ทุกวันนี้เรื่องของสุขภาพและการออกกำลังกาย กำลังเป็นเทรนด์กระแสที่ผู้คนให้ความสำคัญกันมากขึ้น รวมถึงบรรดาสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ ก็มีออกมาเพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้สามารถจัดการกิจกรรมการออกกำลังกายและเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้มากกว่าเดิม
ฉบับนี้เลยขอแนะนำ แอพฯ ในสมาร์ทโฟน รวมถึง อุปกรณ์ล้ำๆ ที่จะช่วยให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลังกายและเปลี่ยนพฤติกรรมให้หันมารักสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม ที่เรากล้าคอนเฟิร์มเลยว่า เมื่อคุณเข้าสู่กระบวนการของแอพฯ และอุปกรณ์เหล่านี้อย่างจริงจัง เพียงแค่ 90 วันหรือ 3 เดือน คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับร่างกายและสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม!!
My Fitness Pal
อย่างแรกที่จะแนะนำไม่ได้เกี่ยวกับการออกกำลังกายเป็นหลัก แต่แอพฯ นี้ถือว่าเป็นแอพฯ ที่ช่วยในการบริหารจัดการในการควบคุมในส่วนของอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวัน เพื่อให้คุณสามารถคำนวณและ “ควบคุมแคลอรี่” ที่กินในแต่ละวันได้ดีที่สุด
My Fitness Pal ตอนนี้เป็นแอพฯ ที่อยู่ในเครือของ Under Armor ตัวแอพฯ นี้มีจุดเด่นที่คุณสามารถ Log อาหารที่คุณรับประทานในแต่ละวัน เพื่อให้คุณรู้ว่าในแต่ละวันสิ่งที่คุณทานเข้าไปมีแคลอรี่เท่าไร ตัวแอพฯ มีฐานข้อมูลอาหารในไทยอยู่บ้าง แต่ก็สามารถสร้างได้เอง รวมทั้งยังเชื่อมต่อข้อมูลไปใช้ร่วมกับแอพฯ ออกกำลังกายอื่นๆ ได้อีกด้วย
เราแนะนำให้คุณจัดการเรื่องของการควบคุมอาหารก่อนที่จะแนะนำเรื่องการออกกำลังกาย ก็เพราะว่า ต่อให้คุณเล่นกีฬาหรือวิ่งแบบจริงจังแค่ไหน แต่ถ้ายังกินแบบตามใจปาก สุดท้ายคุณก็จะเป็นได้แค่ “หมูแข็งแรง” ถ้าอยากจะผอมการควบคุมอาหารเป็นหัวใจที่สำคัญมาก และถ้าคุณมีวินัยในการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และทำได้อย่างเคร่งครัด เพียงแค่ 15-30 วัน. แม้ว่าไม่ออกกำลังกายน้ำหนักคุณก็จะลดลงอย่างแน่นอน
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : ควบคุมแคลอรี่ในแต่ละวันให้ไม่เกิน 1,200-1,500 Kcal
Xiaomi Mi band 2
สายรัดข้อมือสำหรับติดตามนับก้าวเดินในแต่ละวัน จับคุณภาพในการนอนว่าหลับสนิทเพียงพอหรือไม่ อีกทั้งยังมีตัว Heartrate Sensor สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วย ข้อดีของ Mi Band 2 คือมีน้ำหนักเบา ชาร์จแบตครั้งเดียวอยู่ได้นานถึง 2 อาทิตย์ และราคาไม่สูงมาก อยู่ที่ราวๆ 1,000-1,500 บาท กับประสิทธิภาพที่ให้คุณรู้การเคลื่อนไหวในแต่ละวัน และช่วยบันทึกพร้อมประเมินแคลอรี่ที่มีการออกกำลังในแต่ละวันให้กับเราอีกด้วย
ถึงแม้ว่าอาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้างเรื่องความแม่นยำในการนับการเดินอาจจะมีนับเกินความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่ระบบการจับการเคลื่อนไหวตอนนอนถือว่าใช้ได้อยู่ และด้วยราคาประมาณนี้ ถือว่าเป็นอุปกรณ์เริ่มต้นสำหรับคนที่อยากจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองใหม่ที่ดีทีเดียว
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : นอนพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน
Joox
ใช่แล้วครับ แอพฯ Joox ที่เป็นบริการฟังเพลงออนไลน์นี่ล่ะครับ เป็นอีกสิ่งที่จะช่วยให้คุณฟิตแอนด์เฟิร์มได้ เพราะว่าการออกกำลังกายที่จะช่วยให้ได้ผลดีขึ้น การฟังเสียงเพลงที่มีจังหวะระหว่างการออกกำลังกายเป็นอีกปัจจัยที่มีการวิเคราะห์มาแล้วว่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายและอัตราการเต้นของหัวใจมีจังหวะที่เคลื่อนไหวได้เต็มที่
จริงๆ แล้วจะใช้แอพฯ ฟังเพลงอะไรก็ได้ล่ะเปิดฟังระหว่างที่วิ่งหรือออกกำลังกาย แต่ว่าใน Joox นั้นมี Playlist ที่จัดมาโดยเฉพาะสำหรับฟังระหว่างออกกำลังกาย เป็นการคัดเพลงที่มีบีทจังหวะสนุกสนานในระดับมากกว่า 100 bmp ขึ้นไป ช่วยให้เราออกกำลังกายและอัตราการเต้นของหัวใจขึ้นไปถึงระดับโซน 2-3 ซึ่งเป็นโซนที่มีผลต่อการลดน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อ
แนะนำว่าให้เข้าไปในแอพฯ Joox จากนั้นให้ค้นหาด้วยคำว่า “Workout” ก็จะได้ Playlist เพลงสำหรับฟังระหว่างออกกำลังกายมาให้เลือกหลายชุด แถมยังฟังได้ฟรีอีกด้วย
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : ออกกำลังกายอะไรก็ได้พร้อมฟังเพลงจาก Joox อย่างน้อยวันละ 30 นาที อาทิตย์ละ 4-5 วัน
Jabra Elite Sport
พอพูดเรื่องเสียงเพลงมีความสำคัญการออกกำลังกายแล้ว ก็ขอแนะนำหูฟังที่ออกแบบมาไว้สำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะกันบ้าง Jabra Elite Sport เป็นหูฟังแบบไร้สายแบบไม่มีสายเลย เป็นตัวพ็อดแยกซ้ายขวาที่ใส่แล้วกระชับกับหู ไม่ต้องห่วงว่าเวลาวิ่ง กระโดดหรือออกกำลังกายจะหลุด ออกแบบมาสำหรับกันเหงื่อกันน้ำเพื่อใส่ตอนเล่นกีฬาได้หายห่วง แถมยังมีโหมด Ambiant ที่เปิดให้เสียงจากภายนอกเข้ามาในหูเราได้ เพื่อที่เวลาเราใส่วิ่งหรือปั่นจักรยาน ก็ยังได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมของเราได้อีกด้วย
นอกจากจะใช้เป็นหูฟังสำหรับฟังเพลงแล้ว Jabra Elite Sport ยังมีตัว Heart Rate Monitor เก็บค่าการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกาย เพื่อบันทึกกิจกรรมและนำไปประมวลผลได้อย่างเอียด ทั้งกับในแอพฯ ของ Jabra เอง หรือจะใช้กับแอพฯ อื่นๆ อย่าง Endomondo หรือ Strava ก็ได้
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : วิ่งจ๊อกกิ้งในสวนอย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 3-4 วัน
Runtastic Libra
ผมเรียกตาชั่งแบบนี้ว่า “ตาชั่งสแกนกรรม” คือมันไม่ได้แค่เอาไว้ขึ้นไปยืนแล้วบอกคุณว่าคุณน้ำหนักกี่กิโลกรัม แต่ยังบอกได้ว่าในร่างกายของคุณนั้นประกอบด้วยกล้ามเนื้อเท่าไหร่, น้ำ, กระดูก รวมไปถึงค่าดัชนีมวลกาย รู้ได้เลยว่าคุณอ้วน, น้ำหนักเกิน หรือสภาพร่างกายของคุณนั้นเป็นอย่างไร
ตาชั่งแบบนี้ทำงานคู่กับแอพฯ ในสมาร์ทโฟน คุณมีหน้าที่ขึ้นไปยืนชั่งบนมันทุกวัน แนะนำให้ชั่งตอนเช้าเมื่อคุณตื่นนอน แล้วคุณจะเห็นได้ว่ากรรมใดที่คุณทำไว้ในแต่ละวัน การออกกำลังกาย หรือว่าการกินอาหาร ส่งผลกับน้ำหนักและสภาพร่างกายของคุณอย่างไร
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : ลดน้ำหนักตัวให้ได้ 5-10% จากน้ำหนักก่อนเริ่มลด
Pokemon Go
