ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและหัวเว่ยเมื่อกลางปี 2019 หลังที่โดนัล ธัมป์ ประกาศยุติความร่วมมือกับบริษัทไอทีในอเมริกากับ Huawei ทำให้ผู้ใช้งานมีความกังวลใน Service หลาย ๆ อย่าง อย่างแรกเลยคือ Android OS หรือ Google Mobile Service จะมีระบบปฏิบัติการอะไรมาทดแทนตรงจุดนี้
ไม่มี Google Mobile Sevice ก็ยังใช้งานได้ โดยโหลดแอปจาก Appgallary
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะมีคำถามเกี่ยวกับวิธีติดตั้งแอปพลิเคชั่นเมื่อซื้อ Huawei Mate 30 Pro มาใช้ว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง ไม่ต้องกังวลเพราะเราได้ทดสอบวิธีการมากมายสำหรับการติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่สามารถติดตั้งได้ง่ายพร้อมทั้งใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นผ่าน HUAWEI AppGallery ค้นหา และดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นลงในโทรศัพท์ใหม่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีทำงานในลักษณะเดียวกับแอปฯ สโตร์อื่น ๆ หรือใครที่ต้องการใช้งานบริการของกูเกิลสามารถดูวิธีติดตั้งได้จากลิงก์นี้ >> 3 วิธี ในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นบน HUAWEI Mate30 Pro
หลังจากประกาศตัดขาดกัน หัวเว่ยออก Mate 30 Pro ที่ไม่มี Google Mobile Service ติดตั้งภายในตัวเครื่องเป็นรุ่นแรก
Mate 30 Pro โดดเด่นด้วย 4 กล้องหลังที่ถูกโอบล้อมด้วยวงแหวน halo อันเป็นเอกลักษณ์ ประกอบไปด้วยกล้อง Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, กล้อง SuperSensing ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้อง 3D Depth Sensing (ToF) กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้ชิปประมวลผล HUAWEI Kirin 990 RAM 8 GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน 256 GB รองรับ NanoSD สูงสุด 256 GB จากสเปกที่กล่าวมานี้ มาในราคา 28,990 บาท
แน่นอนว่าไลน์ผลิตที่เกิดขึ้นหลัง Mate 30 Pro เป็นต้นไปนั้นจะไม่มีบริการของกูเกิลติดตั้งมาในเครื่องจะเป็น Huawei Mobile Services (HMS) ที่ทางหัวเว่ยพัฒนาขึ้นมาเอง Huawei Mobile Services ในประเทศจีนใช้งานอย่างแพร่หลาย HMS ช่วยยกระดับหัวเว่ยอีโคสซิเต็มให้ทำงานได้อย่างไหลลื่น เตรียมพร้อมรับมือสำหรับยุคสมัยแห่ง IoT ที่สมาร์ตดีไวซ์ต่าง ๆ จะต้องทำงานร่วมกับชิปเซ็ตและระบบคลาวด์ที่จำเป็นจะต้องเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว
ทาง Richard Yu ซีอีโอของหัวเว่ย แถลงบนเวทีในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 63 ที่ผ่านถึงการสร้าง Huawei Mobile Services (HMS) ของตัวเอง ใช้แทน Google Mobile Service โดย HMS แบ่งออกเป็นส่วนของแอป (HMS Apps) และส่วนของบริการ (HMS Core & Capacities) ที่เทียบได้กับ Google Play Services ซึ่งตอนนี้มี API ให้ใช้งาน 885 ตัว และมีนักพัฒนาทั่วโลกใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน มีผู้ใช้งานรวมทั่วโลก 570 ล้านคนต่อเดือน (global MAU)
โดย HMS มาพร้อมบริการต่าง ๆ อย่างครบวงจรครอบคลุมทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็น
- HUAWEI AppGallery แพลตฟอร์มในการเผยแพร่แอปพลิเคชันของหัวเว่ย หัวเว่ยยังได้เพิ่ม HUAWEI Quick App ที่จะทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นเพียงปลายนิ้ว และที่สำคัญสามารถติดตั้งได้ฟรีอีกด้วย
- HUAWEI Browser เบราว์เซอร์ที่เน้นความปลอดภัยและการใช้งานที่ง่ายสำหรับการท่องโลกอินเทอร์เน็ตแบบไม่มีที่สิ้นสุด
- HUAWEI Mobile Cloud พี้นที่บนคลาวด์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัย ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างราบลื่น ทั้งยังเป็นฐานเก็บข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญอย่าง รูปภาพ วิดีโอ และรายชื่อผู้ติดต่อ
- HUAWEI Theme ธีมในการใช้งานในสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแต่ละบุคคลด้วยจำนวนธีมที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 10,000 ธีม
- HUAWEI Music แอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงที่มีเพลงให้เลือกฟังอย่างหลากหลายกว่า 10 ล้านเพลง
- HUAWEI Video ผนึกกำลังกับผู้ให้บริการระดับแนวหน้า อาทิ Sony, Disney, Youku, Mango TV, Sohu, Jetsen Huashi Wangju หรือ HAUCE ให้ผู้ใช้งานชมภาพยนตร์จากทั่วโลก
- HUAWEI Reader ร่วมกับผู้ให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเผยแพร่เนื้อหามากกว่า 1 ล้านฉบับ และยังคงขยายฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังสร้างแพลตฟอร์มการอ่านหนังสือดิจิทัลเพื่อส่งมอบประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น
