ใช้มือถือรุ่นเก่าที่เป็น 3G (หรือยังเป็น 2G) อยู่ ถึงเวลาเปลี่ยนเป็น มือถือ 4G แล้ว!
ตอนนี้ถึงเวลาที่เราสามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า ประเทศไทยมีอินเทอร์เนต 4G บนมือถือให้บริการอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นช่วงของการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีการสื่อสารที่สำคัญอีกครั้งของประเทศไทย ต้องบอกว่าที่งาน Thailand Mobile Expo 2016 ครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ รับเทคโนโลยี 4G แบบเต็มตัว
หลายคนอาจจะคิดว่า มือถือ 4G จะต้องเป็นรุ่นที่ราคาสูงระดับหลักหมื่น หรือต้องเป็นระดับเรือธงตัวท็อป ต้องบอกว่าตอนนี้ถ้าอยากจะเปลี่ยนเครื่องใหม่มาใช้ 4G ก็มีตัวเลือกสเปคดีๆ ในราคาระดับหลักพันให้เลือกได้แล้ว
Galaxy J7
ถ้ามีงบประมาณสัก 8,000-9,000 บาท เลือกมือถือหน้าจอขนาดใหญ่แจ่มๆ Galaxy J7 เป็นตัวเลือกที่ดีครับ แสดงผลคมชัดด้วยหน้าจอ Super-AMOLED ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) ใช้ดู YouTube เล่นเกมดีนักแล เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Octa-Core (Exynos 7580) RAM 1.5 GB รันบน Android 5.1 ทำงานรวดเร็วทันใจ ลงแอพพลิเคชั่นเสริมหลากหลาย กล้อง 13 เมกะพิกเซล ถ่ายภาพ Selfie ผ่านกล้อง 5 เมกะพิกเซล
Galaxy J2
แต่ถ้าเน้นงบประหยัดไม่ถึง 5,000 บาท Galaxy J2 รุ่นระดับเริ่มต้นของ Samsung เครื่องเล็กกะทัดรัดแต่มีครบทุกอย่าง มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.7 นิ้ว (qHD) แสดงผลคมชัด สีสันจัดจ้านใช้ได้ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส TouchWiz อย่างที่คุ้นเคยกันดี รองรับ 4G LTE ใช้งาน 2 ซิมการ์ด กล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง เป็นอีกรุ่นของ Samsung ที่ค่อนข้างสมราคาทีเดียว
i-mobile IQ X PRO 2
มือถือ 4G จากแบรนด์ i-mobile ที่เด่นในเรื่องของกล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 30 ล้านพิกเซล แถมยังมีฟีเจอร์ของดิจิตอลทีวีอีกด้วย เพียงเสียบเสารับสัญญาณที่ช่อง 3.5 มม. ก็สามารถรับชมได้ทุกที่ โดยไม่ต้องต่อเน็ต บนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Full HD IPS OGS ไม่เพียงเท่านั้นกับการใช้งานทั้ง 3G และ 4G แบบ 2100/1800 MHz ส่วนสเปคอื่นๆ อาทิ ซีพียู Snapdragon 615 Octa-core 1.5 GHz 64 bit, ROM 32 GB, RAM 3 GB รองรับหน่วยความจำภายนอก 64 GB มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop
i-mobile IQ II
เด่นเป็นพิเศษกับสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในโครงการ android ONE ที่การันตีการบริการหลังการขายยาวนาน 2 ปี ทั้งการอัพเดทเฟิร์มแวร์จากทาง Google ก่อนใคร และตัวเครื่องจาก i-mobile สัมผัสการใช้งานแบบ Pure Google ที่ใช้งานลื่นไหลในราคาประหยัด ด้วยสเปค Snapdragon 410 Quad-core 1.2 GHz, ROM 16 GB, RAM 1 GB รองรับหน่วยความจำภายนอกสูงสุด 32 GB
ตัวเครื่อง รองรับ 4G 2100/1800 MHz หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล HD กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล BSI AF และแฟลช ส่วนกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซลแบตเตอรี่ 2,500 mAh ในราคาแค่ 4 พันกว่าบาทนิดๆ
Huawei GR5
