หน้าหนาวปีนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ แต่ก็ยังเป็นช่วงเทศกาลของการท่องเที่ยวปลายปีที่เหมาะสมที่สุด อีกทั้งยังมีวันหยุดยาวให้เราได้ลาพักร้อนเพื่อผ่อนคลายหลังจากทำงานหนักมาทั้งปี ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวเราอาจจะต้องมานั่งวางแผนการท่องเที่ยวกันบนกระดาษ หรือใช้งานหลายๆ แอพฯ เพื่อจัดการการท่องเที่ยว ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก เครื่องบิน เช่ารถ ขับรถ ของที่ต้องเอาไป ยารักษาโรค และการหาอ่านรีวิวจากที่ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่มากสำหรับการเตรียมตัวแต่ละครั้ง
Google ได้เล็งเห็นถึงธุรกิจท่องเที่ยวที่สามารถเอามาเพิ่มมูลค่าให้กับระบบแผนที่ของตัวเอง (Google Maps) จึงได้ทำแอพฯ ออกมาชื่อว่า Google Trips แอพฯ นี้มีหน้าที่ในการจัดการการท่องเที่ยวของเราแทบจะทั้งหมด ตั้งแต่เส้นทาง การจดบันทึกไปจนถึงการถ่ายรูปแล้วอัพโหลดไปให้เพื่อนๆ ดูได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากแอพฯ นั้นเป็นแอพฯ ที่เพิ่งจะพัฒนาขึ้นมาใหม่ เราอาจจะต้องใช้ข้อมูลต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษอยู่ แต่คงมีข้อมูลภาษาไทยเพิ่มเข้าไปอีกเรื่อยๆ จนกลายเป็นแอพฯ ที่น่าใช้
การจัดการข้อมูลของ Google Trips
แอพฯ Google Trips นั้นเป็นการรวมข้อมูลของ Google Maps ว่ามีใครไปที่ไหนบ่อยๆ บ้าง การรวมเอา Google Local Guide เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการท่องเที่ยว และสุดท้ายคือ Gmail ในการใช้ AI ดึงเอาข้อมูลอีเมล์ของเราออกมาวิเคราะห์ว่านี่คืออีเมล์ของอะไร เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองที่พัก การจองรถเช่า เมื่อมีอีเมล์ยืนยันส่งมาที่เรา (เฉพาะ Gmail) ระบบจะทำการคัดกรองแล้วเอามาแสดงในแอพฯ พร้อมกับเพิ่มเข้าปฏิทินให้เราด้วยว่ามีการนัดหมาย หรือการเดินทางไปที่ไหนบ้าง เพื่อให้เราไม่พลาดการเดินทางต่างๆ และเอาข้อมูลที่ได้นี้มาใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวของเราได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทาง Google ดึงมาให้เรานั้นดูง่ายยิ่งกว่าอีเมล์ของต้นฉบับเสียอีก บางครั้งเราได้รับอีเมล์จากสายการบินอาจจะดูไม่ออกว่าต้องเดินทางเมื่อไหร่ เข้าเกตไหน ตึกไหน ให้เราได้ทราบในแอพฯ ทันที
เริ่มต้นการใช้งาน Google Trips ได้ง่ายๆ
