega 6.3 จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณครับ
Strength
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 (Jelly Bean)
– จอ Super Clear LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด HD 720p
– CPU Dual core ความเร็ว 1.7 GHz พร้อม RAM 1.5 GB
– ความจำในตัว 16 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 64 GB
– กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p
– กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
– เครื่องเล่นเพลง รองรับการใช้งาน Group Play
– รองรับ 3G ทุกเครือข่าย, Wi-Fi, NFC
Weakness
– ฟังก์ชั่น S Voice, S Translator ไม่รองรับภาษาไทย
– ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวเครื่องก็เยอะตามไปด้วย
รูปตัวเครื่อง Samsung Galaxy Mega 6.3
รูปหน้าจอ Samsung Galaxy Mega 6.3
Pingback: Samsung ประกาศเปิดตัว Galaxy Mega 6.3 สีม่วง ที่ประเทศฮ่องกง