หลังจากข่าวเปิดตัวชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 นั้นออกมาแล้ว ตอนนี้ข้อมูลสเปคแบบเต็มๆก็ออกมาแล้วเรียบร้อยแต่เราจะจัดข้อมูลที่ควรรู้แบ่งออกเป็น 5 อย่างด้วยกันตามนี้ครับ
เทคโนโลยีที่อัพเกรดทั้งกระบวนการผลิตแลละแกนประมวลผล
Snapdragon 845 มาพร้อมแกนประมวลผล Kryo 385 ตัวใหม่ล่าสุดพร้อมกับแกนประมวลผลกราฟฟิก Adreno 630 และยังไม่พอเท่านั้น ชิพยังผลิตบนเทคโนโลยีการผลิตจากซัมซุงขนาด 10 นาโนเมตรที่ชื่อว่า 10nm LPP FinFET ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนาต่อจาก 10nm FinFET LPE ที่ใช้ใน Snapdragon 835 งานนี้บอกเลยว่าทั้งประสิทธิภาพการทำงานและการกินไฟนั้นดีกว่าเดิมราวๆ 10-15% เลยทีเดียว
และยังไม่จบแค่นั้น Kryo 385 ยังอยู่บนสถาปัตยกรรมชิพประมวลผล Cortex A75 และ A55 ตัวล่าสุด และเทคโนโลยี Dynamic IQ big.LITTLE ที่รองรับการส่งข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นและสามารถสร้างจำนวนแกนประมวลผลต่อคลัสเตอร์ได้อย่างอิสระแล้ว โดยรวมนั้นประสิทธิภาพดีกว่ารุ่น 835 ถึง 25% เลยทีเดียว
ทางด้านชิพประมวลผลกราฟฟิก Adreno 630 ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 30% และประหยัดไฟมากขึ้น รองรับการแสดงผล AR/VR/XR เต็มรูปแบบ และหน้าจอขนาด 2K x 2K 20Hz อีกด้วยงานนี้นำไปใช้บนแลปท็อปก็เหลือๆเลยล่ะ
รองรับการประมวลผล AI ได้ดีขึ้น (แต่ไม่ได้ใส่ชิพประมวลผล AI เข้ามานะ)
ทาง Qualcomm ก็ยังคงปฏิเสธที่จะนำชิพประมวลผล AI รวมเข้ามาใน Snapdragon 845 แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถประมวลผล AI ได้ซะทีเดียว เพราะว่าชิพ DSP รุ่นใหม่ Hexagon 685 นั้นรองรับการประมวลผล AI และการโปรเซสผลภาพได้ดีกว่ารุ่น 835 ถึง 3 เท่าด้วยกัน (รวมถึง Google’s Android Nueral Networks API ที่จะใช้ได้บน Android 8.1 ด้วยนะ)
พร้อมทั้ง Qualcomm Aqstic Audio Codec บนชิพ WCD9341 ที่จะช่วยในเรื่องการประมวลผล Keyword processing, Virtual Assistant และรองรับการเล่นไฟล์ออดิโอแบบ Lossless 32bit 384 kHz PCM / DSD64,128 รับรองว่าจัดเต็มด้านเสียงเหมือนกัน
ชิพประมวลผลภาพถ่ายที่จัดหนักจัดเต็มกว่าเดิม พร้อมรองรับมัลติมีเดียใหม่ๆในอนาคต
ด้านมัลติมีเดียก็มีชิพประมวลผลภาพตัวล่าสุดอย่าง Spectra 280 Image Signal Processor งานนี้ใครที่เป็นสายถ่ายภาพจากกล้องมือถือขอบอกว่าเล่นได้เยอะกว่าเดิมแน่นอน ทั้งการรองรับการถ่าย Slow motion 480fps บนวิดีโอขนาด 720p, การอัดวิดีโอ 60fps บนความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ความสามารถในการเก็บรายละเอียดสีมากกว่าเดิมถึง 64 เท่า(สำหรับประมวผล XR) และทางด้านการลดน้อยส์ EIS การประมวลผลภาพก็เร็วขึ้นกว่าตัวก่อน
การเล่นมัลติมีเดียนั้นรองรับการแสดงผลวิดีโอ HDR10 และการแสดงผลสี Rec.2020 สำหรับวิดีโอ 4K แต่จอแสดงผลก็ต้องรองรับด้วยนะ
แน่นอนว่ามัลติมีเดียใหญ่ขนาดนี้ การรับส่งข้อมูลก็ต้องจัดเต็มตามด้วยชิพโมเด็ม X20 ที่รองรับ 4G LTE Cat.18 ความเร็วสูงถึง 1.2Gbps สำหรับดาวน์โหลดและ 150Mbps สำหรับอัพโหลด, รองรับการรวมสัญญาณ 5CA, 4×4 MIMO และการเปิด 4G พร้อมกันทั้งสองซิม (Dual Sim-dual VoLTE)
ส่วน WiFi นั้นรองรับถึงมาตรฐาน 802.11ad ที่มีความเร็วสูงถึง 4.6Gbps และ 802.11ac ที่มากับฟีเจอร์ที่สามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อได้เร็วกว่าเดิมถึง 16 เท่า
ด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์เสริม
คราวนี้มีฮาร์ดแวร์ที่จะช่วยคามสมาร์ทโฟนมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย Secure Processing Unit (SPU) ที่ทำหน้าที่เป็นคลังกับข้อมูล Biometric เช่นลายนิ้วมือ ม่านตา หรือใบหน้าซึ่งจะถูกใช้งานโดยซอฟต์แวร์จาก Qualcomm เท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลรหัสผ่าน และมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีทางูกเข้าถึงจากซอฟต์แวร์อื่นๆหรือแม้กระทั่งระบบปฏิบัติการก็ตาม
ต่อด้วยฟีเจอร์ที่ทุกคนล้วนประทับใจนั่นก็คือ Quick Charge 4+ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีประสิทธิภาพและเร็วกว่ารุ่นก่อน พร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 พ่วงด้วย aptX, aptX HD สำหรับคือเพลงที่ชอบใช้หูฟังไร้สาย และรองรับฟีเจอร์ Audio Broadcast ให้กับอุปกรณ์หลายๆตัวอีกด้วย
ทั้งหมดนี้จะมีพร้อมให้ใช้งานในปี 2018 บนสมาร์ทโฟน และแลปท็อป
ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 ที่ความสามารถเพียบพร้อมทั้งความเร็ว และการเชื่อมต่อความเร็วสูงระดับ pre-5G และมัลติมีเดีย VR/AR/XR แบบครบๆขนาดนี้ จะได้เห็นบนสมาร์โฟนและแลปท็อปในปี 2018
โดยในตอนนี้สมาร์ทโฟนที่ได้รับการยืนยันว่าจะใช้ชิพนี้อย่างแน่นอนแล้วก็คือ Xiaomi Mi7 ส่วนสมาร์ทโฟนแบรนด์ใหญ่ๆอย่าง Samsung, LG คงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ในด้านแลปท็อปนั้นยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดแต่ก็พอจะได้เห็นแลปท็อปวินโดส์ที่ใช้ชิพนี้ในปี 2018 กันอย่างแน่นอน รอติดตามข่าวสารในช่วงนี้กันให้ดี
อ้างอิง AndroidAuthority Qualcomm