สมาร์ทโฟนตระกูล Redmi ถือเป็นซีรี่ย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ด้วยความเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ วัสดุดี ดีไซน์สวยงาม และมาถึง Redmi Note 9 ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ยังคงสืบทอดความเป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเป็คคุ้มค่า รองรับการใช้งานครบครัน ทั้งในด้านการถ่ายภาพด้วยกล้อง 48 ล้านพิกเซล จอแสดงผลขนาดใหญ่ สีสันสวยงาม เรามาเจาะลึกกันเลยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีดีอย่างไร
แรงเต็มขั้นด้วยหน่วยประมวลผลความเร็วสูง
Redmi Note 9 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ทำงานด้วยชิพเซ็ต MediaTek Helio G85 สถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตร ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลที่แรง แต่ในขณะเดียวกันก็มีระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ ตัวชิพมีหน่วยประมวลผล 8 แกน ความเร็วสูงถึง 2.0 GHz อีกทั้งยังมีชิพประมวลผลภาพ 3D อย่าง Mali-G52 GPU ที่ช่วยในการประมวลผลภาพขณะเล่นเกม ทำให้คุณเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด และยังมีโหมด Game Turbo ที่จะช่วยจัดการระบบแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้มารบกวน พร้อมทั้งเคลียร์พื้นที่หน่วยความจำ และใช้งาน CPU, GPU ให้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงไม่ต้องกังวลว่าการเล่นเกมจะสะดุด
หน่วยความจำของรุ่นนี้ยังมีมาให้อย่างเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็น RAM ขนาด 4GB และ ROM ขนาด 128 GB อีกทั้งยังเพิ่มหน่วยความจำภายนอกอย่าง microSD ได้อีกตามต้องการ และถาดใส่ซิมการ์ดยังมี 3 ช่องแยกระหว่าง SIM1, SIM2 และ microSD จึงไม่ต้องสลับกับซิมการ์ดให้วุ่นวายเหมือนกับรุ่นอื่นๆ
ระบบปฏิบัติการ MIUI 11 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดก็ถูกพัฒนาให้มีความน่าใช้งาน พร้อมปรับปรุงให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เฟส และความง่ายในการใช้งาน สามารถปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ไอคอนการใช้งานได้ด้วย Theme ที่มีแบบใหม่ๆ ให้ดาวน์โหลดเรื่อยๆ เลือกปรับเปลี่ยนได้ไม่รู้เบื่อ
คุณภาพ และวัสดุเกินราคา
ดีไซน์ของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่าย แต่สวยงาม หน้าจอแสดผลขนาดใหญ่ 6.53 นิ้วแบบ Dot display จอภาพมีความละเอียดสูงระดับ FHD+ มีขนาดใหญ่ ให้สีสันสวยงาม คมชัด และยังเลือกใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงขีดข่วน ไม่เป็นรอยได้ง่ายๆ จอแสดงผลยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ในเรื่องของความปลอดภัยจากแสงสีฟ้า ซึ่งจะช่วยถนอมสายตาขณะใช้งาน และยังมี Reading mode 2.0 โดยจอภาพจะปรับสี และความสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับการอ่านนานๆ
ตัวเครื่องยังมีให้เลือกถึง 3 สี ไม่ว่าจะเป็น Midnight Grey, Forest green, และ Polar White โดยวัสดุที่ใช้เป็นแบบสีด้าน เมื่อจับแล้วจะไม่ค่อยปรากฎรอยนิ้วมือ และไม่ต้องเช็ดบ่อยๆ ภายในกล่องยังมีเคสแถมมาให้ด้วย ส่วนของหน้าจอก็มีฟิล์มกันรอยติดมาให้จากโรงงาน จึงไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเติมให้เสียเวลา
คมชัดทุกระยะด้วยกล้อง 4 เลนส์ ถ่ายภาพประทับใจ ไม่พลาดทุกช็อต
Redmi Note 9 ยังมาพร้อมกล้องถึง 4 ตัวเหมือนกับรุ่น Note 9 Pro และยังมีระบบ AI ที่ช่วยถ่ายภาพได้สวยขึ้น ซึ่งระบบจะช่วยปรับแสง และสีสันของภาพให้ดูสวยงามสมจริง โดยกล้องหลักความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล f/1.79, กล้อง Ultra wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่เก็บภาพได้กว้างถึง 118 องศา f/2.2, กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ก็มีความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล
สำหรับกล้องความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซลเหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการความละเอียดสูง แต่หากต้องการภาพที่สว่างสวยงามก็สามารถปรับไปถ่ายได้ในโหมดธรรมดา 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นการรวม 4 พิกเซลเป็น 1 พิกเซลเพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น