เราสามารถดาวน์โหลดแอพฯ มาใช้งานได้แล้วโดยมีเวอร์ชั่นของ Android และ iOS ให้เลือกใช้ ซึ่งก็ครอบคลุมมือถือกว่า 98% ในตอนนี้ หลังจากดาวน์โหลดแล้วเราต้องเปิดใช้งานโดยการใช้บัญชี Gmail ของ Google เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานแบบไม่มีบัญชีได้เลย ซึ่งตัวแอพฯ เองก็พัฒนามาจาก Google จึงไม่แปลกที่เราจะต้องใช้บัญชีนี้เป็นหลัก หลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้วจะมีเมนูหลักๆ อยู่ 8 เมนู มีรายละเอียดดังนี้

Reservations
เป็นข้อมูลการจองต่างๆ ของเราไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถเช่า รถไฟ รถเมล์ ที่พัก จองร้านอาหาร มีให้เราเลือกใช้งาน เริ่มต้นโดยการกดเครื่องหมาย + แล้วเลือกว่าจะลงข้อมูลการจองอะไร ตั้งแต่วัน เวลา สถานที่ เที่ยวบิน เวลาออก รหัสการจอง พร้อมกับแสดงแผนที่ของสถานที่นั้นๆ ว่าเราต้องเดินทางไปที่ไหน สาขา ตำแหน่งถูกต้องหรือไม่ ระบบจะดึงเอาข้อมูลพื้นฐานมาให้ เช่น เบอร์โทรร้าน ข้อมูลการติดต่อ ไปจนถึงกดเพื่อดูแผนที่ให้ได้เลย การลงข้อมูลการจองนี้มีประโยชน์ตรงที่เราสามารถตรวจสอบการชำระเงินของเราได้อย่างครบถ้วนในหน้าจอเดียว แถมยังแชร์ข้อมูลไปให้คนอื่นได้อย่างง่ายดายด้วย เผื่อว่าเพื่อนจะตามมารับ มาส่ง นัดทานข้าวกัน ก็ส่งข้อมูลการจองต่างๆ ไปให้เพื่อนของเราได้ทันที แถมยังเป็นหลักฐานสำหรับให้ ต.ม. ดูเวลาเราเดินทางไปต่างประเทศได้อีกด้วย
- ในส่วนของการจองเราจะมีการดึงข้อมูลจาก Gmail มาให้ แต่ถ้าไม่มีต้องสร้างเอง
- สร้างการจองได้เองตามประเภทบริการที่เราต้องการ
- จะต้องระบุข้อมูลการเดินทางของเราลงไปให้ครบถ้วน
- การจองห้องพัก จะมีแผนที่เพิ่มเข้ามาให้เราเลือก
- การจองร้านอาหารจะมีเวลาจอง โต๊ะ เบอร์โทรให้เราทราบด้วย
- เมื่อลงข้อมูลครบถ้วนเราจะได้ตารางการจองแบบนี้ขึ้นมา
- ข้อมูลที่ได้นี้สามารถแชร์กับเพื่อนได้ด้วย
Things to do
เป็นข้อมูลเพื่อแนะนำว่าเราควรจะไปที่ไหนดีซึ่งระบบจะดึงเอาข้อมูลการท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญของสถานที่นั้นๆ มาให้เราเลือกอ่าน โดยจะแบ่งออกไปตามกลุ่มของกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาล วัด อุทยาน ร้านค้า พิพิธพันธ์ ตลาดนัด ตลาดสด ตลาดน้ำ กิจกรรมในอาคาร ห้างสรรพสินค้า กิจกรรมนอกสถานที่ สถานที่เที่ยวสำหรับเด็ก สถานที่เที่ยวสำหรับคนแก่ ฯลฯ เมื่อกดเข้าไปดูในรายการนั้นๆ เราจะเห็นข้อมูล (บางที่เริ่มมีภาษาไทยแล้ว) แผนที่ เบอร์โทร วันเวลาเปิดปิด วันที่มีคนไปเที่ยว เวลาที่คนไปเที่ยวมากที่สุด (อ้างอิงจากการนำทางไปสถานที่ และการเช็คอินสถานที่นั้นๆ) คะแนนการรีวิว และรีวิวจริงจากผู้ที่ไปเที่ยว ซึ่งจะมีข้อแนะนำ ส่วนลด การเตรียมตัวในการไปเที่ยวให้เราเลือกอ่านอย่างจุใจ
