อัพเดทชุดใหญ่แอพฯ ไอจีลูกเล่นเพียบ
แอพฯ โพสรูปภาพยอดนิยมอย่างอินสตราแกรม (Instagram) หรือที่หลายๆ ท่านเรียกกันว่า “ไอจี” เป็นแอพฯ ที่เกิดมาในยุคโซเชียลกำลังบูม เปิดตัวครั้งแรกเมื่อตุลาคมปี 2553 จนถึงตอนนี้ก็ครบ 6 ปีไปแล้ว มีบัญชีผู้ใช้งานรวมกว่า 600 ล้านคนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นทาง Facebook ได้ซื้อกิจการของ Instagram ไปในราคาสามหมื่นล้านบาทในปี 2555 จนถึงตอนนี้อินสตราแกรมเปลี่ยนรูปแบบไปเยอะมาก แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปการใช้งานเดิมอยู่ คือการโพสภาพ การติดตามเหล่าดาราเซเล็ป ที่เพิ่มขึ้นมาคือลูกเล่นต่างๆ ที่ปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น What Phone ฉบับนี้จึงอยากถือโอกาสเอาลูกเล่นใหม่ๆ ของอินสตราแกรมมาลองใช้งานกันดูว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง มีอะไรน่าใช้งานขึ้น และจะมีอะไรเพิ่มเข้าไปใหม่ในเร็วๆ นี้
หา IG มาเล่นได้ง่ายๆ ได้ที่ไหน?
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยใช้งานไอจีมาก่อนสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android, iOS (ไอโฟน), Windows Mobile และ Windows 10 (คอมพิวเตอร์) นอกจากนั้นยังสามารถใช้งานได้จากหน้าเว็บไซต์ www.instagram.com ได้อีกด้วย วิธีการสมัครก็ง่ายๆ เพียงใช้ Facebook อยู่ก็กดเปิดใช้งานได้ทันที ไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก
ดาวน์โหลดมาครั้งแรกจะมีข้อตกในการใช้งานให้กดดำเนินการต่อ
หน้าแรกของไอจีสามารถสมัครใหม่ แต่แนะนำว่าเชื่อมกับเฟสบุ๊คดีกว่า
หลังจากเข้าระบบแล้วหน้าแรกคือรวมรูป และวิดีโอจากสมาชิก ส่วนด้านบนคือลูกเล่นใหม่
กดที่ด้านบนจะเป็นที่เป็นโลโก้จะแสดงลูกเล่นใหม่ของไอจี
วิดีโอสั้นๆ แนะนำลูกเล่นใหม่ของไอจี
แต่ละคนสามารถโพสรูป และวิดีโอลงไปได้
เขียนไปที่รูปภาพได้ด้วย
แต่ละคนก็มีเรื่องราวประจำวันที่ไม่เหมือนกันออกไป
มีอะไรใหม่บ้างในไอจีเวอร์ชั่นล่าสุด
Stories (เรื่องราวของคุณ)
นอกจากการโพสรูปภาพทั่วไปแล้ว เรายังสามารถโพสเรื่องราวของเราได้ด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากจากการโพสปกติตรงที่เราสามารถแต่งเติมรูปภาพได้อย่างอิสระ และไม่ไปโพสอยู่ในอัลบั้มหลักของเรา ไม่ไปรบกวนหน้าจอหลักของใคร แต่ถ้าอยากดูต้องกดเข้ามาดูเอาเอง สิ่งที่เราโพสลงไปใน Stories จะปรากฏอยู่ในแอพฯ แค่เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อครบเวลามันก็จะหายไปจากระบบทันที ในส่วนของเรื่องราวของคุณนี้จะเน้นให้เรานำเสนอเรื่องราวชีวิตของเราจริงๆ ที่ไม่ได้ปรุงแต่ง ไม่ต้องแต่งรูป ไม่ต้องจัดฉากสวยๆ และไม่ต้องไปเกรงใจใครเพราะอีกสักพักมันก็ลบออกเอง
