แม้ Facebook Live จะเปิดตัวแรงแค่ไหน แต่แอพฯ อื่นๆ ที่สร้างมาเพื่อการ Live โดยเฉพาะ เช่น Bigo Live, TalkTalk, Kitty Live, It’s Me Live, iShow, และอีกหลายๆ แอพฯ นั้นกลับไม่สะทกสะท้าน แถมยังมียอดผู้ชมและผู้ถ่ายทอดสด (Broadcaster) มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเอเชียและประเทศไทย
หลายเดือนก่อน มีข่าวหนุ่มคนหนึ่งนำเงินของแม่มา “เปย์” (pay) ให้กับสาวที่ถ่ายทอดสดในแอพฯ ไลฟ์รวมแล้วเป็นเงินหลักล้าน เกิดความสงสัยให้กับหลายๆ คนว่า อะไรเป็นแรงจูงใจให้ชายคนนี้จ่ายไปขนาดนั้น
คำว่าเปย์นี้เป็นศัพท์ในวงการแอพฯ Live หมายถึงการเติมเงินในแอพฯ นั้นๆ ซะก่อน แล้วจากนั้นก็ถึงจะมีสิทธิส่ง “ของขวัญ” หรือ “Virtual Gift” เป็นตัวแอนิเมชั่นเช่น รอยจูบ ดอกกุหลาบ เพชร และรถสปอร์ต ซ้อนลงไปบนจอถ่ายทอดสดของพริตตี้สาวหรือหนุ่มหล่อที่ถูกใจ ซึ่งก็คือการ “ส่งเงินทางอ้อม” ไปให้นั่นเอง
เมื่อส่งของขวัญแล้ว วิ่งปรู๊ดปร๊าดโดดเด่นกว่าผู้ชมคนอื่นๆ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดและคำขอบคุณระบุชื่อผู้ให้ จากสาวพริตตี้ผู้ถ่ายทอดสด และนั่นทำให้ผู้เปย์จะถูกพริตตี้จำชื่อได้ แตกต่างจากผู้ชมทั่วๆ ไปอีกหลายร้อยหรือบางรายก็เป็นพันคน ซึ่งบางครั้งอาจก็อาจต่อยอดไปถึงการนัดพบปะทำความรู้จักกันนอกจอไลฟ์ก็เป็นไปได้ และนี่เองเป็นแรงจูงใจให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เล่นแอพฯ นี้บางคน กลายเป็น “สายเปย์” ซึ่งหมายถึงนักส่งดอกไม้ ส่งเพชร ส่งรถสปอร์ต ไปวิ่งตามจอไลฟ์ของสาวสวยๆ หลายๆ คน จนเป็นที่คุ้นเคยชื่อ ถึงขนาดพริตตี้หลายคนทำป้ายขอบคุณติดไว้ด้านหลังทุกครั้งที่ออกอากาศ ประดุจป้ายชื่อสปอนเซอร์ในรายการเกมส์โชว์ทางทีวีเมืองไทยกันเลย
อย่างไรก็ตาม นักไลฟ์ หรือที่เรียกกันว่า “Broadcaster” นั้น ไม่ได้มีแค่สาวๆ แต่ก็มีผู้ชายหล่อๆ หลายคนเช่นกัน ฉะนั้นจึงนิยมถูกเรียกรวมๆ ว่า “ดีเจ” ซึ่งหลายๆ คนที่ขยันออกอากาศทุกวัน (ส่วนใหญ่จากในบ้านตัวเอง) ก็สามารถทำรายได้เดือนละหลายพันบาทและบางคนก็เป็นหลักหมื่นบาท
“รูปแบบรายการ” ที่หนุ่มสาวเหล่านี้ทำ ส่วนใหญ่ก็นั่งคุย ตอบคอมเมนต์ไปเรื่อยๆ โดยมีจุดขายที่หน้าตา ความน่ารัก หรือความหล่อ แต่บางคนก็เต้น ทั้งแบบตลก แบบน่ารัก หรือแบบเซ็กซี่ หรือที่มีความสามารถทางดนตรีก็ร้องเพลง เล่นกีตาร์ เป็นต้น
หรือบางคนแหวกแนว ก็เช่นหนุ่มไทยคนหนึ่งที่มักจะโชว์การแชทผ่านจอคอมฯ กับสาวๆ สวยๆ แทบทุกคืน เสมือนจัดรายการทอล์คโชว์ ซึ่งสาวๆ เหล่านั้นก็ไม่ใช่ใคร เป็น Broadcaster ในแอพฯ เดียวกันนั้นเอง ถือเป็นกลยุทธการแลกเปลี่ยนกลุ่มแฟนคลับกันระหว่างดีเจหนุ่มกับพริตตี้สาวๆ ได้อย่างน่าสนใจ เนื้อหาสไตล์อื่นๆ นอกจากนี้พบได้น้อย แต่ก็พอมี เช่น โชว์ไปกินร้านต่างๆ ไปเที่ยวไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน โชว์หมาแมว โชว์ขับรถ โชว์เปิดไพ่ดูดวงสดๆ หรือแม้แต่โชว์ระหว่างนั่งจดในห้องเรียน !