การถ่ายภาพในโหมด Portrait โดยอาศัยเลนส์ Depth ที่จะเข้ามาช่วยละลายฉากหลัง ทำให้การถ่ายภาพบุคคลดูโดดเด่น สมจริงเหมือนกับการถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR ราคาแพง ซึ่งเป็นโหมดที่สาวๆ ถูกใจมาก นอกจากนี้ยังมีเลนส์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างเลนส์ Super Macro ที่สามารถถ่ายได้ใกล้สุดถึง 2-10 ซม. ซึ่งถือว่าถ่ายได้ใกล้ที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ และยังมีระบบออโต้โฟกัสที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะใกล้ได้คมชัดมากยิ่งขึ้น ส่วนการถ่ายภาพด้วยเลนส์ Ultra Wide ก็จะได้ภาพที่มีมุมกว้างมากขึ้น เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และถ่ายในที่แคบๆ ซึ่งสามารถเก็บภาพได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องถอยไปไกลๆ
โหมดการถ่ายภาพก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Night, Panorama, Pro, Timelapse, Slow motion ส่วนการถ่ายวิดีโอก็ทำได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p สำหรับโหมดการถ่าย Portrait น่าจะถูกใจสาวๆ ที่สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ มีโหมด Beauty ช่วยปรับความเนียนของใบหน้าได้ด้วย
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่สะใจ ชาร์จเร็วทันใจด้วยกำลังไฟ 18 วัตต์
ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5020 mAh ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุดถึง 2 วัน จึงไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดระหว่างวัน และด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ก็ยังสามารถแบ่งปันพลังงานด้วยการชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านสาย USB ได้ด้วยฟีเจอร์ Reverse charging ไม่ว่าจะเป็นชุดหูฟังบลูทูธ, Smartwatch หรือแม้กระทั่งชาร์จแบตให้กับสมาร์ทโฟนของเพื่อนๆ ได้ด้วย ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟสูงสุด 18 วัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วด้วยอแดปเตอร์ที่มีมาให้ในกล่อง ที่ไฟได้ถึง 22.5 วัตต์ สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับได้
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจของ Redmi Note 9
สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ของรุ่นนี้ก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย อย่างเช่นระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเครื่องก็มีระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งปกติเมื่อถือใช้งาน นิ้วชี้จะอยู่บริเวณนั้นอยู่แล้ว ทำให้สแกนนิ้วปลดล็อคเครื่องได้อย่างรวดเร็วกว่าแบบที่อยู่ด้านหน้า และหากต้องการความสะดวกรวดเร็วก็ยังสามารถปลดล็อคได้ด้วยใบหน้าได้อีกด้วย
IR Blaster หรือพอร์ตอินฟราเรด ใช้งานร่วมกับแอพฯ Mi Remote สามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมท สั่งงานได้ทั้งทีวี เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ กล่องรับสัญญาณทีวี ฯลฯ และสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง ตัวเครื่องก็ยังมีแจ็ค 3.5 มม. สำหรับใช้งานร่วมกับชุดหูฟังทั่วไป ไม่ต้องหาตัวแปลงให้เสียเวลา นอกจากนี้แล้วยังมีวิทยุ FM ที่มีเสาอากาศในตัวเครื่อง ไม่ต้องเสียบชุดหูฟังรับสัญญาณให้เกะกะ และยังกดบันทึกเสียงจากวิทยุ FM เก็บไว้ฟังได้อีกด้วย
สรุปราคา Redmi Note 9
รุ่น RAM 3 GB, ROM 64 GB ราคา 4,999 บาท พร้อมรับฟรีของแถมสุดพิเศษ Xiaomi Mi Casual Daypack มูลค่ารวม 299 บาท (ของมีจำนวนจำกัด) (Online Exclusive)
รุ่น RAM 4 GB, ROM 128 GB ราคา 6,499 บาท พร้อมรับฟรีของแถมสุดพิเศษ Xiaomi Mi Casual Daypack มูลค่ารวม 299 บาท (ของมีจำนวนจำกัด)
วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่าน แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ JD CENTRAL, Shopee, Lazada รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