- รายการสถานที่ และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจรอบๆ เมืองที่เราไป
- กดเข้าไปมีรายละเอียดต่างๆ ให้เราอ่านอย่างละเอียด หลายอันมีภาษาไทยให้ด้วย
- กดดาวด้านบนเพื่อเก็บเข้าสู่จุดหมายที่เราอยากไป
- มีการแบ่งหมวดหมู่ต่างๆ ตามที่เราสนใจ
- กดดูทั้งหมดให้แสดงบนแผนที่เพื่อเลือกดูง่ายขึ้น
เมื่อเราต้องการไปเที่ยวที่ไหนจากการแนะนำของแอพฯ หรือจากการค้นหาสถานที่ในแอพฯ ให้กดที่ไอค่อนดาวหลังชื่อสถานที่ (จะกลายเป็นดาวสีเหลือง) จากนั้นสถานที่นั้นๆ จะอยู่ในจุดที่เราสนใจทันที เมื่อกดไอค่อนแผนที่ด้านบน ระบบจะแสดงแผนที่ของเมืองที่เราเดินทางไป พร้อมกับจุดบอกสถานที่ต่างๆ ให้เราทราบอย่างสวยงาม เราสามารถกดดู และวางแผนในการท่องเที่ยวอย่างคร่าวๆ ได้
Saved places
ส่วนนี้จะเป็นสถานที่ที่เราได้เลือกเอาไว้แล้วว่าน่าสนใจ อยากจะไปเที่ยว แต่ยังไม่อยู่ในรายการที่เราต้องไปให้ได้ เหมือนเป็นการรีวิวก่อนว่าเราจะวางแผนอย่างไรบ้าง จะไปอย่างไรได้บ้าง และกดดูแผนที่ว่าอยู่ที่ไหน จุดไหน
- รายการสถานที่ที่เราอยากไปจะขึ้นมาโชว์ในหน้าจอนี้
- กดดูแผนที่เพื่อบอกว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน พร้อมเชื่อมโยงไปสถานที่อื่นๆ ได้
Day plans
ส่วนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้งานแอพฯ นี้วางแผนการเที่ยว เพราะเป็นการดึงเอาข้อมูลทั้งหมดที่เราได้ใส่เข้าไปตั้งแต่เริ่มการเดินทางไปจนถึงสถานที่ต่างๆ Google จะมี AI ในการวิเคราะห์เส้นทางต่างๆ ของการท่องเที่ยวเพื่อสร้างตารางเที่ยวในหนึ่งวันให้เรา โดยอาจจะระบุไปว่าเที่ยวเต็มวัน ครึ่งวัน หรือเที่ยวเฉพาะกลางคืนก็ได้ ที่เราเห็นในหน้าจอคือเส้นทางการเที่ยวสำเร็จรูปที่อ้างอิงจากสถานที่ต่างๆ ที่เราสนใจเอาไว้ พร้อมบอกด้วยว่าเดินทางกี่โมง เที่ยวแต่ละจุดกี่นาที พร้อมกับอ้างอิงตามเวลาปิด/เปิด ของสถานที่นั้นๆ ให้ด้วย ไม่มีการพาเราไปเที่ยวมั่วๆ
แต่อย่างไรก็ตามการแนะนำที่เที่ยวนี้จะเป็นการสร้างจากระบบอัตโนมัติขึ้นมาให้ บางครั้งอาจจะไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ เราก็สามารถเลือก ปรับแต่งการเดินทางของเราได้ง่ายขึ้นด้วย ในตัวอย่างเป็นการเดินทางไปเที่ยวกรุงเทพ ทำให้มีสถานที่ต่างๆ ขึ้นมาเยอะมากจนน่าปวดหัว แต่ถ้าเราไปต่างจังหวัด เช่น น่าน อยุธยา หรือว่าเชียงราย ซึ่งเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก เราก็อาจจะเข้าใจระบบการทำงาน และเลือกสถานที่เที่ยวได้อย่างลงตัวมากขึ้นด้วย
- Day plans จะเป็นการจัดตารางเที่ยวต่อหนึ่งวัน เต็มวัน และเที่ยวกลางคืน