แอพฯ ประเภทไลฟ์นี้มีหลายแอพฯ เช่น Bigo Live, Talktalk, Kitty Life, M Life, และ It’s Me (หรือที่หลายคนเรียก “แอพฯ อิฐ” ) แต่ที่นิยมที่สุด และแทบจะเป็นมาตรฐานล่าสุดให้แอพฯ อื่นๆ ทำหน้าจอเมนูต่างๆ สไตล์เดียวกันไปแล้วก็คือ Bigo Live ที่เรียกกันทั่วไปว่า “บิโก้”
ฉะนั้นเราจะมาเจาะลึกทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ในจอและนอกจอของแอพฯ นี้กัน เพื่อจะได้สามารถไปประยุกต์เข้าใจไปถึงแอพฯ อื่นๆ ด้วย
เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกสาวสวยหนุ่มหล่อ มา Live เปิดเวที
แอพฯ Bigo Live นั้น ไม่ได้เปิดมาแล้วรอให้ “คนทางบ้าน” ไลฟ์กันเองล้วนๆ แต่อย่างใด แต่เริ่มต้นจากการที่บริษัทแม่ของ Bigo มาเปิดสำนักงานในไทย ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา แล้วเปิดแคสติ้งเพื่อหาสาวสวยหนุ่มหล่อมาเป็น “Broadcaster” หรือ “ดีเจ” ประจำแอพฯ ฯประเทศไทยชุดแรก
ใครที่ผ่านการคัดเลือก ก็มีการเซ็นสัญญาเช่นว่าต้องออกอากาศเดือนละ 20 ชั่วโมง ช่วงเวลาค่ำคืนต่างๆ กันไปแล้วแต่ใครสะดวกเวลาไหน เป็นต้น ซึ่งหน้าที่ของดีเจชุดแรกนี้ ก็คือมา เสมือนมา “เปิดฟลอร์” เพื่อสร้างกลุ่มผู้ชม และที่สำคัญคือสร้างความรับรู้ในตัวแอพฯ Bigo Live
ใครๆ ก็ Live ได้
จากนั้นผู้ชมคนไหนจะคันมืออยากออกจอบ้าง ก็แค่ก็ปุ่มรูปกล้องในแอพฯ แล้วเริ่ม Live ได้เองเลย แต่แน่นอนว่าช่วงแรกๆ ของดีเจสมัครเล่นมือใหม่นั้น คนดูก็ย่อมจะน้อย อาจจะหลักหน่วย หลักสิบ ซึ่งก็ต้องหาทางสร้างสมให้เพิ่มขึ้นกันต่อไปถ้าใครจะเอาจริงเอาจังขึ้นมา
ซึ่งปัจจุบันแอพฯ นี้ได้มาถึงจุดที่ดีเจส่วนใหญ่เป็นดีเจสมัครเล่น คนทางบ้าน ใครอยากไลฟ์ก็ไลฟ์ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาผูกพันกับบริษัท Bigo Thailand แต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม ดีเจหรือ Broadcaster ทุกคน ก็อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน เช่น ห้ามโชว์หัวหน้าอก ผู้หญิงห้ามโชว์ร่องอกมากเกินไป ผู้ชายห้ามถอดเสื้อ เว้นแต่จะว่ายน้ำโชว์ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดหน้ากล้อง ห้ามสูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติดใดๆ หน้ากล้อง ห้ามปล่อยให้ผู้ชมดูแต่กำแพงว่างๆ หรือผนังเปล่าๆ นานเกินไป ฯลฯ