อีกรุ่นใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไป ที่ทาง Huawei จัดเต็มมาให้ด้วยขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วแบบ Full HD ตัวเครื่องเป็นโลหะขัดพ่นทรายอย่างสวยงาม ใช้ชิพประมวลผล Snapdragon 616 พร้อม RAM 2GB กล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น แบตเตอรี่ 3,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือรุ่นใหม่ ที่ใช้เวลาปลดล็อคเพียงแค่ 0.5 วินาที และสแกนได้ทั้งเวลาที่มือเปียก ทั้งหมดนี้ Huawei จัดมาให้ในราคาเพียงแค่ 8,990 บาทเท่านั้น
OPPO Mirror 5
สวยหรูด้วยวัสดุภายในและโครงสร้างบอดี้อัลลอยด์ พร้อมฝาหลังลวดลายแบบ Diamond-Cut หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (qHD), ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลมาก, กล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล ถ่ายภาพเร็ว สวย กลางคืนพอใช้ได้ (F/2.0) + กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล แบตเตอรี่ 2,420 mAh, เมโมรี่ภายใน 16 GB ในราคา 7,xxx บาท
vivo Y51
รุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายก่อนสิ้นปี ดีไซน์เน้นเรียบๆ ตามสไตล์แบรนด์นี้ ฝาหลังแบบเงางาม ขอบบอดี้โลหะมีลายเส้นตัดตรง หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (qHD) การแสดงผลพอใช้ได้ ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 2 GB รันบน Android 5.1 ยอมรับว่า vivo ปรับแต่งรอมมาลื่นมากๆ ต้องลองเล่นแล้วจะชอบครับ ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE + ใช้งาน 2 ซิมการ์ด กับราคา 6,990 บาท ก็พอสมราคาอยู่ ในงานมีของแถมเยอะ ลองติดตามได้
Zenfone Laser 5.5 (ZE550KL)
ติดธงเป็นรุ่นขายดีจริงๆ อีกรุ่นในตอนนี้กับ Zenfone Laser 5.5 (ZE550KL) ออกมาทดแทน Zenfone 2 รุ่นเดิมนั่นเอง หน้าจอยังคงเดิมที่ 5.5 นิ้ว (HD) แสดงผลค่อนข้างดี ตัวเครื่องอาจจะใหญ่ไปนิดนึง แต่สามารถจับถือเข้ากับมือได้พอดี ฝาหลังเปลี่ยนเป็นผิวด้านเรียบ ดูแลรักษาไม่ยากครับ ด้านชิพประมวลผลใช้ Snapdragon 410 + RAM 2 GB แรงพอดีในระดับนึง ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสด้วยเลเซอร์ ทำให้โฟกัสภาพได้เร็วขึ้นมาก แบตเตอรี่ 3,000 mAh และรองรับ 2 ซิมการ์ด + 4G LTE เหมือนเดิม
Zenfone Selfie (ZD551KL)
มือถือ 4Gb สำหรับคนรักการเซลฟี่ ห้ามพลาดเลยทีเดียวกับ Zenfone Selfie เขามาเพื่อสิ่งนี้ ! ด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 13 เมกะพิกเซล มีไฟ LED แถมออโต้โฟกัสอีก หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) เช่นเดียวกับ Zenfone 2, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 3 GB ถือว่าจัดของแรงเกินมาตรฐาน รันบน Android Lollipop กล้องหลัก 13 เมกะพิกเซล มีระบบ Laser-AF เหมือน Zenfone Laser ใช้งาน 2 ซิมการ์ด รองรับ 4G LTE ได้ครบทุกคลื่น ราคาได้ข่าวว่าน่าจะมีโปรโมชั่นแรงในงาน Thailand Mobile Expo 2016 อยากได้เลยแบบนี้ ทั้งกล้องหน้าแจ่ม สเปคแรงสุดคุ้ม
Lenovo A7000 Plus
Lenovo A7000 Plus สเปคจัดเต็มสมราคา ชิพประมวลผล Octa-Core + RAM 2 GB หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) ใหญ่เหลือเฟือสำหรับเล่นเกม ดู YouTube รองรับ 4G LTE ใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีระบบเสียง Dolby Mobile เพิ่มอรรถรสเป็นอย่างดี ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล รันบน Android 5.1 สามารถหาซื้อได้ในราคา 6,290 บาท