บอกเลยว่าตั้งแต่เกมโปเกมอน โก เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มีเพื่อนๆ ของผมหลายคนที่เอาจริงเอาจังกับการตามล่าจับโปเกมอนแบบสายขาว ไม่มีโกงและใช้วิธีเดินหรือปั่นจักรยานเพื่อตามล่าและฟักไข่ตามสวนสาธารณะต่างๆ ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงคือ ผอมลงและรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม
ไม่ใช่อะไร เพราะเพียงแค่ในแต่ละวัน คุณเดินไปนั่นไปนี่ ออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายแทนที่จะนั่งเฉยๆ หรือนอนกลิ้งดูทีวีอยู่กลับบ้าน ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานและฮอร์โมนในร่างกายก็จะมีการผลิตมากขึ้น จุดประสงค์ของผู้สร้างเกมนี้ขึ้นมา ก็มีเป้าหมายที่อยากให้ทุกคนออกมาผจญภัยนอกบ้าน และสนุกกับการไปนั่นไปนี่ในสถานที่ต่าง
นอกจากจะเล่นจากแอพฯ ในสมาร์ทโฟนแล้ว หาซื้ออุปกรณ์เสริมอย่าง Pokemon Go Plus สำหรับเวลาที่ออกกำลังกายวิ่งหรือปั่นจักรยานเพื่อเก็บระยะในการฟักไข่ แล้วไม่ต้องเปิดสมาร์ทโฟนตลอดเวลา
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : เดินฟักไข่ 10 Km ให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ฟอง
Walkr
เป็นเกมในสมาร์ทโฟนที่หน้าตาเหมือนเกมสำรวจอวกาศเพื่อหาดาวดวงใหม่ๆ และสร้างทรัพยากรเพิ่มเพื่อปลดล็อคอุปกรณ์ต่างๆ ในเกม แต่ผู้สร้างแอบมีใส่แนวคิดที่ว่า เอาจำนวนก้าวเดินในแต่ละวันแปรมาเป็นค่าพลังงานสำหรับใช้เร่งเวลาสร้างสิ่งของต่างๆ ในเกมให้เร็วขึ้น นั่นคือเล่นเกมนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเทพทรูเติมเงิน แค่ออกไปเดินๆ วิ่งๆ ก็ช่วยเล่นเกมได้เร็วยิ่งขึ้นได้
แนวคิดเรื่องก้าวเดินในแต่ละวัน มีการศึกษาวิจัยว่า คนเราถ้าเดินอย่างน้อยวันละ 10,000 ก้าว ก็สามารถช่วยให้ร่างกายเราได้เคลื่อนไหว มีการเผาผลาญพลังงานที่ดีพอที่จะทำให้ร่างกายไม่อ่อนแอ
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : สะสมก้าวเดินในแต่ละวันให้ได้มากกว่า 10,000 ก้าว
Samsung Gear Fit 2
มาพูดเรื่องอุปกรณ์สวมใส่ที่จะทำให้คุณสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น Samsung Gear Fit 2 ถือว่าเป็นสายรัดข้อมือที่พัฒนาและออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายได้อย่างลงตัวที่สุดเท่าที่ Samsung เคยทำมา ตั้งแต่เรื่องขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา กันน้ำได้ เก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวได้ทุกรูปแบบ ทั้งเดิน วิ่ง เล่นกีฬา การนอน ฯลฯ แถมยังเพิ่ม GPS สำหรับเก็บเส้นทางในการวิ่งหรือปั่นจักรยาน และใส่เพลงไว้ในตัวเพื่อเชื่อมต่อหูฟังไร้สายเพื่อฟังระหว่างออกกำลังกายได้ด้วย
การทำงานของ Samsung Gear Fit 2 จะมาควบคู่กับแอพฯ Samsung Health ที่ทำหน้าที่เอาข้อมูลมาประมวลผลเป็นสถิติแบบละเอียด และยังใช้บันทึกข้อมูลอื่นๆ ได้อีกทั้งการดื่มน้ำ อาหารที่กินในแต่ละวัน ฯลฯ เรียกได้ว่าตัวเดียวจบครบถ้วนทุกอย่างที่อยากจะออกกำลังกายได้ในตัวเดียว
จริงๆ แล้ว Samsung เองก็มีสมาร์ทวอท์ชรุ่นใหม่อย่าง Gear S3 ที่มีฟีเจอร์เหมือนกัน (และมีมากกว่า) แต่มีจุดด้อยกว่าตรงที่มีน้ำหนักมากกว่าและราคาสูงกว่า ถ้าคุณโฟกัสที่เรื่องออกกำลังกายเป็นหลักแนะนำเป็น GEAR FIT 2 จะดีกว่า
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : ฝึกฝนร่างกายให้สามารถวิ่งระยะ 5 กิโลเมตรได้ในเวลา 40 นาที
Apple Watch