ทีมงานผู้ดูแลแอพฯ นั้นทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ใครที่ถูกพบว่าละเมิดกฎ ก็จะถูกห้ามออกอากาศเป็นเวลาต่างๆ กันไป เช่น 1 ชั่วโมง 1 วัน 3 วัน หรือตลอดไป ตามแต่ความร้ายแรงและความผิดซ้ำซาก
โดยอาการถูกแบนนั้น เรียกกันในวงการนักดูไลฟ์ว่า ”บิน” เช่นถ้าดูพริตตี้สาวคนไหนโชว์วาบหวามมากๆ อยู่ดีๆ ก็เกิดจอดำ ก็จะเป็นที่รู้กันว่าพริตตี้ดีเจคนนั้นได้ “บิน” ไปเสียแล้ว
วิธีเล่นแอพฯ ฉบับผู้ชม
อ่านถึงตรงนี้ใครที่ไม่เคยเล่น คงอยากลองเล่นกันแล้ว แน่นอนเริ่มต้นก็ต้องเข้าไปโหลดแอพฯ “Bigo Live” มาจาก Play store หรือ App store กันมาก่อน จากนั้นเมื่อเปิดแอพฯ ครั้งแรกก็คล้ายๆ แอพฯ อื่นๆ ยุคนี้ ที่จะให้เราล็อกอิน ด้วยชื่อในโซเชี่ยลฯ สักชื่อหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นแค่ผู้ชมก็ต้องล็อกอินด้วย เพราะจะได้คอมเมนต์ระหว่างชมได้ในชื่อของเราเอง ซึ่งของ Bigo Live นี้ก้มีให้เลือกว่าจะ “ล็อกอิน” เข้าใช้ด้วย Facebook, Twitter หรือ Google+
จากนั้นบางคนอาจจะชื่อเฟสบุ้คยาวเกินไป เข้ามาในนี้อยากใช้ชื่อสั้นๆ หรือบางคนกลัวคนรู้จักมาเห็นชื่อเรา มารู้ว่าเราชอบส่องพริตตี้หรือสิ่งหนุ่มหล่อ ! … ก็สามารถเปลี่ยนชื่อ, เพศ, รูปโปรไฟล์ และคำบรรยายตัวเองได้ตามใจ ซึ่งจะมีผลเฉพาะในแอพฯ นี้
หน้าจอหลัก ก็จะเห็นรูปโปรไฟล์ของดีเจ หรือ Broadcaster แต่ละคนเรียงกันลงไปตามความนิยมและปัจจัยหลายๆ อย่าง เราสามารถปัดนิ้วเลื่อนๆ ลงไปหาคนที่อยากดูแล้วกดเข้าไปก็ได้ หรือจะเข้าไปดูจากคนบนสุดก่อน แล้วปัดนิ้วเลื่อนลงไปดูคนถัดๆ ไปโดยไม่ต้องออกมาหน้าหลักก็ได้เช่นกัน
ทีนี้ก็จะได้ดูสาวสวยหรือหนุ่มหล่อคนนั้นเต็มๆ จอ แต่ก็มีฟังก์ชั่นและสถานะต่างๆ ซ้อนอยู่ด้วย …เริ่มจากที่มุมบนซ้ายเป็นชื่อ ID ของดีเจคนนั้นๆ พร้อมเครื่องหมาย + ให้เรากดติดตามประจำได้ ซึ่งหากกดแล้ว เมื่อไหร่ดีเจคนนี้ออนแอร์ ก็จะมีการแจ้งเตือน Notification ขึ้นมาบนมือถือเรา …และครั้งต่อไปเมื่อเราเข้าแอพฯ แล้ว หากขี้เกียจเลื่อนหาดีเจคนโปรดในหน้าหลัก ก็สามารถกดที่จุดแดงมุมบนขวาจอ เพื่อเลือกเฉพาะจากดีเจที่เรา Follow ไว้ได้เลย
ถัดไป ใต้ป้ายชื่อ จะเห็นรูปถั่วสีทอง นั่นคือเงินสะสมที่ดีเจคนนั้นๆ เคยได้รับการ “เปย์” มา โดยหากดีเจคนไหนขึ้นโชว์ว่ามี 1 แสนกว่าถั่วแล้ว ก็แปลว่าเธอหรือเขาคนนั้นมียอดรายรับสะสมแล้วราว 1 หมื่นบาท ซึ่งจากการสังเกตการณ์นั้น ดีเจพริตตี้สาวสวยบางคนมียอดถั่วแล้วถึงหนึ่งล้านกว่าๆ นั่นแปลว่าสร้างรายรับจากแอพฯ นี้ไปแล้วนับแสนบาท !