Acer Liquid Z530
รุ่นราคากลางๆ ชุดใหม่ล่าสุดจาก Acer ออกแบบโค้งมน เรียบง่าย ฝาหลังเป็นลวดลายแนวขวาง สามารถจับถือได้ไม่ยากนัก หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) แสดงผลระดับพอใช้ ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็ว ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีบน Android 5.1 กล้อง 8 เมกะพิกเซล มีระบบเสียง DTS เสียบหูฟังแล้วจะได้อารมณ์ไปอีกแบบ รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด รุ่นนี้ราคาไม่ถึง 6,000 บาทครับ
Acer Liquid Z630
ภาพรวมของ Acer Liquid Z630 คล้ายกับ Z530 ครับ โดยเฉพาะสเปครวมๆ ดีไซน์ก็แทบจะไม่ต่างกัน จ่ายเพิ่มจากรุ่นเดิม 1,000 บาท คุณจะได้หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (จาก 5.0 นิ้ว) และแบตเตอรี่ 4,000 mAh อันนี้คุ้มค่าเพราะใช้งานได้ยาวนาน ไม่ง้อ Power bank รองรับ 4G LTE, 2 ซิมการ์ด เพิ่ม microSD ภายนอกได้ ตรงนี้ถ้าอยากลองตัวจริง เชิญที่บูธ Acer ในงานได้เลย
Wiko Pulp Fab 4G
อีกตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการ มือถือ 4G LTE ดีไซน์การออกแบบ ฟีเจอร์พื้นฐานหน้าจอ 5.0 นิ้ว, กล้อง 13 เมกะพิกเซล รันบน Android 5.1 ฯลฯ ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 2 GB, แบตเตอรี่ 2,820 mAh จ่ายเพิ่มอีก 1,000 บาทจากรุ่น 3G ต้องลองเล่นตัวจริงในงานก่อนตัดสินใจซะแล้ว
Wiko Fever
รุ่นสุดคุ้มสเปคแรงกำลังดีจาก Wiko หน้าตาเรียบง่าย ออฟชั่นเพียบ หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัดสีสันสวยงาม รองรับ 4G LTE ใช้งาน 2 ซิมการ์ด, ชิพประมวลผล Octa-Core (Mediatek MT6753) + RAM 3 GB ลื่นไหลสะใจ เปิดแอพฯ ไม่สะดุดบน Android 5.1 ลงแอพฯ เล่นเกมกราฟฟิคกลางๆ ถ่ายภาพผ่านกล้อง 13 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล
iMI
รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ iMI อย่าง Goals 4G ก็ส่งมาทำตลาดสมาร์ทโฟน 4G โดยเฉพาะ ก็มีความน่าสนใจตรงที่ดีไซน์ที่มีความหรูหราด้วยสีทอง สีขาว และสีดำ มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 5.2 นิ้ว พร้อมด้วยกระจกหน้าจอแบบ 2.5D ความละเอียด HD หน่วยประมวลผล Quad-core, RAM 1 GB และ ROM 16 GB กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับระบบชาร์จเร็ว ทั้งหมดนี้เปิดตัวในราคา 4,990 บาทเท่านั้นเอง
LAVA IRIS 550
มาดูทางฝั่งของ AIS กันบ้างกับน้องเล็กสุดของซีรี่ส์ AIS LAVA 4G รองรับการใช้งาน 4G LTE ในราคาเบาๆ รุ่นนี้สามารถซื้อเครื่องเปล่าได้ครับ หรือถ้าใช้งาน AIS 2G เอามาแลกเครื่องใหม่ (พร้อมเติมเงินตามโปรโมชั่น) ได้ทันที ด้านสเปคหน้าจอ 4.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 1 GHz + RAM 1 GB ทำงานลื่นไหลบน Android 5.1 กล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 2 เมกะพิกเซล สนนราคา 2,490 บาท เอาไว้ใช้งานเป็นเครื่องสำรอง หรือซื้อให้น้องๆ ใช้ก็คุ้มค่าดีครับ
LAVA IRIS 750
