สวัสดีครับ ผมปีเตอร์กวง ควงมือถือ พิธีกรรายการ “ล้ำหน้าโชว์” ที่ตอนนี้รายการได้ออกอากาศไปแล้ว ซึ่งรายการนี้ผลิตและสร้างสรรค์โดย บริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด ที่เราทั้งสาม (พี่หลาม ปีเตอร์กวง อาจารย์ศุภเดช) ได้ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ด้วยกันเพื่อให้ผู้ชมได้บริโภคสาระดีๆ ที่ให้ความรู้ด้านไอทีและเทเลคอม บวกความบันเทิงตามสไตล์แบบของพวกเราไปด้วย โดยออกอากาศทางช่อง Nation Channel (เนชั่นแชนนอล) ดูได้ทั้งทางทีวีดาวเทียมทางช่อง 32 และทีวีดิจิตอลช่อง 22 ทุกวันอาทิตย์ ออกอากาศสด เวลา 15:00-16:00 อยากให้ติดตามกันเยอะๆนะครับ แล้วบ่ายวันอาทิตย์ของคุณ จะมีความหมายมากกว่าเดิม… สำหรับตัวผมเองก็ยังประจำการใน What Phone Magazine ทุกเดือนเหมือนเช่นเคยครับ เพื่อไขข้อข้องใจและเก็บ ตกข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการเทเลคอม ทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ สำหรับฉบับนี้จะมาพูดเรื่องของ ดิจิตอลทีวี กับ สมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันเริ่มเป็นสิ่งใกล้ๆ เข้ามาหากันมากยิ่งขึ้น
Digital TV – DVB-T2 มาตรฐานใหม่สำหรับการดูทีวีของโลกนี้
จากอดีตจนถึงปัจจุบันพวกเราดูทีวีที่เป็นแบบ ฟรีทีวี ผ่านระบบออกอากาศแบบเดิมที่เราเรียกกันว่าแบบอนาล็อคทีวี มีการส่งสัญญาณแบบภาคพื้นดิน ซึ่งปัจจุบันมีการให้บริการตามช่องฟรีทีวีของเราอย่างช่อง 3, 5, 7, 9, NBT, Thai PBS (มาตรฐาน PAL, NTSC, NICAM) ซึ่งความชัดเจนนั้นก็เป็นแค่แบบ SD (Standard Definition) เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเก่าเอามากๆ ประเทศที่ใช้อยู่ในโลกก็มีน้อยลงไปทุกที แต่สำหรับมาตรฐานแบบ Digital – DVB-T2 (Digital Video Broadcasting – Terrestrial Generation 2) คือการออกอากาศทีวีในการส่งสัญญาณแบบดิจิตอลภาคพื้นดิน ยุคที่สอง ซึ่งการส่งสัญญาณแบบดิจิตอล นั้นทำให้คุณภาพการส่งสัญญาณภาพไปสู่ทีวีของทุกบ้านได้คุณภาพที่สูงขึ้นภาพคมชัดมากกว่าเดิม รวมถึงสามารถส่งข้อมูลที่จำเป็นเช่นข้อมูลรายการที่กำลังรับชม หรือข้อมูลตารางการออกอากาศไปยังปลายทางได้ นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญญาณออกอากาศภาพที่ความละเอียดได้ทั้งแบบ HD (High Definition – ความละเอียด 720p) และ SD (Standard Definition – ความละเอียด 576p)