ถัดลงไปครึ่งจอล่าง เป็นคำคอมเมนต์จากผู้ชมต่างๆ นานาโดยจะเลื่อนลงไปเรื่อยๆ ดีเจคนไหนที่ฮอตๆ คำคอมเมนต์ คำชม คำจีบ คำแซว ฯลฯ จะไหลเลื่อนลงเร็วมากแทบอ่านไม่ทัน เว้นแต่ว่าใครจะลงทุน “เปย์” คำคอมเมนต์ของเขาหรือเธอผู้นั้นก็จะลอยเด่นเป็นสง่าอยู่พักใหญ่ ไม่ไหลลงไปแบบของคนอื่นๆ พร้อมด้วยรูปรอยจูบ หรือดอกกุหลาบ หรือรถสปอร์ตวิ่งเฟี้ยวฟ้าวเป็นที่ตื่นตา ก็แล้วแต่ว่าจะเปย์มากน้อยแค่ไหน
… ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลสำคัญให้ผู้ชมบางคนยอมจ่ายเพื่อให้สะดุดตาสะดุดใจดีเจคนนั้นๆ หรือหวังสานสัมพันธ์กันต่อๆ ไป …โดยปุ่มต่างๆ ในการเปย์นั้น อยู่ที่มุมล่างสุดขวาสุดของจอ เริ่มจากกดปุ่มรูปของขวัญ
อย่างไรก็ตาม บางคนอยากแสดงความชื่นชอบต่อดีเจคนนั้นๆ แต่ไม่อยากเปย์ หรือไม่สะดวกเติมเงิน ก็สามารถช่วยกดปุ่ม “แชร์” ที่อยู่ติดกับปุ่มของขวัญ เพื่อแชร์การออกอากาศนั้นๆ ขึ้นเฟสบุ้ค หรือไลน์ หรือทวิตเตอร์ของเราแทนได้ ซึ่งทางดีเจก็จะได้รู้แล้วกล่าวขอบคุณเราด้วย เพราะการถูกแชร์หรือถูกเปย์นั้น มีส่วนทำให้รูปโปรไฟล์ของดีเจคนนั้นๆได้อยู่บนๆ สูงๆ ในหน้าล่าง ซึ่งย่อมมีโอกาสถูกกดเข้าชมมากกว่าพวกที่อยู่ล่างๆ ซึ่งต้องเลื่อนไกลๆ
… แต่ทั้งหมดนี้ หากผู้ชมคนไหนอยากดูแค่หน้าดีเจเต็มๆ จอ โดยไม่ต้องอ่านต้องเห็นคอมเมนต์ใดๆ มาซ้อน และไม่มีส่วนต่างๆ ให้เกะกะตา ก็สามารถปัดนิ้วไปทางซ้าย ก็จะได้ชมกันเต็มๆ แบบไม่มีอะไรบัง
วิธีเล่นแอพฯ ฉบับผู้โชว์
จากนั้นใครอยากจะออกกล้องบ้าง ก็กลับออกไปที่หน้าหลัก แล้วกดไปที่ปุ่มรูปกล้องวิดีโอ ซึ่งเป็นปุ่มใหญ่ที่สุดตรงกลางด้านล่าง จากนั้นก็เลือกว่าจะใช้กล้องหน้าหรือกล้องหลัง แล้วแอพฯ จะมีการนับถอยหลัง ถึง 0 เมื่อไหร่ก็คือเริ่มถ่ายทอดสดทันที ปัจจัยในการเรียกผู้ชมเข้ามา อย่างแรกก็คือรูปโปรไฟล์ของเราเองซึ่งจะปรากฏในหน้าหลัก ว่าจะดึงให้คนอยากกดเข้ามาดู หรือแค่เลื่อนหนีผ่านไป อย่างที่สองก็คือชื่อ ID ที่บางคนก็มีเทคนิคใส่คำขำๆ ฮาๆ ไว้เรียกแขก
