มือสองต้องเลือก (Whatphone)
สวัสดีสำหรับเดือนมิถุนายน 2558 กลางปีแล้วครับ เผลอแปบเดียวเท่านั้นเอง ช่วงนี้แวดวงสมาร์ทโฟน – ไอทีอาจจะเงียบไปบ้าง แต่มีรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวไม่เว้นวันเลยทีเดียว อย่าง Zenfone 2 จาก Asus ได้ฤกษ์วางจำหน่ายซะที หลังเลื่อนมาจากงาน #mobileexpo เดือนก่อน นอกจากนี้ยังมีคิวของ LG G4 เรือธงล่าสุดจาก LG วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีรุ่นเด็ดอย่าง Huawei P8 ตัวแรงเตรียมวางจำหน่ายเช่นกัน สำหรับวันนี้มือสองต้องเลือกมี 3 โมเดลจากแบรนด์ชั้นนำมานำเสนอเช่นเคย บางรุ่นยังคงน่าใช้งานครับ เพราะมีอัพเดทซอฟท์แวร์พร้อมฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ มาเสริม แม้จะวางจำหน่ายมานานแล้วก็ตาม แน่นอนว่าคุณสามารถหามาใช้งานได้แบบราคาสบายกระเป๋าสุดๆ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเสมอไป : )
Sony Xperia Z2
อดีตเรือธงของค่ายมือถือแดนปลาดีบ ได้รับความนิยมไม่น้อยจากการออกแบบลงตัวในรูปแบบ Omni-Balance จนเพิ่งมาปรับดีไซน์บางส่วนเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับ Sony Xperia Z2 มีจุดขายหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (1920 x 1080 พิกเซล) แสดงผลดีกว่า Xperia Z1 เดีม, บอดี้เฟรมโลหะ ทนทานพร้อมสัมผัสพรีเมี่ยม สามารถกันน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร (30 นาที) ส่วนละอองน้ำกันได้สบายๆ เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 801 + RAM 3 GB ด้านซอฟท์แวร์ล่าสุดอัพ Android 5.0.2 Lollipop แล้ว ลื่นสุดๆ ติดกล้อง 20.7 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE และตอนนี้สามารถหาซื้อมาใช้งานด้วยงบประมาณเพียงหมื่นต้นๆ เท่านั้นเอง
คุณสมบัติเด่น
– ขนาด 146.8 x 73.3 x 8.2 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 163 กรัม
– รองรับคลื่นความถี่ 3G (850/900/1900/2100 MHz), รองรับ 4G LTE
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว (ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล), รองรับมัลติทัช
– เมโมรี่ภายใน 16 GB, เพิ่ม microSD สูงสุด 64 GB
– ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 801 ความเร็ว 2.3 GHz, RAM 3 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 พร้อม Sony UX
– เชื่อมต่อ WiFi (802.11 b/g/n), บลูทูธ 4.0 + NFC
– กล้องความละเอียด 20.7 เมกะพิกเซล (+AF, TF) บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K (3840 x 2160 พิกเซล), กล้องหน้าความละเอียด 2.2 เมกะพิกเซล
– แบตเตอรี่ Li-ion ความจุ 3,200 มิลลิแอมป์
จุดด้อย
– คุณภาพรูปถ่ายจากกล้องไม่ดีเท่าที่ควร
– จุกปิดพอร์ทมีโอกาสเสื่อมสภาพ
– น้ำหนักมาก
ฟันธง
ทุกวันนี้มีสมาร์ทโฟน Android สามารถกันน้ำ – ความชื้นอยู่ไม่กี่รุ่นครับ ถ้าต้องการรุ่นสเปคแจ่มหน่อย ประสิทธิภาพสูง และราคาไม่แพงนัก Xperia Z2 จาก Sony ก็เป็นทางเลือกที่โอเคอยู่เหมือนกัน ด้วยสเปคหน้าจอสวยคม 5.2 นิ้ว, ระบบเสียง ClearAudio พร้อมเครื่องเล่นเพลง Walkman, กล้องความละเอียดสูง 20.7 เมกะพิกเซล มีโหมดการใช้งานมากมาย ลูกเล่นแปลกๆ เพียบ ลงแอพพลิเคชั่นเสริมเพิ่มเติมจาก Play Store ได้ เชื่อมต่อ NFC ใช้งานอุปกรณ์เสริม ฯลฯ รุ่นนี้รองรับ 4G LTE นะครับ แถมมีสีสันให้เลือกพอสมควร กับราคามือสองประมาณ 12,000 บาท ลองเลือกซื้อหามาใช้งานได้เลย
OPPO Mirror 3
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO วางจำหน่ายช่วงงาน #mobileexpo ครั้งก่อนหน้า รอบนี้กลับมาอีกรอบกับดีไซน์รูปแบบใหม่ ขนาดกะทัดรัดสวยงามกว่าเดิม หน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 410 ประมวลผล 64-Bit ติดกล้องเทคโนโลยี Pure Image 2.0 ความละเอียด 8 เมกะพิกเซล โหมดการใช้งานเพียบ ! รันบน Android 4.4.4 (Color OS 2.0) ลูกเล่นด้าน Gesture สั่งงานด้วยการวาด / สัมผัสหน้าจอรูปแบบต่างๆ ดีไซน์สวยงาม รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และ 4G LTE ในตัวเดียว นอกจากนี้ยังรองรับ Quick Charge ชาร์จแบตเตอรี่เร็วขึ้นกว่าปกติ ผ่านวอลชาร์จที่แถมมาในชุดขาย ของแบบนี้ต้องลองครับ ราคามือสองไม่แพงซะด้วย
