เมื่อก่อนที่มีการย้ายระบบเครือข่ายจาก 3G ไปสู่ 4G เป็นเพียงแค่ขั้นตอนเล็ก ๆ ไม่ซับซ้อน แต่ในอนาคตที่จะถึงอย่าง เทคโนโลยี 5G กลับกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แห่งวงการอุตสหกรรมสมาร์ทโฟนและนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย วันนี้ทาง Whatphone ก็จะพามาเหลาเกี่ยวกับ 5G นี้กันครับ
เทคโนโลยี 5G กับเรื่องที่คุณต้องรู้
ก่อนที่จะเริ่มเจาะเรื่องของ 5G ก็ต้องมาดูกันก่อนว่าทำไมระบบนี้ถึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยของการเปลี่ยนผ่านเหมือนยุค 3G และ 4G เริ่มต้น ซึ่งทางด้าน MIT Technology ได้เผยว่า “เทคโนโลยี 5G จะกลายเป็นรากฐานของระบบทั้งหมดของเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่ออย่างเต็มที่ ซึ่งสามารถปรับปรุงนโยบายทางเศรษฐกิจและธุรกิจ ทำให้ขอบเขตทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมลดลงได้ โดยจะทำให้การเชื่อมต่อไร้สายเอื้ออำนวยสำหรับการใช้งานทางธุรกิจ”
ช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 2018 นี้ ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วงพัฒนาระบบ 5G อย่างเร่งด่วนและน่าสนใจสำหรับนักพัฒนาซอร์ฟแวร์พอสมควร เนื่องจากเครือข่ายมือถือเจ้าดังของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง T-Mobile และ Sprint จับมือกันพัฒนาระบบเครือข่าย 5G ให้สามารถใช้งานได้ภายใน 36 เมืองใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้
สิ่งที่ 5G นำมาสู่แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับ 4G ก็คือมันจะมีความเร็วในการส่ง/รับข้อมูลมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า ซึ่งเป็นการลดเวลาการตอบสนองของเครือข่าย (เวลาลดลงไปอย่างน้อย 1 มิลลิวินาที จากการที่ Qualcomm ได้ทำการทดสอบไว้) ทำให้เวลาในการดาวน์โหลดจะเร็วขึ้นมากและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเหมาะแก่ผู้บริโภคและช่องทางธุรกิจในอนาคตอย่างมาก
เมื่อถึงปี 2035 นั้น 5G จะให้ผลิผลิตทางเศรษฐกิจโลกมูลค่า 12.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ – IHS
จากข้อความดังกล่าวที่การมาของ 5G นั้นจะสร้างรายได้เทียบเท่ากับการบริโภคสินค้าของผู้คนในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งการมาของเทคโนโลยีล่าสุดนี้จะทำให้เกิดการสร้างงานจำนวนมหาศาลให้กับนักพัฒนาระบบ AR, VR, แอปพลิเคชั่นทางธรุกิจรวมถึงงานทางด้านระบบเครือข่ายทั่วโลกเป็นอย่างมาก
อุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จาก 5G
เริ่มกันด้วยอุตสหกรรมของเกมส์มือถือที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากความเร็วสูงของ 5G และความหน่วงที่ลดลงทำให้นักพัฒนาชอร์ฟแวร์เกมส์สามารถใส่รายละเอียดยิบย่อยลงไปในแอปพลิเคชั่นได้อีก โดยสิ่งนี้จะเป็นการมอบประสบการณ์ความสนุกสนานสมจริงทางด้าน AR และ VR ให้กับผู้เล่นเกมส์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ Pokemon Go, Multiplayer Game ฯลฯ และทางด้านความบันเทิงอย่างการถ่ายทอดสดกีฬาและคอนเสิร์ตที่จะมีการพัฒนาให้ดูมีอะไรมากขึ้นกว่าเดิม อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
นอกเหนือจากความสนุกสนาน ความสมจริงของเกมส์และความบันเทิงนั้น ก็ยังมีในเรื่องของอุตสหกรรมทางด้านสุขภาพ ที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็น แพทย์, พยาบาล หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการดูแลรักษาสามารถประเมินอาการหรือวินิจฉัยคนไข้ผ่านทาง Video Call ได้เสถียรแม่นยำ มีความคมชัดมากขึ้น
5G มีความแตกต่างจาก 4G อย่างสิ้นเชิง เหมือนกับการเปลี่ยนจากเครื่องพิมพ์ดีดมาใช้คอมพิวเตอร์นั่นแหละ! – MIT Technology Review กล่าว
ทางด้านอุตสาหกรรมพลังงานก็จะสามารถใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสภาพอากาศ ผู้คน และเหตุการณ์สำคัญในการจัดการพลังงานได้อย่างชาญฉลาด และตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกับการหยุดทำงานหรือความล้มเหลวอื่น ๆ ของ ท่อส่งก๊าซหรือโรงงานบำบัดน้ำ และทางด้านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก็สามารถใช้แอปพลิเคชั่นที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลของการจัดส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าหรือจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลของสินค้าก็ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
นอกเหนือจาก 5G แล้วยังมีคำถามอีกมากมายที่ตามมา ???