จากนั้นเมื่อผู้ชมเข้ามาแล้ว ก็อยู่ที่บุคลิกหน้าตา และความสามารถพิเศษต่างๆ ว่าจะดึงคนให้อยู่ชมได้นานแค่ไหน โดยอย่าลืมพูดขอให้ผู้ชม “Follow” ไว้ เผื่อวันหลังเราออนแอร์เมื่อไหร่เค้าจะได้ทราบกันถ้วนหน้าแล้วเข้ามาชมกันตรงๆ ไม่ต้องไปเลื่อนหาในหน้าหลัก
เทคนิคสำคัญคือหากมีใครคอมเมนต์ชม แซว หรือถามอะไรมา ควรตอบให้ครบ แม้อ่านไม่ทันก็ต้องพยายามเลื่อน Scroll ขึ้นไปอ่านแล้วตอบให้ครบ มิฉะนั้นผู้ชมคนนั้นๆ อาจน้อยใจ หนีออกไปเลย …ซึ่งการตอบครบถ้วนนี้เป็นคุณสมบัติที่ดีเจยอดฮิตทั้งหลายในนี้ยึดถือกันเป็นส่วนใหญ่ และที่สำคัญคือต้องกล่าวขอบคุณและเรียกชื่อคนที่มา “เปย์” ให้ทุกคนทุกครั้ง และขอบคุณไปถึงทุกคนที่แชร์ให้ด้วยก็จะยิ่งดี เป็นการมัดใจให้ผู้ชมคนนั้นๆ รู้สึกมีส่วนร่วมและอยากกลับมาชมมาฟังอีกเรื่อยๆ
คุยกับ 2 สาวดีเจสมัครเล่น
“น้องแคร์” ฐานิสร สีน้ำเพชร
“น้องแคร์”เป็นนักศึกษาสาววัย 21 ปี เรียนปี 4 นิเทศศาสตร์ หลักสูตรอินเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (BUIC) ชื่อใน Bigo Live ว่า “kaethy” ชื่อหน้าจอสั้นๆว่า “KT” และเจ้าของชื่อเฟสบุ้ค “Kaethys Bateman” ส่วนชื่อในอินสตาแกรมคือ kaethy.s
เธอสร้างฐานผู้ชมในแอพฯ Bigo Live ได้ถึงครั้งละประมาณเกือบพันถึงพันกว่าคนขึ้นไป ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยโชว์จุดเด่นที่การร้องเพลงที่ไพเราะด้วยลูกเอื้อนสไตล์ R&B และร้องเพลงได้หลายแนวหลายยุค แถมด้วยหน้าตาที่น่ารักสไตล์เกาหลี
รู้จักแอพฯ Live ได้อย่างไร ?
“แคร์เคยเข้าไปดูเพื่อนไลฟ์ในเว็บ Talktalk เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไรค่ะ เข้าไปดูเฉยๆ น่ารักดี แต่ที่แคร์มารู้จัก bigo ได้ เพราะว่าแคร์เห็นรุ่นพี่สองคน เขาไปแคสมาแล้วผ่าน ซึ่งแคร์ก็สงสัยว่า มันคือแอพฯ อะไร ดูน่าสนุกดี แล้วกล้องมันฟรุ้งฟริ้งทำให้หน้าสวยดี 5555”
“แคร์ก็เลยลองโหลดมาเล่นดู แรกๆ ก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาดูค่ะ แคร์ไม่สวย 55555 แคก็เล่นเปียโนร้องเพลงไปเรื่อย แต่ส่วนใหญ่จะไปดูคนอื่นคุยกับคนอื่นมากกว่าไลฟ์เอง ตอนนั้นมันสนุกเพราะไปชวนเพื่อนในกลุ่มมาเล่น แล้วก็นัดกันไปดูคนนู้นคนนี้ไลฟ์ เลยติด bigo มากๆ”
เริ่มมา Live ได้อย่างไร ?