- ระบบจะสร้างเส้นทางจากสิ่งที่เราสนใจ
- มีเส้นทางต่างๆ ให้เลือกศึกษาข้อมูลเยอะมาก
- เมื่อกดดูจะมีรายละเอียดการเดินทาง การหยุดพัก การแวะจุดต่างๆ ให้เราทราบ
- ที่ไหนปิดบริการ ที่ไหนเปิดกี่โมง ไม่ต้องเดา เพราะในแอพฯ มีแจ้งให้ทั้งหมด
สำหรับการวางแผนการเที่ยวก็จะจบแค่ส่วนของ Day plans นี้เท่านั้น แต่แอพฯ ยังมีส่วนที่เหลืออีก 4 ส่วนที่น่าสนใจ และน่าใช้งานอีก มีดังนี้
Discount
เป็นข้อมูลเกี่ยวกับส่วนลด ซึ่งดึงข้อมูลมาจากแอพฯ จองตั๋วต่างๆ เป็นการใช้ส่วนลดเมื่อจองผ่านแอพฯ ในประเทศไทยนั้นอาจจะหาข้อมูลตรงนี้ได้ยาก แต่ถ้าเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศจะมีส่วนลดสำหรับการจองผ่านแอพฯ ให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเข้าสถานที่ต่างๆ การแสดงโชว์ การจองเข้าสวนสนุก การเข้าใช้กิจกรรมต่างๆ นั้นจะมีส่วนลดให้นักท่องเที่ยวเสมอ แต่ถ้าเดินทางไปจองหน้างานอาจจะเจอราคาเต็มได้ ในประเทศไทยที่เห็นชัดจะเป็นบัตรเข้าสถานที่ต่างๆ ในห้าง จะมีส่วนลดให้
- หน้าจอหลักของส่วนลด ส่วนใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า
- กดดูรายละเอียดการท่องเที่ยว และส่วนลดจากที่ต่างๆ ได้
- อีกหลายๆ สถานที่ซึ่งเรากดเพื่อไปดูส่วนลด และของตั๋วได้ผ่านแอพฯ ภายนอก
Food & Drink
ถ้ามาเที่ยวแล้วไม่รู้จะกินอะไรดี ทาง Google จัดเรียงข้อมูลสถานที่กินดื่มมาให้เราค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม กาแฟ ผับ มีการจัดกลุ่มพร้อมกับข้อมูลการเปิด/ปิด สถานที่ต่างๆ ของร้านค้าให้เราเลือกเที่ยวได้อย่างจุใจ
- ส่วนของอาหารเป็นส่วนที่สนุกที่สุด มีอาหารให้เลือกเยอะมาก
- แผนที่ เบอร์โทร จองโต๊ะ เวลาทำการ มีให้เราอ่านอย่างจุใจ
- อยากหาร้านค้าที่ตรงใจก็ต้องทำความเข้าใจประเภทการให้บริการในเมืองนั้นๆ ก่อนด้วย
Getting around
เป็นข้อมูลเมื่อเราเดินทางไปถึงสถานที่นั้นๆ แล้ว ถ้าทำอะไรไม่ถูก จะไปที่ไหนต่ออย่างไร ก็แค่เข้าที่ส่วนนี้แล้วเลือกอ่านข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดมาก ตั้งแต่การขึ้นรถโดยสาร แท็กซี่พร้อมราคาคร่าวๆ Uber Grab ก็มีให้เลือก การขึ้นรถไฟฟ้าทุกสาย ทางด่วน รถไฟ เรือโดยสาร ฯลฯ มีรายละเอียดให้เราอ่าน (เป็นภาษาอังกฤษ) เพื่อช่วยให้เราวางแผนการเดินทางที่ง่ายกว่าเดิม
- หน้าจอแรกของ Getting around บอกว่าเราเดินทางกับอะไรได้บ้าง
- การขึ้นรถไฟฟ้า ได้ที่ไหน ออกตั๋วอย่างไร ค่าโดยสาร มีข้อมูลให้ครบหมดแล้วทุกสาย
- จะนั่งแท็กซี่ Grab หรือว่า Uber ก็มีข้อมูลคร่าวๆ ให้ อย่างน้อยก็ไม่โดนชาร์จเกินกว่าที่แนะนำไว้
Need to know