แน่นอนในการรับชมนั้น ตัวภาครับอย่างโทรทัศน์ตามบ้านของทุกคน จะต้องมีเสาอากาศในการรับสัญญาณ เพราะสัญญาณส่งมาในแนวภาคพื้นดิน ต่างจากการรับชมทีวีดาวเทียวที่เราคุ้นเคยกันอีกแบบ ที่ต้องมีจานดาวเทียมเพื่อรับสัญญาณที่ส่งมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่นอกโลกนั่นเอง จุดเด่นของการออกอากาศและส่งสัญญาณแบบดิจิตอลคือ สัญญาที่ได้จะมีความแน่นอน มีความคมชัดสูง ให้นึกการเปรียบเทียบกับสมัยที่เราใช้โทรศัพท์มือถือยุคแรกที่เป็นยุคอนาล็อค สัญญาณจะไม่ค่อยดี โดนรบกวนง่าย มีคลื่นแทรก พอเปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์มือถือยุคดิจิตอล (หรือ GSM) สัญญาณจะชัดกว่าแบบเดิมมากและไม่พบปัญญาของการที่สัญญาณจะโดนคลื่นแทรกแต่อย่างใด ปัจจุบันมาตรฐาน DVB-T2 นั้นถือว่าเป็นมาตรฐานการออกอากาศโทรทัศน์ที่ใหม่และทันสมัยที่สุด มีประเทศที่ใช้แล้วอยู่ประมาณ 25 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ, สวีเดน, เดนมาร์ก, เบลเยียม, ฟินแลนด์, อินโดนีเซีย, นิวซีแลนด์, รัสเซีย, ออสเตรีย, เซอร์เบีย, โรมาเนีย, เวียดนาม เป็นต้น
Digital TV ในบ้านเรา เปลี่ยนผ่านสู่สิ่งที่ดีกว่า
ย้อนความสักนิดหนึ่ง หลังจากที่ทาง กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) โดยการบริหารจัดการของ กสท.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์) ได้ทำการเปิดประมูลใบอนุญาตเพื่อใช้ประกอบการกิจการโทรทัศน์ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นครั้งแรก (ปลายปี 56) ในการเปิดให้บริการทีวีแบบเสรี ไม่ยึดติดกับระบบสัมปทานแบบเดิมที่มีเพียง 6 ช่องประกอบการเท่านั้น ซึ่งจากการประมูลนั้นมีบริษัทเอกชนต่างๆ ได้ใบอนุญาตในการประกอบกิจการโทรทัศน์ไปถึง 24 ช่อง โดยแบ่งออกเป็นการออกอากาศแบบ HD (High Definition) 7 ช่อง และแบบ SD (Standard Definition) 17 ช่องด้วยกัน จนวันนี้ผู้ประกอบการได้ทำออกอากาศทีวีดิจิตอลมาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การติดต่อโครงค่ายการให้บริการเพื่อเกิดการครอบคลุมทั่วประเทศก็เป็นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีพื้นที่การรับชมทั่วประเทศภายในปี 58 นี้
ขณะที่ผู้บริโภคก็ต้องหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการรับชม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อทีวีรุ่นใหม่ๆ ที่เริ่มรองรับมาตรฐาน ทีวีดิจิตอลแบบ DVB-T2 ที่บริษัททีวีต่างๆ เริ่มนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่เมื่อกลางปี 56 ที่ผ่านมา หรือถ้าบ้านใดยังไม่อยากเปลี่ยนทีวีในบ้านเพราะอาจจะเพิ่งซื้อมาไม่กี่ปี ก็มีบริษัทเอกชนต่างๆ มากมายได้ทำการพัฒนาและทำการจำหน่ายกล่องแปลงสัญญาณ DVB-T2 ที่ออกมาขายกันเต็มบ้านเต็มเมืองมาใช้ได้เหมือนกัน และเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาการเปลี่ยนภาพในเรื่อง Digital TV ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง กสทช. ก็ได้ทำการแจกคูปองเพื่อแลกซื้อกล่องแปลงสัญญาณ DVB-T2 ให้กับทุกครัวเรือนเพื่อให้ประชาชนได้สะดวกต่อการที่จะเปลี่ยนไปดู Digital TV ได้ง่ายขึ้น โดยคูปองนั้นมีมูลค่า 690 บาท คาดว่าในปี 2557 ที่ผ่านมา ได้มีการแจกไปแล้วกว่า 14.17 ล้านครัวเรือน ครอบคลุม 42 จังหวัด และจะทยอยแจกต่อไปเพื่อให้ครบภายในเดือนมีนาคม 2558 นี้ ทำให้แน่ใจได้ว่าประเทศไทยนั้นกำลังก้าวเข้าสู่โทรทัศน์ดิจิตอลแบบสมบูรณ์ในปีหน้านี้อย่างแน่นอน ขณะที่ทีวีระบบเก่านั้นจะมีการออกอากาศให้บริการถึงปี 2563 หรืออีกห้าปีข้างหน้า