วิธีการสร้าง Stories ของเราก็ทำได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่หน้าจอหลัก จากนั้นก็มองหาไอค่อนรูปของเราด้านบนเพื่อเริ่มสร้างเรื่องราวของเราโดยการถ่ายรูป หรือถ่ายวิดีโอลงไปแล้ววาดลงไปบนหน้าจอเพื่อแสดงความเป็นตัวเองของเราออกมา เสร็จแล้วก็เลือกแชร์ไปให้เพื่อนได้เลยครับ
กดที่ไอค่อนรูปเราด้านบนเพื่อเพิ่มเรื่องราวของคุณ (Stories)
แอพฯ จะเปิดกล้องขึ้นมาให้เราเลือกถ่ายรูป หรือกดค้างเพื่อถ่ายวิดีโอ
ในหน้าจอยืนยันรูปมีไอค่อนวาดรูป และเขียนตัวหนังสืออยู่ด้านบน
ในการวาดรูปเราใช้นิ้วลากไปที่จอ หรือใช้ปากกา S-Pen สำหรับ Galaxy Note ได้ด้วย
เลือกสี ขนาดเส้นปากกา และเลือกปากกาได้ 3 แบบ
ปากกาอันสุดท้ายเมื่อเขียนแล้วจะมีสีประกายออกมาจากเส้น สวยงามมาก เสร็จแล้วกด “เรียบร้อย”
กดที่รูป “Aa” เป็นการพิมพ์ข้อความลงไป
เปลี่ยนสีที่เราต้องการได้ด้วย อยากได้สีไหนก็กดได้ที่ข้างล่าง ตัวหนังสือเลื่อนได้ตามที่ต้องการ
นี่คือตัวอย่างรูปที่เราสร้างเสร็จเรียบร้อย
สามารถสร้างได้ทีละหลายๆ รูปในครั้งเดียว
เมื่อเสร็จแล้วจะต้องเลือกว่าส่งให้ใครดูบ้าง อย่าลืมเลือกที่ “เรื่องราวของคุณ” ด้วยนะ
เลือกเรียบร้อยแล้วก็กดที่ “ส่งแยกต่างหาก” ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
เมื่อเพื่อนเปิดดูจะเห็นหน้าตาขึ้นมาแบบนี้พร้อมบอกด้วยว่าโพสเมื่อกี่นาที และใครมาดูกี่คนแล้ว
Instagram Live (ถ่ายทอดสดผ่านไอจี)
อยากจะถ่ายทอดสด วันนี้เราสามารถทำได้แล้ว แต่ลูกเล่นนี้ยังใช้งานได้เฉพาะอเมริกานะครับ ประเทศอื่นๆ จะอยู่ในคิวเปิดใช้งานในลำดับถัดไป สาเหตุที่ยังใช้งานไม่ได้เพราะการถ่ายทอดสดนั้นกินทรัพยากรของระบบมาก ถ้ามีคนเข้ามาถ่ายทอดสดพร้อมกันทีเดียว 100 ล้านคนรับรองได้ว่าระบบจะต้องล่ม สิ่งที่ได้คือค่อยๆ เปิดไปทีละประเทศ และขยายระบบไปด้วยพร้อมๆ กัน การถ่ายทอดสดจะซ่อนอยู่ในหน้าจอโพสรูปภาพ ซึ่งจะมีปุ่มชื่อว่า “Start Live Video” ให้เรากดเพื่อถ่ายทอดสดได้ ในการถ่ายทอดสดแต่ละครั้งจะทำได้นานที่สุด 1 ชั่วโมง เพื่อนที่เข้ามาดูวิดีโอของเราจะสามารถคอมเม้นท์ข้อความ และไอค่อนได้ แต่ถ้าไม่ต้องการให้คอมเม้นท์วิจารณ์ได้ก็สามารถปิดได้ด้วย
การ Live ทำได้ง่ายๆ แค่กดที่ปุ่ม Live ด้านบนเพื่อเข้ากล้อง
ในหน้าจอ Live มีแสดงจำนวนคนดู และสามารถคอมเม้นท์ได้
รายการ Live จะถูกแสดงรวมกับหน้าแรกของไอจี
รายการ Live ของใครมีคนเข้ามาดูเยอะก็จะถูกจัดลงใน “Top Live Videos” ด้วย
*รูปภาพจาก blog.instagram.com
Instagram Direct (ระบบส่งข้อความหากัน)