เป็นข้อมูลส่วนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับตำรวจ สถานี ตำรวจท่องเที่ยว โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด การเงิน ธนาคาร ไปจนถึงเราจะหาอินเตอร์เน็ตที่ไหนใช้งานได้ โดยจะมีคำแนะนำให้เราในการปฏิบัติตัว และการจ่ายเงินที่ถูกต้องด้วย เช่น ร้านอาหารที่มีค่าบริการ 10% อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องให้ทิป แต่ถ้าเป็นรถตุ๊กตุ๊กผู้โดยสารควรให้ทิปเป็นน้ำใจแก่คนขับด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละเมือง ประเทศ ที่เราเดินทางไป
- ตัวอย่างข้อมูลการติดต่อกับตำรวจ โรงพยาบาล และอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์
- มีการพูดถึงอัตราแลกเปลี่ยน การจ่ายเงิน การให้ทิป ให้เราศึกษาด้วย
- จะหาอินเตอร์เน็ตฟรีได้จากที่ไหนบ้าง
สุดท้ายแล้วสำหรับการใช้งานแอพฯ ก็คือการรวมข้อมูลสำหรับการเดินทาง ร้านค้า ร้านอาหาร จองที่พัก ตั๋ว ต่างๆ อย่างครบถ้วนหมดแล้วก็อย่าลืมกดดาวน์โหลด (Download) ข้อมูลการเดินทางนั้นๆ เอามาเก็บไว้ด้วย ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจนถึงแผนที่ในเมืองนั้นๆ เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วเราสามารถกดเปิดดู เปิดอ่านได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอีกเลย ถึงแม้ว่าเรามั่นใจว่าเราจะมีชิมที่เชื่อมต่อได้ แต่การสำรองข้อมูลเอาไว้ก่อนดีที่สุด เผื่อว่าเราเจอปัญหาชิมใช้ไม่ได้ เครือข่ายล่ม หรือไม่มีคลื่น เราก็ยังเดินทางต่อไปได้ด้วยแผนการเที่ยวที่เราได้เตรียมไว้โดยไม่ต้องมีเอกสารอีกเลย
- กดดาวน์โหลดเพื่อดึงข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเรา
- จะเห็นว่ามีแถบแสดงเปอร์เซ็นต์การดาวน์โหลดแยกตามทริปนั้นๆ
นอกจากการวางแผนท่องเที่ยวในแต่ละวันแล้ว Google ยังพยายามที่จะรวมเอาธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมดรวมเอาไว้ด้วยกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋ว จองที่พัก การเดินทาง เช่ารถ ทุกอย่างรวมเข้าไปที่เดียว เรียกว่าเดินทางครั้งเดียวใช้บริการ Google ได้ตั้งแต่การจองจนไปถึงการรวมเอาระบบสั่งงานด้วยเสียงเพื่อรวบรวมเอากิจกรรมต่างๆ มาเรียกใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น ต้องการเดินทางไปที่ไหน วันไหน ก็พูดให้ Google Assistant เพื่อค้นหา (ภาษาอังกฤษ) ได้อย่างง่ายดาย นี่คืออีกจุดเริ่มต้นหนึ่งที่คิดว่าน่าจะมีผลกับประเทศไทยมาก เพราะประเทศไทยถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ทุกจังหวัด เที่ยวได้ทุกแนว