เมื่อการดูทีวีกลับมาอยู่บนมือถืออีกครั้ง
ในสมัยก่อน ก่อนที่ยุคดิจิตอลทีวีจะมาถึงนั้นผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านต้องเคยซื้อโทรศัพท์มือถือที่มีภาครับทีวีในตัวเป็นแน่ ซึ่งมีการทำกันมากมายมาเมื่อหลายปีก่อน โดยเฉพาะผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือมีทีวีในตัวอย่าง i-mobile ทำให้เราได้เห็นและใช้เทคโนโลยีตรงนี้กันมานาน โดยในระบบทีวีแบบอนาล็อคที่เราดูๆ กันนั้น เทคโนโลยีที่ใส่ในโทรศัพท์มือถือนั้นไม่ซับซ้อนมาก แค่มีชิปตัวแปลงสัญญาณทีวีที่ใช้กันมากมายมาใส่ในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นแบบปุ่มกด หรือแบบจอสัมผัส พร้อมกับเสาอากาศที่ติดในเครื่อง ก็สามารถดูโทรทัศน์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สังเกตได้จากแม่ค้าขายของที่อยู่ในตลาด ชนชั้นแรงงานต่างๆ ก็สามารถดูโทรทัศน์ได้อย่างง่ายดายบนฝ่ามือ
จนมาปีที่แล้วยุคของทีวีกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอลทีวี ทาง i-mobile ก็ได้เล็งเห็นเรื่องนี้เป็นสำคัญ ในฐานะผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือชั้นนำยี่ห้อไทยยี่ห้อเดียวที่ยืนหยัดต่อสู้กับแบรนด์ต่างชาติได้เป็นอย่างดีจนมียอดขายสูงไม่แพ้ยี่ห้อต่างชาติเลย i-mobile ได้ทำการพัฒนาสินค้าของตัวเองนั่นคือ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน Android ที่มีฟังก์ชั่นการรับชมดิจิตอลทีวีตามมาตรฐาน DVB-T2 ได้เป็นรายแรกในไทย ซึ่งรุ่นแรกที่ออกมาก็คือ i-mobile IQ 5.8 DTV หน้าจอ 5” qHD CPU Quad-Core 1.2 GHz, RAM 1 GB, ROM 4 GB โดยสเปคสำคัญของการพัฒนาสมาร์ทโฟนให้สามารถรับชมดิจิตอลทีวีได้นั้นอยู่ที่ Digital TV DVB-T2 Decoder Chip ซึ่งในปี 2557 นั้นทาง i-mobile เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเจ้าเดียวในไทยที่ได้ลิขสิทธิ์ Chip ตัวนี้ ทำให้เราได้เห็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Android ของ i-mobile ที่ออกเมื่อปีก่อน ล้วนแล้วแต่สนับสนุนและรองรับการใช้งานเพื่อดู ดิจิตอลทีวีทั้งสิ้น
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ Chip CPU ต้องเป็นแบบ Quad-Core CPU จะช่วยทำให้ประมวลผลของภาพดิจิตอลทีวีเป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งการดูแบบนี้ถือว่าเป็นการดูแบบ Free-to-air ทำให้ไม่เสียค่าบริการการใช้งานแต่อย่างใด และไม่มีการใช้งานดาต้าอีกด้วย เพราะฉะนั้นผู้บริโภคที่ซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่รองรับดิจิตอลทีวีไม่ว่ารุ่นใดของทาง i-mobile ก็จะดูดิจิตอลทีวีได้ฟรีทั้งนั้นครับ โดยปัจจุบันก็มีออกมาแล้วกว่า 16 รุ่น ราคาต่ำสุดก็ไม่ถึง 3 พันบาท โดยรุ่นล่าสุดได้แก่รุ่น IQ-X Leon, IQ-X WIZ, IQ-X Ozzy, IQ 5.9 DTV, IQ 512 DTV เป็นต้น
อนาคตของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มี Digital TV
สำหรับเทรนด์ในปีนี้ ผมฟันธงเลยว่าโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มี Digital TV ในตัวจะได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างสูงอย่างแน่นอน เพราะสืบเนื่องจากการให้บริการที่จะครอบคลุมไปทั่วประเทศ เนื้อหาที่ถูกผลิตกันอย่างมากมายบนสถานีดิจิตอลทีวีใหม่ถึง 24 ช่อง โดยเฉพาะเรื่องราคาที่คาดการณ์ว่าจะต่ำลงไปอีก คาดว่าจะมีรุ่นเล็กในราคาต่ำกว่าสองพันบาทเกิดขึ้นแน่ๆ โดยมี i-mobile เป็นผู้นำต่อไปในเรื่องนี้ และอาจจะมีแบรนด์จีนต่างๆ หันมาทำกันอีกมากมายด้วย แต่คาดว่าส่วนใหญ่จะมีราคาไม่เกินหมื่นบาท
ขณะที่ความคาดหวังของการพัฒนาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มี Digital TV จากแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Samsung, LG, HTC, Oppo, Sony น่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะว่าแบรนด์ใหญ่เหล่านั้นพัฒนาการของสินค้าจะอิงจาก Product Roadmap ของสำนักงานใหญ่ พูดง่ายๆ ว่ามีรุ่นไหนออกมาก็เอามาทำตลาดในรุ่นนั้นตามกันไป ไม่ได้ดัดแปลงสเปคแต่อย่างใด แต่ถ้าทิศทางความนิยมของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มี Digital TV ในตัวได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น และกระทบกับสินค้าอื่นๆ ที่ไม่มีฟังก์ชั่นดิจิตอลทีวีนี้ เราก็คงอาจได้เห็น Samsung, Sony, LG หันมาทำโทรศัพท์มือถือที่มีดิจิตอลทีวี อย่างที่ในอดีต Samsung เคยทำโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นอนาล็อคทีวีกันมาแล้วก็เป็นได้ แต่อย่างเร็วก็น่าจะปลายปี 2558 นู่นละนะผมคาดการณ์ไว้ แต่ถ้าระหว่างนี้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนใครที่ไม่มีฟังก์ชั่น Digital TV ในตัว (แม้แต่ iPhone, Galaxy Series, Xperia Series) ก็แนะนำให้ไปหาโหลดแอพฯ ดูทีวีที่มีกันอยู่มากมายใน App Store ต่างๆ กันนะครับ (เวลาใช้ก็จะกินดาต้าไปด้วย ไม่ฟรีนะครับ ยกเว้นไปใช้งานผ่าน Wi-Fi กันนะจ๊ะ) เท่านี้ก็ทำให้คุณไม่ตกยุคตกข่าวกันอีกต่อไป
สำหรับแฟนๆ ท่านใดที่มีคำถาม สามารถติดตามมาได้ที่ twitter ของผม @peter2514 นะครับ ส่วน facebook ตามมาได้ที่ www.facebook.com/Peerapol หรือจะติดตาม Instagram ก็ Search หา ID “peter2514” ได้นะครับ แล้วเจอกันใหม่ฉบับหน้านะครับ ขอบคุณทุกการติดตามครับ J