“แคร์เล่นมาประมาณร่วม 5 เดือนได้แล้วค่ะ ติดมากกกกก! มันสนุกกับการมีเพื่อนบนโลกออนไลน์ที่บางคนก็เห็นหน้าบางคนก็ไม่เห็นหน้าได้มารู้จักกัน เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับแคร์มาก/ แคร์ว่ามันดีกว่า Facebook live ก็ตรงที่ มันเสถียรกว่าค่ะ Facebook มันช้า กว่า comment จะขึ้นแต่ละอันให้เราเห็น มันไม่สนุกเหมือนพวกแอพฯ ที่ทำมาเพื่อ live สดโดยเฉพาะ”
“แคร์ไม่ได้คิดจะหารายได้เลยค่ะ เพราะไม่ได้หน้าตาดีอะไร รู้ว่าถ้าไลฟ์ไปก็ไม่ได้มีใครเข้ามาดูเท่าไหร่ แต่ตอนนั้นเราชอบไปแซวคนอื่น กวนคนอื่นเขา ก็เลยมียอด follow 1 พันกว่าคนค่ะ หัวสังกัดๆ นึงเขาเลยมาชวนให้เราเข้า แต่ตอนแรกเราปฏิเสธ หลังๆ คุยไปคุยมาก็สนิทกัน เลยเข้าไปเซ็นต์ แต่ก็เล่นขำๆ นะ ไม่คิดว่าจะได้ของขวัญเยอะ หรือคนดูเยอะ”
“แต่แคร์รู้ตั้งแต่แรกนะคะว่าแอพฯ นี้มันได้เงินเดือน แต่ไม่เคยคิดจะไปลองแคสค่ะ เพราะอายหน้าตา 5555 กลัวไม่ผ่าน มันต้องไปแคสที่บริษัทแล้วก็โชว์ความสามารถ โชว์การพูดของเรา ซึ่งเราไม่ได้เป็นคนกล้าแสดงออกซักเท่าไหร่ เลยเอาแค่ขำๆ พอ”
ดีเจหลายๆ คนมีบริษัทต้นสังกัด บริษัทพวกนี้ทำอะไรบ้าง ?
“เค้าเป็นเหมือนโมเดลลิ่งหาเด็กเข้าสังกัดแล้วดูแล ก็จะได้ค่าหัวคิวค่ะ เหมือนพวกแมวมองหาคนไปเป็นดาราแหละ เวลามีปัญหาอะไรก็ผ่านโมเดลลิ่ง ดีเจก็สามารถไปปรึกษาหรือให้โมเดลลิ่งต้นสังกัดดำเนินเรื่องให้โดยไม่ต้องติดต่อกับบริษัทบิโก้เองค่ะ”
รายได้ดีเจเป็นยังไงบ้าง ?
“แคร์เองได้เงินเดือนมา 5 เดือนตามที่เล่นค่ะ เดือนแรกเซ็นสัญญาตอนปลายเดือน แต่ก็ยังได้เงินเดือน เขาจะมีตารางเงินเดือนให้ค่ะ ว่าถ้าเซ็นวันนี้จะต้องเก็บเวลากี่ชั่วโมงถึงจะครบตามเซ็นสัญญาแล้วจะได้เงินเท่ากับกี่บาท เขามีโบนัสให้ด้วยค่ะสำหรับวีเจที่ได้ของขวัญเยอะๆ หรือคน follow เยอะๆ ตอนแรกนะคะ”
“แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนระบบใหม่หมดแล้ว ตอนแรกเขาให้เงินเดือนเป็นเดือนๆ maximum ก็ 12,000 บาทเท่านั้นค่ะ แต่ตอนหลังนี้เขาเปลี่ยนเป็นให้เรากดแลกได้ทุกอาทิตย์ค่ะ แต่ต้องได้ของขวัญมาอย่างน้อย 6,700 ถั่วนะคะถึงจะแลกได้ทีนึง ไม่มีกำหนด maximum แล้วค่ะ แต่แค่อาทิตย์นึงแลกได้ครั้งเดียว ก็เหมือนกับเราสามารถเบิกเงินเดือนออกมาใช้ก่อนได้ ก็ดีไปอีกแบบค่ะ”
กระทบการเรียนมั้ย ?