- HUAWEI Assistant เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่รอบรู้ และคอยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆ ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยอัปเดตข่าวสารตลอดวัน รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูล
แอปบางตัวอย่าง AppGallery หรือ Browser เปิดให้ใช้งานใน 170 ประเทศ และกำลังผลักดัน Music, Video, Assistant ออกมาทำตลาดนอกประเทศจีนด้วย จากบริการข้างต้นนั้นเรียกได้ว่าครบครันทุกการใช้งาน และตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างดี
ด้านความปลอดภัย
หัวเว่ยพูดถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม HMS ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมากที่จะโน้มน้าวให้คนมาใช้งาน ในการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนจะดีพลอยแอปขึ้นสโตร์นั้น นักพัฒนาจะต้องเข้ากระบวนการตรวจสอบแอปถึงสี่ขั้นตอน เพื่อนความปลอดภัยของผู้ใช้งานทั้งหมด นอกจากนี้จะต้องมีระบบการจัดการพื้นที่ ระดับอายุประเภทของแอป เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ รวมถึงแอปที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ
Huawei ไม่มีบริการ Google Mobile Service ยังน่าซื้อหรือไม่
ส่วนในประเทศไทยนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าจะซื้อสมาร์ตโฟน Huawei ไปแล้วจะใช้งานไม่ได้ ไม่มีแอปรองรับ ตอนนี้ทางผู้พัฒนาในไทยพัฒนาแอปที่รองรับการใช้งานทุกหมวดหมู่ลง AppGallery อย่างต่อเนื่องและจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งธุรกรรมการเงิน แอปธนาคาร, เกม, แอปจองโรงแรม, แอปดูหนัง, ข่าว, โซเซียลมีเดีย หรือชอปปิ้งออนไลน์
และจากบริการของหัวเว่ยเองก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานพื้นฐานได้ครบ ส่วนใครที่กลัวว่าแล้วจะเล่น Facebook, Instagram และ Twitter ยังไง ไม่ต้องห่วงทาง Richard Yu บอกจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการนำแอปทั้งสามนี้มาลงใน AppGallery ของหัวเว่ย แต่ยังไม่ยืนยันแน่ชัดนัก และล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากทาง Google ว่า ได้ทำการยื่นเรื่องขอใบอนุญาตกับรัฐบาลสหรัฐ เพื่อขอกลับมาทำธุรกิจกับหัวเว่ยอีกครั้ง หลังจากที่คำสั่งห้ามถูกประกาศมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ Huawei Y7p ตัวเล็ก สเปกเทพ มาพร้อม RAM 4GB ROM 64GB เรียกได้ว่าเป็นผู้นำในด้านกล้อง และเทคโนโลยีการถ่ายภาพ มากับกล้องหลัง 3 กล้อง กล้องหลัก 48MP ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุดมากกว่า 8K กล้องมุมกว้าง 8MP ครอบคลุมถึง 120 องศา และกล้อง 2MP ช่วยสร้างความลึกเสมือนจริง ยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพอย่างเป็นมืออาชีพ ขุมพลังชิปเซ็ต Kirin 710F GPU Turbo รันบนระบบ HUAWEI Mobile Services ในราคาเพียง 4,999 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มที่สุดในประเทศไทย
พี่ก็ดี น้องก็โดน Huawei Mate 30 Pro และ Huawei Y7p แม้ไม่มี GMS ใครที่มองหาสมาร์ตโฟนที่ฟีเจอร์ครบ ๆ โดดเด่นในเรื่องกล้อง แต่อยากได้ความหรูหราในด้านของดีไซน์ สเปกแบบจัดหนัก Mate 30 Pro ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ ตอนนี้จักโปรกับผู้ให้บริการเครือข่ายราคาเรชิ่มต้นเพียง 12,490 บาทเท่านั้น (ลดเป็นหมื่น) สำหรับใครอยากได้มือถือสเปกดี ไม่ขี้เหร่ กล้องแจ่ม หรือเอาไว้ใช้เป็นเครื่องสำรอง ซื้อให้พ่อแม่ ลูกหลาน ในราคาไม่ถึงห้าพัน! Huawei Y7p เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับหนึ่งได้เลย
สำหรับผู้ที่ซื้อ Y7p ซื้อและเปิดใช้งาน ตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 จนถึง 31 มีนาคม 2563 รับฟรี! สิทธิพิเศษสำหรับบริการ Y7p VIP Service มูลค่า 2,239 บาท
และเร็ว ๆ นี้ Huawei Mates 30 Pro 5G จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 มีนาคม 63 ที่จะถึงนี้ เป็นสมาร์ตโฟนรองรับการใช้งาน 5G ในราคาเริ่มต้นเพียง 17,990 บาท
สำหรับใครเล็ง ๆ จะซื้อสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตของหัวเว่ยหลังจากนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีแอปรองรับแล้ว สามารถใช้งานได้ปกติ ทั้งสเปก ฟังก์ชั่นต่าง ๆ และราคาสมเหตุสมผล หรือจะซื้อเครื่องติดโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่าย โปรบัตรเครดิตก็เป็นอีกตัวเลือกที่คนสนใจได้เลย