บนการควบรวมกิจการของสองผู้ให้บริการเครือข่ายยักษ์ใหญ่อย่าง T-Mobile และ Sprint ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวกระตุ้นสำหรับการผลักดันนวัตกรรมใหม่ ๆ และการเจริญเติบโตของนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนมือถือและนักการตลาด แต่ก็ต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเสียก่อน การควบรวมกิจการจะต่อต้านการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ที่มีผู้เล่นหลักเพียงแค่ 4 ราย คือ Sprint, T-Mobile, AT & T และ Verizon ควบคุมตลาดประมาณ 95% จากทั้งหมด ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่าเครือข่าย 5G ของสองผู้ให้บริการเครือข่าย จะส่งผลให้มีราคาที่ต่ำกว่าเดิมและบริการที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้งานหรือไม่?
นอกจากนี้ยังมีคำถามว่า การควบรวมกิจการดังกล่าวจะทำให้การเปิดตัวเครือข่ายระบบ 5G ได้เร็วขึ้นหรือไม่? ซึ่งช่วงแรกกำหนดการเปิดตัวจริง ๆ จะมีในปี 2018 นี้ แต่อยู่ ๆ ก็ดันเลื่อนไปช่วงปี 2019 แทน เนื่องจากการร่วมมือของทั้ง 2 ผู้ให้บริการนั่นเอง โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้ใน New York และ Los Angeles ก่อน
เมื่อผู้ให้บริการเครือข่ายน้อยลง การแข่งขันก็จะน้อยลงทำให้มีการปรับปรุงประสิทธิของเครือข่ายก็น้อยลงไปอีก – Jamal Carnette กล่าว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ให้บริการเครือข่ายก็ไม่ได้จะลงทุนในการสร้างเครือข่ายมากนัก เพราะไม่ได้ตั้งใจจะสร้างรายได้จากการลงทุนนี้เท่าไหร่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ผู้บริโภคจะได้รับสิทธิประโยชน์ไปเต็ม ๆ นั่นเอง
และจากประวัติที่ผ่านมาของการเปิดให้บริการ 4G LTE ของผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา เผยให้เห็นว่าการลงทุนร่วมของกันของผู้ให้บริการนั้นไม่ได้ช่วยให้ทำราคาโปรโมชั่นหรือค่าแพ็คเกจลดลงเลย แถมยังมีการชะลอตัวในการเปิดให้บริการอีกเช่นกัน ซึ่งไร้ประโยชน์และไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายในบ้านเราอย่าง AIS ที่ตอนนี้ก็เริ่มเปิดระบบ 4.5G บนเทคโนโลยี LAA ให้ได้เห็นกันแล้ว ซึ่งก็คาดว่าอีกประมาณ 3 ปีเราคงจะได้เริ่มใช้ 5G ในประเทศไทยก็เป็นได้ แต่จะเป็นเครือข่ายไหนก่อนก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีครับ
ก็จบกันแล้วสำหรับบทความ 5G เรื่องเทคโนโลยีที่ทุกคนจะต้องรู้ เนื่องจากมันกำลังจะมาในอีกไม่กี่ปีนี้แล้ว หากอยากติดตามบทความดีหรือข่าวสารในวงการเทคโนโลยี เกมส์ มือถือก็สามารถกดไลค์ในเฟสบุ้ค WhatPhone.net หรือที่ทางเว็บไซต์ www.whatphone.net ได้เลยครับ
ที่มา : APPLOVIN