อัพสเปคขึ้นมานิดหน่อยจะได้ LAVA Iris 750 หน้าจอขยายใหญ่เป็น 4.5 นิ้ว รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด, กล้องคุณภาพสูงขึ้น ความละเอียด 8 เมกะพิกเซล + กล้องหน้า 2 เมกะพิกเซล , แบตเตอรี่ 2,000 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน อื่นๆ คล้ายกับ LAVA Iris 550 ทั้งชิพประมวลผล Quad-Core รันบน Android 5.1 และมีโปรโมชั่นให้เลือกทั้งแบบเติมเงิน – รายเดือน หรือจะซื้อเป็นเครื่องเปล่าก็ได้เช่นกัน
LAVA 4G A1
งบประมาณราวๆ 4,xxx บาท คุณจะได้ LAVA 4G A1 รุ่นกลางคุณสมบัติเริ่ด หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 1 GHz + RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลมากขึ้น เปิดใช้งานแอพฯ ไม่สะดุด พร้อม ROM 16 GB ลงอะไรได้มากกว่าเดิม รันบน Android 5.1 ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล แถมกล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล ยังมีไฟ LED ช่วยถ่ายภาพ Selfie ในที่แสงน้อยอีกด้วย ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh สมเหตุสมผลครับ ราคาเพียง 4,590 บาท
LAVA 4G A2
รุ่นเรือธงของ LAVA ณ ตอนนี้ ‘LAVA A2’ โดดเด่นทั้งดีไซน์หรู สเปคจัดเต็มมาก ชิพประมวลผล Octa-Core (Mediatek MT6753) + RAM 3 GB ไม่ลื่นหัวแตกให้รู้กันไป หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด รันบน Android 5.1 กล้อง 13 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD บอดี้บางเพียง 7 มิลลิเมตร พกพาสะดวก คุณสมบัติโดนใจ เคาะราคาเป็นเจ้าของได้ที่ 7,290 บาท หากคุณใช้ระบบเติมเงิน มีค่าโทรฟรีสูงสุด 7,000 บาท หรือโปรรายเดือนเริ่มต้น 249 บาท ตามเงื่อนไข
dtac Phone Eagle Blade 4G
มือถือ 4G จากค่าย dtac ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ V selfie เมื่อทำท่าการชู 2 นิ้ว กล้องก็จะทำการถ่ายภาพให้อัตโนมัติ หน้าจอ 5 นิ้ว คมชัดระดับ HD ชิปประมวลผลใช้เป็น MT6735P Quad Core 1.0GHz (64 Bit) กล้องด้านหลังและหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น Android 5.1 (Lollipop) มีให้เลือกความจุในตัวเครื่องได้ 2 ขนาดคือ 8GB/RAM 1GB (ราคา 4,390 บาท) และ 16GB/RAM 2GB (ราคา 5,390 บาท) และแน่นอนว่ารองรับ 4G คลื่น 2100MHz และคลื่น 1800MHz เลือกซื้อได้ทั้งแบบเครื่องเปล่าหรือพร้อมแพ็กเกจ
True Lenovo 4G A2010
รุ่นนี้เป็นโมเดลพิเศษที่ทำตลาดร่วมกับ True Move H มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว (854 x 480) ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ถือใช้งานมือเดียวได้สบายๆ งานประกอบและวัสดุบอดี้ต่างๆ ถือว่าสมราคา ติดกล้องด้านหลังความละเอียด 5 เมกะพิกเซล มีกล้องหน้าสำหรับ Selfie ด้วย แรงเร็วด้วยชิพประมวลผล Quad-Core (Mediatek MT6735M) + RAM 1 GB ทำงานยังลื่นอยู่
True Lenovo 4G Vibe P1m
เป็น มือถือ 4G อีกรุ่นที่ทำโปรโมชั่นร่วมกับ True Move H ค่าเครื่องถูกลงเมื่อสมัครแพ็คเกจรายเดือน รุ่นนี้ออกแบบเรียบง่าย มีปุ่ม Home ด้านล่าง รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด หน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว (HD), ชิพประมวลผล Quad-Core (Mediatek MT6735M) + RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลบน Android 5.1 กล้องใส่มาให้ 8 เมกะพิกเซล ที่สำคัญคือจุดขายแบตเตอรี่ 4,000 mAh ทำให้ Vibe P1 เหมาะกับคนชอบลุยแบบไม่อยากพก Power Bank ในราคาเบาๆ ด้านราคาสนนที่ 4,990 บาท