วันนี้ไอจีไม่ใช่แค่แอพฯ ที่โพสรูปภาพเท่านั้นแล้วแต่เรายังสามารถที่จะใช้งานอินบ็อกเพื่อพูดคุยกันส่วนตัวได้ด้วย แต่ที่มากไปกว่านั้นคือการเอาลูกเล่นของ Stories เรื่องเด่นของเราส่งไปยังเพื่อนๆ ได้ด้วย โดยเมื่อเราเลือกแชร์เรื่องเด่นของเราจะมีรายชื่อเพื่อนขึ้นมาให้เราเลือก จากนั้นก็เลือกเพื่อนที่เราต้องการเพื่อส่งไปให้ยังอินบ็อกของเรา เรื่องราว Stories จะโชว์แยกจากรายการแชต หรือข้อความปกติของเรา เมื่อกดดูแล้วก็จะแสดงภาพ เสียง วิดีโอตามที่เราได้แชร์ไปให้ สาเหตุที่ต้องมีการส่งไปให้เพื่อนเพราะระบบ Stories จะไม่ไปโชว์บนหน้าจอหลักของไอจี ถ้าเพื่อนเราไม่กดเข้ามาดูก็จะไม่รู้เลยว่าเราโพสอะไรลงไป เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการส่งไปแจ้งเตือนกันด้วยว่าเรามีอะไรให้ดูก่อนที่มันจะลบตัวเองไปในเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากที่โพสไปแล้ว
เข้าสู่ระบบส่งข้อความได้จากหน้าแรกแล้วเลือกเครื่องหมายเครื่องบินกระดาษด้านบน
เลือกคนที่เราต้องการคุยด้วย หรือส่งข้อความไปหา (ได้เฉพาะเพื่อน)
พิมพ์ข้อความ หรือรูปภาพส่งไปให้ได้
อีโมชั่นจะมีแค่หัวใจเพียงอย่างเดียว
ข้อความแบบส่งได้ 24 ชั่วโมงแล้วลบจะอยู่ด้านบน
กดดูข้อความที่เราส่งส่วนตัวไปให้ได้ ซึ่งเหมือนการส่งเรื่องราวของคุณ
ตัวอย่างข้อความที่ส่งมา ซึ่งเป็นคนละอันกับเรื่องราวของคุณก็ได้ แยกกันออกไป
เมื่อกดดูแล้วไอค่อนเพื่อนด้านบนจะจางลง ไม่มีวงกลมสีๆ ล้อมรอบ แสดงว่าอ่านแล้ว
แจ้งเตือนเมื่อมีการแค็ปหน้าจอ
เป็นสิ่งที่เพิ่มมาจากเรื่องเด่นประจำวันที่จะลบเองในเวลา 24 ชั่วโมง บางเรื่องส่วนตัวมากๆ บางเรื่องไม่อยากเก็บไว้นานแต่ก็อยากแชร์เพื่อนๆ จึงมีประเด็นที่ว่ามีบางคนพยายามจะแอบบันทึกภาพเก็บเอาไว้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควร การบันทึกภาพสามารถทำได้หลายวิธีทั้งการกดปุ่มเพื่อบันทึก ใช้การสัมผัสหน้าจอเพื่อบันทึก การใช้แอพฯ เสริม ฯลฯ เมื่อมีการพยายามบันทึกภาพเก็บเอาไว้ระบบจะแจ้งเจ้าของเรื่องนั้นๆ ทันทีว่ามีใครกดบันทึกภาพของเรา วิธีการป้องกันนั้นอาจจะยังไม่มี แต่อย่างน้อยก็ทำให้ทราบแล้วล่ะว่าใครจะพยายามเอารูปของเราไปทำอะไร ส่วนการถ่ายจากหน้าจอไปเลยอันนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถป้องกัน หรือทราบได้เลยว่าใครต้องการทำอะไรกับรูปของเรา ทางที่ดีที่สุดคืออย่าพยายามลงรูปที่ล่อแหลมเสี่ยงแต่การเอาไปใช้ ไปแอบอ้างได้
ตัวอย่างการแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามจับภาพหน้าจอของเรา
โฆษณาขายสินค้าในไอจี