ถ้าหากคุณใช้ iPhone เป็นสมาร์ทโฟนคู่ชีพ การจะใช้ Apple Watch เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ชีวิตมีสีสันและสนุกสนานขึ้นก็เป็นอะไรที่ดีไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นสมาร์ทวอท์ชที่ทำได้สารพัดแล้ว ในรุ่น Series 2 นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นนาฬิกาสำหรับการออกกำลังกายที่สมบูรณ์แบบมากกว่ารุ่นแรกมากๆ ตั้งแต่การเพิ่ม GPS เข้ามา สามารถออกไปวิ่งโดยไม่ต้องพก iPhone ก็ได้ ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำและเก็บข้อมูลได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน กันน้ำในระดับที่ใส่ลงไปว่ายน้ำได้
รวมถึงปัจจุบันมีแอพฯ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการออกกำลังกายสารพัดอย่างให้คุณเลือกเล่นได้มากมาย เราแนะนำให้คุณเลือกเป็นรุ่น Nike+ Edition ที่สายเป็นแบบซิลิโคนแบบสปอร์ตที่มีรูระบายอากาศช่วยให้ไม่รู้สึกอับชื้นระหว่างออกกำลังกาย
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : เก็บวงแหวนทั้ง 3 สีให้ครบอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
Garmin Forerunner 35
การ์มินตอนนี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ผลิตนาฬิกา GPS สำหรับการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีหลากหลายรุ่นตั้งแต่ระดับต้นๆ ที่ราคาอยู่หลักพัน ไปยันรุ่นเกรดพรีเมี่ยมที่ราคาหลัก 2 หมื่นกว่าบาท ตัวที่เราอยากแนะนำให้คือรุ่น Forerunner 35 ที่ถือว่าเป็นรุ่นน้องเล็กสุดของนาฬิกาวิ่งของการ์มิน ด้วยความที่ราคายังไม่สูงมาก แต่ก็มีฟีเจอร์สำหรับการวิ่งและการเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ครบถ้วน
Forerunner 35 ตัวเรือนมีขนาดค่อนข้างเล็ก จอขาวดำ แต่มีฟีเจอร์เก็บข้อมูลการวิ่งครบ ทั้ง GPS เก็บเส้นทางระยะทาง มี Heart Rate Monitor แบบแสงที่ไม่ต้องใส่แบบสายคาดอกให้รำคาญ ใช้เป็น Activity Tracker เก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวตลอดวัน การเดิน การนอน ฯลฯ
จุดเด่นอุปกรณ์ของการ์มินนั้นที่อยากแนะนำก็คือระบบ Garmin Connect ที่เป็นระบบเก็บข้อมูลของผู้ใช้พร้อมการวิเคราะห์ที่ละเอียดและเข้าใจง่าย มีระบบการตั้งแผนการฝึกซ้อม ทำให้การออกกำลังกายด้วยการวิ่งนั้นมีแบบแผนและพัฒนาได้ จากคนที่อาจจะแค่วิ่งจ๊อกกิ้งไปเรื่อยๆ จะสามารถฝึกฝนต่อเนื่องไประดับวิ่งมาราธอนเลยก็ยังได้
เป้าหมายที่อยากท้าคุณใน 90 วัน! : ฝึกฝนร่างกายให้สามารถวิ่งระยะ 10 กิโลเมตรได้ในเวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
สำหรับ 10 แอพฯ และ Gadget ที่เราแนะนำมานี้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องลองทุกอัน จะลองเพียงแค่อันเดียว หรือว่าเลือกที่คิดว่าเหมาะที่จะนำไปใช้ดู เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นแอพฯ หรืออุปกรณ์ใดก็ตาม หากคุณไม่มีระเบียบวินัย และไม่ปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ ผลของการออกกำลังกายก็จะไม่สามารถสัมฤทธิ์ผลได้ เราเชื่อว่าเมื่อคุณได้ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย พร้อมทั้งดูแลสุขภาพตัวเองมากกว่าเดิม ความเปลี่ยนแปลงใน 90 วัน จะเป็นบันไดที่จะพาให้คุณมองเห็นความสำคัญเกี่ยวกับการออกกำลังกายและเล่นกีฬามากขึ้น แล้วเรามาฟิตแอนด์เฟิร์มไปด้วยกันดีกว่า!