คุณสมบัติเด่น
– ขนาด 137.7 x 68.8 x 8.9 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 130 กรัม
– รองรับคลื่นความถี่ 3G (850/900/2100 MHz), รองรับ 4G LTE-ใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล), รองรับมัลติทัช
– เมโมรี่ภายใน 8 GB, เพิ่ม microSD สูงสุด 64 GB
– ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 410 ความเร็ว 1.2 GHz, RAM 1 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 พร้อม Color OS 2.0
– เชื่อมต่อ WiFi (802.11 b/g/n), บลูทูธ 4.0
– กล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล (+AF, TF) บันทึกวิดีโอความละเอียด FHD (1920 x 1080 พิกเซล), กล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล
– แบตเตอรี่ Li-ion ความจุ 2,000 มิลลิแอมป์
จุดด้อย
– RAM 1 GB เปิดแอพฯ หลายตัวจะหน่วงพอสมควร
– ยังไม่กำหนดอัพเกรด Android 5.0
– ระดับราคานี้มีตัวเลือกอื่นๆ อีกมาก
ฟันธง
OPPO พัฒนา Mirror 3 มาค่อนข้างครบเครื่องครับ ฟีเจอร์การใช้งานมากขึ้นบน Color OS 2.0 (บน Android 4.4.4) มีทั้งระบบ Gesture สั่งงานด้วยท่าทาง, อินเตอร์เฟส – เมนูการใช้งานปรับเปลี่ยน รวมถึงกล้องมีลูกเล่นมากขึ้น สามารถถ่ายภาพแบบ Slow-Shutter, Double Exposure ฯลฯ ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวมักจะเห็นบนมือถือราคาแพง นอกจากนี้ยังเอาใจขา Selfie ด้วยโหมด Beauty สูตรลับเฉพาะของ OPPO เช่นเดีม อื่นๆ ตามที่กล่าวไปตอนแรกคือ รองรับ 4G LTE, 2 ซิมการ์ด ลูกเล่นด้าน Gesture ฯลฯ สามารถหาซื้อมือสองมาใช้งานได้ที่ราคาราวๆ 5,000 บาทครับ
Wiko RIDGE
เป็นรุ่นที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จด้วยสเปคแรงจนหลายคนบอกต่อ แม้แบรนด์ Wiko จะเพิ่งทำตลาดไม่นานนัก พร้อมราคา 4,990 บาท ได้หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว บางเพียง 7.5 มิลลิเมตร, ชิพประมวลผล Octa-Core 1.4 GHz + RAM 2 GB เหนือกว่าหลายรุ่นในระดับราคาเดียวกัน รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 2,400 mAh ถึงจะไม่รองรับ 4G LTE แต่ก็มีผู้ใช้สนใจไม่น้อย โดย #mobileexpo ครั้งที่ผ่านมามีสีสันใหม่ (Arctic Gold) วางจำหน่ายด้วย แต่มือสองอาจจะหายากสักหน่อย เพราะของยังใหม่ครับ ถ้านึกไม่ออกว่าเป็นอย่างไร ลองหาเล่นตาม Shop ที่วางจำหน่ายก่อนก็ดีจ้า
คุณสมบัติเด่น
– ขนาด 143 × 72.15 × 7.5 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 123 กรัม
– รองรับคลื่นความถี่ 3G (850/900/2100 MHz), ใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.0 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล), รองรับมัลติทัช
– เมโมรี่ภายใน 16 GB, เพิ่ม microSD สูงสุด 64 GB
– ชิพประมวลผล Mediatek MT6592M ความเร็ว 1.4 GHz, RAM 2 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2
– เชื่อมต่อ WiFi (802.11 b/g/n), บลูทูธ 4.0
– กล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล (+AF, TF) บันทึกวิดีโอความละเอียด FHD (1920 x 1080 พิกเซล), กล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล
– แบตเตอรี่ Li-ion ความจุ 2,400 มิลลิแอมป์
จุดด้อย
– ลูกเล่นมีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
– ไม่รองรับ 4G LTE
– ไม่มีแผนอัพเดทเป็น Android 5.0
ฟันธง
สำหรับ Wiko Ridge ก็เป็นอีกตัวเลือกหากคุณกำลังหาสมาร์ทโฟน Android มือสองสภาพดี สเปคเร็วแรง ราคาคุ้มค่ามาใช้งานครับ สเปคภาพรวมสูงทีเดียว ทั้งหน้าจอขนาดพอดีมือ ชิพประมวลผลระดับ Octa-Core กล้องความละเอียดสูง และตัวซอฟท์แวร์ทำมาค่อนข้างลื่นไหล รุ่นนี้รองรับ 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Play Store ตามปกติ ทั้งนี้ยังมีอีกหลายรุ่นให้เลือกระดับราคาเดียวกัน เช่น Zenfone 5 LTE, Huawei Alek 4G หรือจะเป็น RIDGE FAB 4G จาก Wiko ซึ่งเป็นรุ่นสูงกว่าก็สามารถหาซื้อได้เช่นกัน โดยรุ่นนี้ราคามือสองประมาณ 3 พันปลายๆ ครับ