น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ชอบขายของบนไอจี ตอนนี้สามารถขายเป็นเรื่องเป็นราวได้แล้ว ไม่ต้องตามฝากร้านที่โพสของคนอื่น โดยเราจะต้องสมัครเข้าไปเป็นบัญชีร้านค้าเสียก่อน โดยการเอาบัญชีหลักของเราเข้าไปเชื่อมกับบัญชีร้านค้า จากนั้นจะมีลูกเล่นในการลงโฆษณาให้เราเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งก็ต้องดูด้วยว่าเราขายอะไร ต้องการสร้างแบรนด์ หรือว่าจะโปรโมทกิจกรรมอะไร เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด แต่กลุ่มผู้ใช้ไอจีนั้นค่อนข้างจะชัดเจนมาก การเอาสินค้าที่เน้นผู้หญิง น่ารัก เสื้อผ้า เครื่องสำอาง จะมีโอกาสขายได้มากกว่า
ตัวอย่างโฆษณาบนไอจี จะมีแจ้งว่าได้รับการสนับสนุน
กดเข้าไปดูจะเป็นหน้าเว็บ แต่ยังไม่ออกจากแอพฯ ไอจี
สามารถเข้าไปคอมเม้นท์ที่โฆษณาได้เพื่อการขายของ
โฆษณาสามารถตั้งให้กดเพื่อติดตั้งแอพฯ (ขายแอพฯ ) ได้ด้วย
บันทึกโพสเก็บไว้ดูส่วนตัว
บางโพส บางรูปภาพ เราชอบเป็นการส่วนตัวจึงอยากจะกลับมาดูบ่อยๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จับภาพหน้าจอไว้ก็กลัวจะไม่อัพเดทเวลามีคนมาตอบเพิ่ม หรือว่าต้องการซื้อสินค้านี้แต่ยังไม่ว่างมานั่งศึกษารายละเอียด ทางไอจีได้มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาคือการบันทึกโพสเก็บเอาไว้ วิธีการง่ายๆ ก็แค่มองหาไอค่อนรูปที่คั่นหนังสือ จะอยู่ใต้โพสนั้นๆ เมื่อกดแล้วจะกลายเป็นสีดำแล้วเข้าไปอยู่ในบันทึกแล้วของเราทันที วิธีการเอาออกก็แค่กดเข้าไปดูโพสนั้นแล้วกดที่ไอค่อนเดิมจนกลายเป็นสีใส
เจออาหารที่อยากทาน เก็บไว้เป็นร้านประจำดีกว่าโดยการกดที่ไอค่อนด้านขวา
เมื่อกดแล้วะมีรูปไอค่อนโพสนั้นๆ ขึ้นมาเป็นอันเล็กๆ
กดเข้าไปดูบันทึกโพสที่หน้าโปรไฟล์ของเรา
บันทึกโพสจะเรียงอยู่ตามรายการที่เราเลือกไว้ทันที
กดค้างเพื่อดูรูปนั้นได้ทันที
ต่อยอดด้วย 2 แอพฯ แห่งปี
Boomerang
สำหรับคนที่อยากโพสวิดีโอแต่ไม่รู้จะโพสอะไรให้มันดูมีสีสันลองแอพฯ บูมเมอแรงดูครับ แอพฯ นี้คือแอพฯ ที่ใช้การถ่ายรูปภาพ 10 รูปติดกันแล้วเอามารวมเป็นวิดีโอสั้นๆ ขึ้นมา หลังจากได้วิดีโอสั้นๆ แล้วเราก็เลือกได้ว่าจะเร่งวิดีโอให้เร็วขึ้น หรือช้าลงก็ได้โดยการกดที่รูปเข็มนาฬิกา ถ้ารูปมีความสั่นก็มีระบบกันสั้นให้เรากดเพื่อการเคลื่อนไหวดูนุ่มขึ้น สุดท้ายคือการตัดเอาช่วงวิดีโอที่เราไม่ต้องการออกไปตามที่เราต้องการ แอพฯ นี้เน้นที่การทำวิดีโอสั้นๆ จากรูปถ่าย และจะเล่นวนไปมาหลังจากที่เราโพสแล้ว เพราะฉะนั้นควรหามุมถ่ายที่ไม่ต้องขยับตัวมาก เมื่อวิดีโอเล่นวนกลับมาที่เดิมก็จะได้วิดีโอที่เล่นต่อเนื่องอย่างสวยงามเลยครับ
หน้าตาเริ่มต้นของแอพฯ Boomerang
กดถ่ายรูปจากกล้องรัวเดียว 10 ช็อต