“ตั้งแต่ไลฟ์มาก็กระทบชีวิตประจำวันนิดหน่อยนะ แรกๆ ติดมาก จนไม่เป็นอันกินอันนอนเลย เหมือนบีโก้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตื่นมาต้องดู ก่อนนอนต้องดู ถ้าไม่ดูอยู่ไม่ได้ ต้องไลฟ์ทุกวัน ทักทายทุกคน แต่ก็มีความสุขไปอีกแบบ ของแคร์ไม่เรียกว่าผลกระทบนะคะ เพราะแคร์มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องเรียนเลยค่ะ เพราะเพื่อนแคร์เองที่มหาลัยก็เล่นกันเยอะแยะ”
นอกจากไลฟ์เองแล้ว ไปดูคนอื่นด้วยมั้ย ?
“ไปดูตลอดค่ะ ไปให้ของขวัญ ไปคุยด้วยตลอด แคร์สนับสนุนสายดนตรีด้วยกันค่ะ ชอบไปฟังคนอื่นร้องเพลง ไปดูคนอื่นจัดไลฟ์ เผื่อจะได้หาอะไรมาเพิ่มเติมในการไลฟ์ของตัวเอง
ผู้ชายไลฟ์ต่างจากผู้หญิงยังไงบ้าง ?
“แคร์คิดว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็เหงา ว่างๆ ก็อยากไลฟ์เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายจะไลฟ์ไม่ค่อยบ่อยเท่าผู้หญิง คนที่ดังๆ ก็มักจะมาจากการคุยตลก การแสดงอะไรฮาๆ การมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เช่นการแร๊พสด การเล่นบีท การร้องเพลง เล่นกีต้า เล่นเปียโน หรือการใช้เอฟเฟ็คท์ call วิดีโอหาคนอื่นให้คนหลายๆ ประเภทได้เข้ามาดูมาชมกันค่ะ”
คิดว่าแอพฯ Live จะฮิตชั่วคราวเป็นแฟชั่นมั้ย ?
“แคร์ไม่แน่ใจว่าแอพฯ อื่นๆ จะอยู่ได้ยาวนานไหม เพราะคนส่วนใหญ่ก็รู้จักแอพฯ นี้ดีกว่าแอพฯ อื่นๆ แล้วมันก็ดังกว่าแอพฯ อื่นๆ ด้วย อาจจะในด้านดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่ ปะปนกันไป แต่สำหรับแคร์มองว่า Bigo คงยังอยู่อีกนานเป็นปีๆ เลยค่ะ เพราะแคร์เองก็ไม่ได้คิดจะเลิกเล่นเลย ยังคงสนุกและมีความสุขกับการได้พูดคุยและทักทายกับคนอื่นที่เขาเข้ามาพูดคุย สนใจในความสามารถในการเอนเตอร์เทนของเรา”
“น้องเต้” ภูริตา แย้มพลาย
“น้องเต้” พนักงานสาวออฟฟิศและอดีตพริตตี้อาชีพวัย 25 ปี ชื่อใน bigo live ว่า GOD~♛โปเต้🐻~♛ หรือเสิร์ชได้ด้วยไอดีว่า pote1991 เจ้าของชื่อเฟสบุ้ค Phuri Pot’e Yaemphail และชื่ออินสตาแกรม phuritayp เธอมีจุดเด่นที่หน้าตาน่ารักและดูเด็กกว่าอายุ ความตลกแบบใสๆ ในการพูดจาท่าทาง และเรื่องราวชีวิตต้องสู้ตั้งแต่วัยเด็กที่นานๆ เธอจะเล่าทางไลฟ์สักครั้งแต่เรียกน้ำตาผู้ชมผู้ฟังได้เสมอ
รู้จักแอพฯ Live และเริ่มมา Live ได้อย่างไร ?
“รู้จักแอพฯ Live จาก Facebook เป็นอันดับแรกเลย ไม่เคยเล่นแอพฯ Live อื่นเลยค่ะ แล้วก็มารู้จักมาลองเล่น Bigo Live จากเพื่อน เลยลองโหลดมาเล่นดู สนุกดี พอลองมาไลฟ์เองบ้างก็เงอะๆ งะๆ เพราะเล่นไม่เป็น มีเล่นไป งงไป ก็ขำตัวเองไป แรกๆ มองว่าตัวเองดูเหมือนคนบ้าคุยคนเดียว 5555 มาไลฟ์เองแล้วถึงจะรู้ว่าเล่น Bigo live แล้วมีรายได้ ก่อนนี้ไม่เคยทราบเลยค่ะ”
มองว่าต่างจาก Facebook Live ยังไง ?
“เต้ว่ามันดูน่าเล่น น่าตื่นเต้นกว่าค่ะ ด้วยรูปลักษณ์ของ Bigo ดูตอบโจทย์วัยรุ่นในสังคมได้มากกว่า และดูเปิดโลกกว้างกว่าใน Facebook live ค่ะ ส่วนที่ถามว่าดีกว่าแอพฯ อื่นอย่างไร ในส่วนนี้เต้ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะเต้เล่นแค่ Bigo live”
นอกจากไลฟ์เองแล้ว ไปดูคนอื่นด้วยมั้ย ? … ผู้ชายจัดต่างจากผู้หญิงยังไง ?
“ดูค่ะ ก็วนไปดูตลอด ในสังกัดของเต้ส่วนมากก็เป็นผู้ชายค่ะ ผู้ชายกับผู้หญิงพูดไม่ถูกนะคะว่าแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการขึ้น Live ของแต่ละคน แต่ละเพศ เค้ามีความสามารถต่างกัน
“การ Live ของผู้ชายเต้มองว่า ต้องกล้าแสดงออกมากพอค่ะ คุณต้องมั่นใจในความสามารถของคุณ และคุณต้องปากหมา (555+) กล้าโชว์ จัดมันส์จริง และกวนๆ หน่อยค่ะ ต่างจากผู้หญิงที่จะเน้นน่ารัก”
ทราบว่าดีเจหลายๆ คนในนั้นมีบริษัทต้นสังกัดด้วย ?
“ค่ะ แต่เขาเป็นใคร และเป็นบริษัทหรือป่าวเต้ก็ไม่ทราบนะคะ ช่วยดูแลทุกคนในสังกัดค่ะ คอยดูแล คอยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับกติกา กฎระเบียบต่างๆ ของแอพฯ คอยเช็คความผิดพลาดของระบบให้เราเวลาที่เราเจอปัญหาในการใช้แอพฯ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับแอพฯ ค่ะ”
คิดว่าแอพฯ Live จะฮิตชั่วคราวเป็นแฟชั่นมั้ย ?
“คิดว่าแฟชั่นชั่วคราวค่ะ แต่ก็คงไม่ใช่แค่ระยะสั้น เพราะจากที่เล่นๆ มา ดูมีการตอบรับที่ดีมากอยู่ค่ะ มีการตอบสนองของยูสเซอร์มากถึงมากกกที่สุด ทั้งสายเปย์ สายแชร์ สายหื่น สายสิง และสายอื่นๆ โดนส่วนตัวเต้เองคิดว่าคงเล่นไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าจะเบื่อเมื่อไหร่เหมือนกัน เพราะเวลาเหงา เบื่อ เซง เต้ก็จะขึ้น Live ค่ะ มันช่วยได้แก้ได้ค่ะ
สำหรับคนที่เล่นโซเชียลฯไม่ว่าแอพฯ ไหนนะคะ อยากบอกว่า คุณอย่าไปใส่ใจกับสิ่งนี้มากค่ะ อย่าหลงระเริงจนเกินตัว อย่าคาดหวังในสิ่งที่เรียกว่า โซเชียล แค่เอาสนุก เอาพอแก้เบื่อ แก้เซง อย่าเกินเลยหรือเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของมันมากค้าาา ใช้สติๆนะคะ”
