หายไป 1 เล่มเนื่องจากติดภารกิจเยอะมาก กลับมาเจอกันอีกครั้งผมขออัพเดทข่าวสารวงการ Smartphone กันหน่อย โดยวันนี้ผมขออัพเดทที่แบรนด์น้องใหม่อย่าง Lenovo ที่เริ่มเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยได้ 3 เดือนแล้ว โดยตัวแบรนด์เองต้องบอกว่าทุกคนที่จะซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คคงจะต้องรู้จักแบรนด์นี้กันเป็นอย่างดี เพราะตอนนี้ได้ข่าวว่าขึ้นแท่นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เบอร์ 1 ของโลกไปแล้วเรียบร้อย แต่ถ้ามาว่ากันในธุรกิจโมบายของทาง Lenovo แล้วต้องบอกว่าก็ไม่ได้น้อยหน้าทางฝั่ง PC เท่าไรเพราะว่าตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 4 ในด้านผู้ผลิต Smartphone ไปแล้วเรียบร้อย ทำให้แบรนด์ Lenovo ดูมีสีสันขึ้นมาทั้งทางฝั่งโมบายและ PC
ตลาดโมบายของ Lenovo ส่วนใหญ่จะไปโตที่ประเทศจีนบ้านเกิดเป็นหลัก ซึ่งไตรมาส 2 ที่ผ่านมาทาง Lenovo มีส่วนแบ่งในตลาด Smartphone ที่ประเทศจีนเป็นอันดับ 2 ของประเทศตามหลัง Samsung อยู่ไม่ไกลนัก นอกจากประเทศจีนแล้วทาง Lenovo ได้ออกมาเปิดตลาดในแถบประเทศเอเชียอีก 7 ประเทศรวมถึงฝั่งอเมริกาใต้ก็มีเข้าไปแล้ว สำหรับ 7 ประเทศที่ว่าก็มีประเทศไทยอยู่ในนั้นด้วย โดยก่อนหน้านี้เองทาง Lenovo ได้นำ Smartphone เข้าไปตีตลาดที่ประเทศอินโดนิเซียและฟิลิปปินส์ก่อน ซึ่งผลที่ออกมานั้นค่อนข้างดี เพราะแค่ 3 ไตรมาสก็สามารถกินส่วนแบ่งไปได้ราวๆ 11% เลยทีเดียว ฟังดูแล้วแบรนด์นี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ
การเริ่มเข้ามาที่ตลาดที่ประเทศไทยทาง Lenovo มีการใช้ Smartphone รวมทั้งหมดแล้ว 6 รุ่นและแบ่งเป็น 4 Series ด้วยกัน มีการแบ่งมาเลยตั้งแต่รุ่นราคาระดับล่างจนไปถึงบน เริ่มต้นตั้งแต่ 2,990 บาท ยัน 14,990 บาท โดยแต่ละรุ่นมีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผมจะไล่ให้ดูกันคร่าวๆ ทีละรุ่นครับ
A Series
Lenovo A390 Smartphone รุ่นล่างแต่ Spec ไม่ล่างสุด เพราะมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 4 นิ้ว WVGA, CPU Dual-Core, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล, Android 4.0 ICS และมีการออกแบบที่เน้นรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่เปิดราคาแค่ 2,990 บาทเท่านั้น เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวและน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดแล้วของ Lenovo ในเวลานี้
A Series
Lenovo A390 Smartphone รุ่นล่างแต่ Spec ไม่ล่างสุด เพราะมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 4 นิ้ว WVGA, CPU Dual-Core, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล, Android 4.0 ICS และมีการออกแบบที่เน้นรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่เปิดราคาแค่ 2,990 บาทเท่านั้น เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวและน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดแล้วของ Lenovo ในเวลานี้
Lenovo A706 เป็นรุ่นอัพเกรดขึ้นมาจาก A390 มีการใส่หน้าจอขนาดใหญ่มากขึ้นเป็น 4.5 นิ้ว FWVGA, CPU Quad-Core, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash, ระบบเสียง Dolby Sound และ Android 4.1 Jelly Bean ด้วยการเปิดราคาที่ 5,990 บาทเท่านั้น
S Series
Lenovo S920 เป็น Smartphone ที่เน้นทางด้านการออกแบบให้บางและดูเป็นแฟชั่น เหมาะกับทุกเพศทุกวัยและมาพร้อมกับความบาง 7.9 มม. พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 5.3 นิ้ว 720p IPS LCD, CPU Quad-Core, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลและมาพร้อมกับ Android 4.2 Jelly Bean โดยเปิดราคาที่ 9,990 บาทเท่านั้น
Lenovo S820 ยังเป็น Smartphone ที่เน้นการออกแบบให้บางและเป็นแฟชั่นเหมือนกัน แต่มีขนาดความหนากว่าที่ 8.85 มม. พร้อมกับหน้าจอขนาดเล็กลงเหลือ 4.7 นิ้ว 720p IPS LCD, CPU Quad-Core, Android 4.2 Jelly Bean แต่มาพร้อมกล้องความละเอียดสูงที่ 13 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash แต่เปิดราคาที่ 9,990 บาทเท่ากันกับ S920 เลย หุหุ
P Series
Lenovo P780 แตกต่างไปอีก Series แต่ตัวนี้มีจุดขายที่ดีที่สุดของ Smartphone ในเวลานี้ นั่นก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใส่มาให้เต็มถึง 4,000 mAh มากสุดในตลาดเวลานี้ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว 720p IPS LCD, CPU Quad-Core, กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, วัสดุฝาหลังเป็นเหล็กและมาพร้อมกับ Android 4.2 Jelly Bean ทั้งหมดนี้ด้วยราคา 9,990 บาท เหมือนกับ S920 และ S820 เป๊ะ
K Series
Lenovo K900 รุ่นท็อปที่สุดของทาง Lenovo ในตอนนี้ ตัวเครื่องมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคนอื่นเลยก็คือเรื่องของ CPU ที่เป็นสถาปัตยกรรมจากทางฝั่ง Intel ซึ่งจะแตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆในตลาดทั้งหมด โดยถ้าให้เทียบจริงๆ แล้วตัว CPU รุ่นนี้ถึงแม้เป็น Dual-Core 2.0 GHz แต่ความเร็วเทียบเท่ากับ Quad-Core รุ่นท็อปอื่นๆ อย่าง HTC One, LG Optimus G Pro เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ตัว CPU มีความสามารถ Hyper threading ได้ถึง 4 Cores นั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีจุดขายในเรื่องของวัสดุที่เป็นอลูมิเนียม, กล้อง 13 ล้านพิกเซล Sony Exmor RS f/1.8 และมาพร้อมกับ Android 4.2 Jelly Bean
อ่านมาถึงตรงนี้คงจะเห็นกันได้ชัดครับว่า Lenovo มีทั้งตัวที่เป็น Hero และตัวที่ทำการตลาดแปลกๆ อย่างเช่นการตั้งราคาเท่าๆ กันของเครื่องทั้ง 3 รุ่น ทำให้เอาจริงๆ แล้วก็มีทั้งส่วนดีและส่วนที่ผมมองว่าแย่ เพราะมันจะทำให้เครื่องบางรุ่นไม่สามารถขายได้เลย แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะไปได้ดีทั้ง 3 รุ่นเลยก็ได้ เรื่องแบบนี้ต้องรอพิสูจน์ ส่วนเรื่องของการตลาดตอนนี้เอาตรงๆผ่านมา 3 เดือนผมยังไม่เห็นเท่าไรนัก เปิดตัวเสร็จก็เงียบไปเลย เราแทบไม่เห็นสื่อโฆษณาใหญ่ๆ จริงๆ เท่าไรนัก อย่างมากก็เห็นที่หน้าร้านบางร้านที่ก็ไม่ได้เยอะมาก ดังนั้นนี่คือการบ้านของ Lenovo ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้คนเห็น Smartphone จาก Lenovo มากขึ้น สลัดภาพ PC ทิ้ง และสื่อถึงแบรนด์ Lenovo ที่มีความใหญ่โตและมีคุณภาพที่ดี รวมถึงเรื่องของราคาที่ไม่แพงเหมาะสมกับ Spec
อีกอย่างที่ต้องฝากทิ้งไว้ก่อนจบก็คือเรื่องของ Service ที่ตอนนี้ผมมองว่าทาง Lenovo ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก เท่าที่ตรวจสอบมาศูนย์บริการค่อนข้างน้อย บวกกับมี feedback มาเหมือนกันว่าไม่สามารถช่วยเหลือลูกค้าได้จริง ดังนั้นนี่เป็นการบ้านข้อ 2 ของ Lenovo ที่ต้องปรับตัวในส่วนของ Service เพื่อตอบรับกับยอดขายที่จะตามมาในอนาคต เพราะแบรนด์นี้ผมเชื่อว่ามันต้องเดินเข้ามาติด 1 ในแบรนด์ที่น่าสนใจแน่นอน วันนี้ก็ขอฝากไว้เท่านี้ สวัสดีครับ