เลือกปรับความเร็วการเคลื่อนไหวได้
เลือกปรับการสั่นของภาพให้นิ่งขึ้นได้
เลือกตัด ลบ ตัวภาพเคลื่อนไหวได้เอง
เสร็จแล้วก็โพสโชว์เพื่อนๆ ได้เลยทันที
Layout
แอพฯ เลย์เอ้าท์คือแอพฯ รวมรูปที่ง่ายที่สุดในโลก เพียงแค่เปิดแอพฯ ขึ้นมาแล้วเลือกรูปที่ต้องการจะรวมได้ตั้งแต่ 2 รูปไปจนถึง 9 รูปพร้อมกัน เมื่อเราเลือกรูปเพิ่มเข้าไปแต่ละรูปด้านบนนั้นจะแสดงกรอบรูปที่มีให้สำหรับจำนวนรูปนั้นๆ ขึ้นมาให้เราเลือก ซึ่งเป็นแค่รูปแบบคร่าวๆ นะครับ ถ้ายังไม่ถูกใจก็เลือกอันที่ใกล้เคียงที่สุดมาก่อนแล้วก็ไปปรับขยายเส้นตารางได้เองว่าอยากได้รูปภาพไหนเด่น รูปภาพไหนแนวนอน แนวตั้ง รวมได้หมดเลยครับ นอกจากการเอารูปมาแปะรวมกันแล้ว ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีก ดังนี้
- การเปลี่ยนรูป สลับรูป ย้ายรูป บางรูปวางแล้วอยากได้แนวตั้งแทนก็สามารถปรับให้ย้ายไปอยู่อีกช่องหนึ่งได้
- เลื่อน ขยับ ขยาย ย่อ รูปภาพที่เราต้องการเพื่อจะโชว์แค่บางส่วนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้เห็นทั้งภาพก็ได้
- พลิกซ้าย-ขวา บางครั้งถ่ายรูปมาจากกล้องหน้า ตัวหนังสือมันพลิกไปหมด ก็จัดการกดพลิกด้านได้ง่ายๆ
- พลิกบน-ล่าง ถ้าต้องการความแปลกใหม่ ลองพลิกรูปคว่ำลงไป อาจจะได้มุมมองที่น่าสนใจก็ได้
- ตีเส้นขอบ อยากได้เส้นแบ่งเก๋ๆ หรือว่าอยากให้รูปติดกันเป็นอันเดียวกัน ก็แค่กดแบ่งเส้นเท่านั้นเอง
หน้าตาแอพฯ Layout เมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว
กดเริ่มใช้งานเพื่อเลือกรูปภาพ
เลือกรูปที่เราต้องการ กี่รูปก็ได้ไม่เกิน 9 รูป
ทดสอบเลือกรูปภาพมา 4 รูป
ปรับดึงขนาดของเฟรมได้จากขอบสีฟ้า
เมื่อปรับขยายขึ้นจะเห็นผลทันที
เพิ่มกรอบขาวได้ในปุ่มเดียว
กลับภาพซ้ายขวาได้
เสร็จแล้วก็เอาไปโพสโชว์เพื่อนๆ ได้ทันที
ทั้งหมดนี้เป็นลูกเล่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ยังไม่รวมกับลูกเล่นใหม่ๆ อีกเพียบ เช่น การโพสวิดีโอ การปรับแต่งสีของรูปภาพ การโพสรูปภาพแนวตั้ง และอื่นๆ อีกมากมายที่ทางไอจีได้พัฒนามาเรื่อยๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอพฯ ที่น่าจับตามอง เพราะมีผู้ใช้งานกว่า 600 ล้านคนแถมคนที่มาใช้งานจริงยังตกเดือนละ 300 ล้าน แน่นอนว่ามีคนไทยอยู่ไม่น้อยที่อยากจะติดตามเซเล็ป ดารา หรือมองหาคนสวยๆ มาอัพเดทรูปภาพอยู่เสมอ ในอนาคตทางไอจียังมีแผนที่จะให้เราจัดการคอมเม้นท์ด้วยตัวเองได้ ใครมาขายของก็ลบซะ ใครมาป่วนก็จัดการได้ทันที รวมไปถึงการบันทึกโพสที่เราชอบเก็บเอาไว้เป็นอัลบั้มส่วนตัวได้อีกด้วย คงต้องติดตามกันต่อไปนะครับว่าอนาคตของแอพฯ นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง